Under the optimized conditions, cal

Under the optimized conditions, calibration curves were
sketched for the determination of cadmium and lead ions
according to the general procedure. Linearity was maintained
0.5–110 lg L1 for cadmium and 2–300 lg L1 for lead in initial
solution. The coefficient of determination (r
2
) was 0.995 for cadmium
and 0.997 for lead ions. The limit of quantification was 0.5
for cadmium and 2 lg L1 for lead ions, respectively. The limit of
detection which is defined as CLOD = 3Sb/m, where Sb is the
standard deviation of ten replicate blank signals, and m is the slope
of the calibration curve after preconcentration, for a sample volume
of 50 mL, was found to be 0.2 lg L1 for cadmium and 1.2 lg L1 for
lead ions, respectively. Also, the preconcentration factors calculated
as the ratio between the slopes of the calibration curves acquired by
the proposed method (Y = 16.76X + 0.001 (cadmium ions) and
Y = 3.84X + 0.019 (lead ions)) and through the direct analysis of cadmium
and lead ions by FAAS (Y = 0.056X 0.002 (cadmium ions)
and Y = 0.028X 0.022 (lead ions)), were found to be 299.3
(16.76/0.056 = 299.3) and 137.1 (3.84/0.028 = 137.1) for cadmium
and lead ions, respectively. The relative standard deviations for
eight separate extraction experiments for determination of
50 lg L1 of cadmium and lead ions was 2.8% and 2.2%, respectively.
Table 2 shows a comparison between the proposed method
and other previously reported methods.
3.10.

Results (Thai) 1:

ภายใต้เงื่อนไขเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับแต่งเส้นโค้งได้ร่างแผนสำหรับกำหนดประจุแคดเมียมและตะกั่วตามขั้นตอนทั่วไป แบบดอกไม้ถูกรักษาไว้0.5 – 110 lg L1 แคดเมียมและ lg 2 – 300 L1 สำหรับในเริ่มต้นการแก้ปัญหา ค่าสัมประสิทธิ์ของความมุ่งมั่น (r2) ได้ 0.995 สำหรับแคดเมียมและ 0.997 สำหรับนำประจุ จำนวนนับคือ 0.5แคดเมียมและ lg 2 L1 สำหรับลูกค้าเป้าหมายกัน ตามลำดับ ข้อจำกัดของตรวจสอบซึ่งกำหนดไว้เป็น CLOD = 3Sb/m, Sb อยู่ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของสิบจำลองสัญญาณว่าง และ m คือ ความชันเทียบเส้นโค้งหลัง preconcentration สำหรับไดรฟ์ข้อมูลตัวอย่างของ 50 mL พบ 0.2 lg L1 สำหรับแคดเมียมและ lg 1.2 L1 สำหรับนำประจุ ตามลำดับ ยัง ปัจจัย preconcentration ที่คำนวณเป็นอัตราส่วนระหว่างลาดโค้งเทียบมาด้วยวิธีการนำเสนอ (Y = 16.76 X + 0.001 (แคดเมียมประจุ) และY = 3.84 X + (รอกัน) 0.019) และ ผ่านการวิเคราะห์โดยตรงของแคดเมียมและนำประจุ โดย FAAS (Y = 0.056 X 0.002 (แคดเมียมประจุ)และ Y = 0.028 X 0.022 (รอกัน)), พบจะ 299.3(16.76/0.056 = 299.3) และ 137.1 (3.84/0.028 = 137.1) สำหรับแคดเมียมและนำประจุ ตามลำดับ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์สำหรับ8 ทดลองแยกต่างหากสำหรับการกำหนดlg 50 L1 ของประจุแคดเมียมและตะกั่วเป็น 2.8% และ 2.2% ตามลำดับตารางที่ 2 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างวิธีการนำเสนอและวิธีอื่น ๆ รายงานไปก่อนหน้านี้3.10

Results (Thai) 2:

ภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุดเส้นโค้งการสอบเทียบที่ได้รับร่างสำหรับการกำหนดของแคดเมียมและตะกั่วไอออนเป็นไปตามขั้นตอนทั่วไป เส้นตรงก็ยังคง0.5-110 LG L1 สำหรับแคดเมียมและ 2-300 LG L1 เพื่อนำเริ่มต้นในการแก้ปัญหา ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (R 2) เป็น 0.995 สำหรับแคดเมียมและ0.997 ไอออนตะกั่ว ขีด จำกัด ของปริมาณ 0.5 สำหรับแคดเมียมและ 2 LG L1 ไอออนตะกั่วตามลำดับ ขีด จำกัด ของการตรวจสอบที่ถูกกำหนดให้เป็นก้อนดิน= 3SB / m ที่ Sb เป็นส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของสิบซ้ำสัญญาณว่างเปล่าและ m เป็นความชันของเส้นโค้งการสอบเทียบหลังจากที่เข้มข้นสำหรับปริมาณตัวอย่าง50 มิลลิลิตรพบว่า 0.2 LG L1 สำหรับแคดเมียมและ 1.2 LG L1 สำหรับไอออนตะกั่วตามลำดับ นอกจากนี้ปัจจัยที่เข้มข้นคำนวณเป็นอัตราส่วนระหว่างความลาดชันของเส้นโค้งการสอบเทียบที่ได้มาโดยวิธีการที่นำเสนอ(Y = 16.76X + 0.001 (ไอออนแคดเมียม) และY = 3.84X + 0.019 (ไอออนตะกั่ว)) และผ่านการวิเคราะห์โดยตรงของ แคดเมียมและไอออนตะกั่วโดยFAAS (Y = 0.056X 0.002 (ไอออนแคดเมียม) และ Y = 0.028X 0.022 (ไอออนตะกั่ว)) พบว่ามี 299.3 (16.76 / 0.056 = 299.3) และ 137.1 (3.84 / 0.028 = 137.1) สำหรับ แคดเมียมและไอออนตะกั่วตามลำดับ เบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์สำหรับแปดทดลองสกัดที่แยกต่างหากสำหรับการตัดสินใจของ50 LG L1 แคดเมียมและตะกั่วไอออนเป็น 2.8% และ 2.2% ตามลำดับ. ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการเปรียบเทียบระหว่างวิธีการที่นำเสนอและวิธีการรายงานก่อนหน้านี้. 3.10

Results (Thai) 3:

ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมคือ เส้นโค้งสอบเทียบ
ร่างสำหรับการวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมและตะกั่วไอออน
ตามขั้นตอนทั่วไป การตรวจวัดและรักษา
0.5 – 110 LG L1 แคดเมียมและตะกั่ว 2 – 300 LG L1
เริ่มต้นแก้ปัญหา ค่าสัมประสิทธิ์ตัวกำหนด ( R
2
) เท่ากับ 0.995 และสำหรับแคดเมียม
0.997 ไอออนตะกั่ว ขีดจำกัดของปริมาณ 0.5
แคดเมียม และ 2 ) l1 ไอออนตะกั่ว ตามลำดับ ขีด จำกัด ของ
ตรวจจับซึ่งหมายถึงดิน = 3sb / m ที่ SB เป็น
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของสิบทำซ้ำสัญญาณว่าง และเป็นทางลาดชัน
ของรูปโค้งหลังทดลอง สำหรับตัวอย่างปริมาณ
50 มิลลิลิตร พบว่าเป็น 0.2 LG LG L1 L1 แคดเมียมและ 1.2 สำหรับ
ไอออนตะกั่ว ตามลำดับ นอกจากนี้ปัจจัยทดลองคำนวณ
เมื่ออัตราส่วนระหว่างความชันของเส้นโค้งสอบเทียบที่ได้มาโดยวิธีที่เสนอ (
y = 16.76x 0.001 ( ไอออนแคดเมียม ) และ
y = 3.84x 0.019 ( ตะกั่วไอออน ) และผ่านการวิเคราะห์ของแคดเมียมและตะกั่วโดย
ไอออนโดย FAAS ( Y = 0.002 ( ไอออนแคดเมียม )
0.056x และ y = 0.028x 0.022 ( ตะกั่วไอออน ) ) พบว่ามี 299.3
( 16.76/0.056 = 299.3 ) และ 137.1 ( 3.84/0 .028 = 137.1 ) สำหรับแคดเมียมและตะกั่วไอออน
, ตามลำดับ เบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์สำหรับ
8 การทดลองการสกัดแยกต่างหากสำหรับการหา
50 LG L1 ของแคดเมียมและตะกั่วไอออน 2.8% และ 2.2 ตามลำดับ
ตารางที่ 2 แสดงการเปรียบเทียบระหว่างวิธีการและวิธีการอื่น ๆรายงานก่อนหน้านี้
.
3.10 .