constructing a coherent experience

constructing a coherent experience in time the
artist must aid the viewer in making sense
of the many successive images.
Abstract filmmakers also turned their
attention to the problem of rhythm. John
Whitney noted that what works in music
does not work in film. What is "often
referred to as the drive of a piece of music,
is almost automatically enhanced with
metrical or cyclical consistency and
repetition. Rock musicians know
this-perhaps too well. On the other hand,
the most difficult visual quality to
compose into a composition, as every
abstract filmmaker may know, is the same
driving propulsive thrust with a visually
rhythmic metrical cycle" [29]. In his
films, Whitney used what he called
"differential dynamics" to achieve the
desired rhythms. He used graphic
harmonics to affect rhythmic patterns.
When the nested polygons in Fig. 4
move, each at a different speed, they create
rhythms.

Results (Thai) 1:

สร้างประสบการณ์ coherent ในเวลาศิลปินต้องช่วยตัวแสดงในความรู้สึกภาพต่อเนื่องหลายบทคัดย่อภาพยนตร์ไว้ของพวกเขาสนใจปัญหาของจังหวะ จอห์นวิทนีย์กล่าวว่า สิ่งที่ทำงานเพลงไม่ทำงานในภาพยนตร์ อะไรคือ "มักจะเรียกว่าเป็นไดรฟ์ของเพลงเกือบจะโดยอัตโนมัติจะเพิ่มด้วยmetrical หรือแบบสอดคล้อง และทำซ้ำ รู้ว่าดนตรีร็อคนี้อาจจะดีขึ้น ในทางตรงข้ามยากที่สุดคุณภาพการประกอบเข้าเป็นองค์ประกอบ เป็นทุกจุดนามธรรมอาจรู้ เหมือนกันขับรถ propulsive กระตุกด้วยการมองเห็นวงจร metrical เป็นจังหวะ" [29] ในเขาฟิล์ม วิทนีย์ใช้สิ่งที่เขาเรียกว่า"ส่วน dynamics" เพื่อให้การแบบที่คุณต้องการ เขาใช้กราฟิกนิคส์มีผลต่อรูปแบบจังหวะเมื่อรูปหลายเหลี่ยมซ้อนกันใน Fig. 4ย้าย แต่ละความเร็วที่แตกต่าง สร้างแบบ

Results (Thai) 2:

การสร้างประสบการณ์การเชื่อมโยงกันในเวลาที่ศิลปินจะต้องช่วยให้ผู้ชมในการทำให้ความรู้สึกของภาพที่ต่อเนื่องหลาย. ผู้สร้างภาพยนตร์บทคัดย่อของพวกเขาก็หันความสนใจไปที่ปัญหาของจังหวะ จอห์นวิทนีย์ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่ทำงานในเพลงไม่ทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ อะไรคือ "มักจะเรียกว่าไดรฟ์ของชิ้นส่วนของเพลงที่เกือบจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยความสอดคล้องกับการวัดหรือวงจรและการทำซ้ำ. ร็อคนักดนตรีรู้นี้บางทีดีเกินไป. บนมืออื่น ๆ , คุณภาพของภาพที่ยากที่สุดที่จะเขียนเป็นองค์ประกอบเช่นทุกอำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่เป็นนามธรรมอาจทราบแล้วว่าเป็นเหมือนการขับรถแทงขีปนาวุธที่มีสายตาวงจรเมตริกจังหวะ"[29] ของเขาในภาพยนตร์วิทนีย์ใช้สิ่งที่เขาเรียกว่า"การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน" เพื่อให้บรรลุจังหวะที่ต้องการ เขาใช้กราฟิกประสานส่งผลกระทบต่อรูปแบบจังหวะ. เมื่อรูปหลายเหลี่ยมซ้อนกันในรูป 4 ย้ายแต่ละที่ความเร็วที่แตกต่างกันที่พวกเขาสร้างจังหวะ

Results (Thai) 3:

การสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกันในเวลา
ศิลปินต้องช่วยดูในการทำให้ความรู้สึกของหลายๆภาพต่อเนื่อง
.
การถ่ายทำภาพยนตร์ นามธรรมก็หันมาสนใจ
ในปัญหาของจังหวะ จอห์นวิทนีย์กล่าวว่าสิ่งที่ทำงานใน
เพลง
ไม่ทำงานในภาพยนตร์ อะไรคือ " มักจะ
เรียกว่าไดรฟ์ของชิ้นส่วนของเพลง ,
เกือบจะโดยอัตโนมัติเพิ่มด้วย

ไม่มีความสอดคล้อง และกาพย์ หรือซ้ำ นักดนตรีร็อครู้
นี้ชอบมากๆ บนมืออื่น ๆ ,


เขียนยากที่สุดคุณภาพของภาพเป็นองค์ประกอบ เป็นทุก
นามธรรม Filmmaker จะทราบว่า มันเหมือนกัน
ขับรถขับดันแทงด้วยสายตา
จังหวะกาพย์รอบ " [ 29 ] ในหนังเขาเรียกวิทนีย์ใช้

" ) ของ " เพื่อให้บรรลุ
ที่ต้องการจังหวะ . เขาใช้กราฟิก
ฮาร์มอนิก ที่จะมีผลต่อรูปแบบการเข้าจังหวะ .
เมื่อซ้อนรูปหลายเหลี่ยมในรูปที่ 4
ย้ายแต่ละที่ความเร็วที่แตกต่างกัน พวกเขาสร้าง
จังหวะ .