It means learning to overcome the c

It means learning to overcome the conditioned belief that armed force is an acceptable way of dealing with disputes. It's a human weakness, not a strength, to solve problems with cruelty, brutality and murder. As a species we have already matured enough for modern societies to decide that wartime atrocities are crimes; people can be arrested for them, tried and punished. Now we should realise that war is itself a crime against humanity, and grow wise enough to solve our problems another way. CONTINUE

Results (Thai) 1:

หมายถึง การเรียนรู้ที่จะเอาชนะการปรับอากาศความเชื่อว่าอาวุธบังคับเป็นวิธียอมรับได้จัดการกับข้อโต้แย้ง จึงเป็นจุดอ่อนมนุษย์ ไม่มีแรง การแก้ปัญหา ด้วยโหดร้าย ความโหดร้าย และฆาตกรรม เป็นพันธุ์เรามีแล้ว matured พอสำหรับสังคมสมัยใหม่ในการตัดสินใจความโหดร้ายในยามสงครามอาชญากรรม คนสามารถจับกุมพวกเขา พยายาม และลงโทษ ตอนนี้เราควรตระหนักว่า สงครามเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเอง และเจริญเติบโตฉลาดพอที่จะแก้ปัญหาของเราอีกทางหนึ่ง ดำเนินการต่อไป

Results (Thai) 2:

มันหมายถึงการเรียนรู้ที่จะเอาชนะความเชื่อปรับอากาศที่กองกำลังติดอาวุธเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับในการจัดการกับข้อพิพาท มันเป็นความอ่อนแอของมนุษย์ไม่ได้มีความแข็งแรงเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับความโหดร้ายทารุณและการฆาตกรรม เป็นชนิดที่เราได้ครบกำหนดแล้วพอสำหรับสังคมสมัยใหม่ในการตัดสินใจในช่วงสงครามโหดเป็นอาชญากรรมที่; คนสามารถจับพวกเขาพยายามและการลงโทษ ตอนนี้เราควรตระหนักว่าสงครามเป็นตัวเองอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการเติบโตฉลาดพอที่จะแก้ปัญหาของเราอีกทางหนึ่ง ดำเนินการต่อ

Results (Thai) 3:

มันหมายถึงการเรียนรู้ที่จะเอาชนะเงื่อนไขที่ว่า กองทัพเป็นวิธีที่ยอมรับได้ของการจัดการกับข้อพิพาท มันเป็นจุดอ่อนของมนุษย์ ไม่ใช่ความแข็งแกร่ง เพื่อแก้ปัญหากับความโหดร้าย , ความอำมหิตและฆาตกรรม เป็นสายพันธุ์ที่เราได้เป็นผู้ใหญ่เพียงพอสำหรับสังคมสมัยใหม่ที่จะตัดสินใจว่าสงครามโหดเป็นอาชญากรรม คน สามารถ จับ พวกเขา พยายาม และลงโทษตอนนี้เราควรจะตระหนักว่าสงครามเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และเติบโต ฉลาดพอที่จะแก้ปัญหาของเราได้อีกทางหนึ่ง ต่อไป