Magnetic cataclysmic variable stars

Magnetic cataclysmic variable stars have brightness variations that repeat with each revolution of the two stars about the center of mass of the system. However, in the case of QQ Vulpecula (QQ Vul), this brightness variation pattern changes in the long term. This study makes use of two decades worth of data from the Roboscope Telescope as well as data from the American Association of Variable Star Observers (AAVSO) database to examine the long-term evolution of QQ Vul’s phase curves. Nightly observations using the Maria Mitchell Association's Vestal and Loines Observatories supplemented this analysis by clarifying short-term brightness variation. The long-term data was divided into four commonly observed behavioral types ranging from a double peaked curve of ~15.5 magnitude to a ~15.0 magnitude curve that had a primary minimum and a slow, linear rise in brightness in place of the secondary minimum. The nightly data kept within the confines of these categories, though the secondary minimum in the nightly data never vanished. No periodicity was found in the long-term variations. The model often invoked to explain the double peaked curve consists of single pole accretion in which a partial self-eclipse causes the secondary minimum and cyclotron beaming causes the primary minimum. However, the long-term variation may indicate a changing accretion rate, which may manifest itself in changes to the shape, size, or location of the accretion spot on the white dwarf such that it lessens or removes the secondary minimum. This project was supported by the NSF REU grant AST-1358980, the Massachusetts Space Grant, and the Nantucket Maria Mitchell Association.

Results (Thai) 1:

แม่เหล็กตัวแปรดาวกลียุคมีรูปแบบความสว่างที่ซ้ำกับแต่ละปฏิวัติของสองดาวเกี่ยวกับจุดศูนย์กลางมวลของระบบ อย่างไรก็ตามในกรณีของ QQ Vulpecula (QQ Vul) นี้รูปแบบการเปลี่ยนแปลงความสว่างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว การศึกษาครั้งนี้ทำให้การใช้งานของทั้งสองทศวรรษที่ผ่านมามูลค่าของข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ Roboscope เช่นเดียวกับข้อมูลจากสมาคมอเมริกันของผู้สังเกตการณ์ดาวแปร (AAVSO) ฐานข้อมูลการตรวจสอบวิวัฒนาการในระยะยาวของ QQ Vul ของเส้นโค้งเฟส ข้อสังเกตต่อคืนโดยใช้เวสทัลมาเรียมิทเชลล์สมาคมและ Loines Observatories เสริมการวิเคราะห์นี้โดยการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงความสว่างในระยะสั้น ข้อมูลระยะยาวแบ่งออกเป็นสี่ประเภทพฤติกรรมมักพบตั้งแต่แหลมโค้งที่สองของ ~ 15.5 ขนาดไป ~ 15.0 โค้งขนาดที่มีขั้นต่ำประถมศึกษาและช้า เพิ่มขึ้นในเชิงเส้นสว่างในสถานที่ของขั้นต่ำมัธยมศึกษา ข้อมูลคืนเก็บไว้ภายในขอบเขตของประเภทเหล่านี้แม้ว่าขั้นต่ำมัธยมศึกษาในคืนข้อมูลที่ไม่เคยหายไป ไม่มีช่วงที่พบในรูปแบบระยะยาว แบบจำลองที่มักจะเรียกเพื่ออธิบายโค้งแหลมคู่ประกอบด้วยการเพิ่มเสาเดียวซึ่งในบางส่วนคราสตัวเองทำให้เกิดขั้นต่ำมัธยมศึกษาและ cyclotron ยิ้มแย้มแจ่มใสทำให้ขั้นต่ำหลัก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวอาจบ่งบอกถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มซึ่งอาจประจักษ์เองในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างขนาดหรือสถานที่ตั้งของจุดเพิ่มในสีขาวแคระดังกล่าวว่าจะช่วยลดหรือขจัดขั้นต่ำมัธยมศึกษา โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดย NSF ทุน REU AST-1358980, แมสซาชูเซตอวกาศแกรนท์และมาเรีย Nantucket สมาคมมิทเชลล์

Results (Thai) 2:

ดาวตัวแปร cataclysmic แม่เหล็กมีความสว่างรูปแบบที่ทำซ้ำกับแต่ละการปฏิวัติของสองดาวเกี่ยวกับศูนย์กลางของมวลของระบบ อย่างไรก็ตามในกรณีของ QQ Vulpecula (QQ Vul) รูปแบบความสว่างนี้เปลี่ยนแปลงในระยะยาว การศึกษานี้จะทำให้การใช้งานของข้อมูลสองทศวรรษที่ผ่านมาของกล้องโทรทรรศน์ขอบเขต Roboscope เช่นเดียวกับข้อมูลจากสมาคมอเมริกันของตัวแปรดาวผู้สังเกตการณ์ (AAVSO) ฐานข้อมูลในการตรวจสอบวิวัฒนาการระยะยาวของ QQ Vul ระยะเส้นโค้ง. สังเกตรายคืนโดยใช้ของมาเรียมิทเชลล์สมาคม Vestal และ Loines Observatories เสริมการวิเคราะห์นี้โดยชี้แจงการเปลี่ยนแปลงความสว่างระยะสั้น. ข้อมูลระยะยาวถูกแบ่งออกเป็นสี่ประเภทพฤติกรรมที่สังเกตทั่วไปตั้งแต่เส้นโค้งแหลมคู่ของ ~ ๑๕.๕ขนาดถึงเส้นโค้งขนาด ~ ๑๕.๐ที่มีขั้นต่ำหลักและช้าการเพิ่มขึ้นเชิงเส้นในความสว่างในสถานที่ของขั้นต่ำรอง ข้อมูลรายคืนที่เก็บไว้ภายในขอบเขตของประเภทเหล่านี้แม้ว่าขั้นต่ำที่สองในข้อมูลในเวลาต่อคืนไม่เคยหายไป ไม่มีการพบในความแตกต่างในระยะยาว รูปแบบที่มักจะเรียกเพื่ออธิบายเส้นโค้งแหลมคู่ประกอบด้วยเสาเดียวที่ทำให้ตัวเองเป็นบางส่วนเป็นสาเหตุของการต่ำสุดและ cyclotron beaming ทำให้เกิดขั้นต่ำหลัก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวอาจบ่งบอกถึงอัตราการแก้ไขซึ่งอาจแสดงตัวเองในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างขนาดหรือสถานที่ตั้งของจุดที่เกิดขึ้นบนดาวแคระขาวเช่นที่จะลดหรือลบขั้นต่ำรอง โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดย NSF REU เงินช่วยเหลือ AST-๑๓๕๘๙๘๐, แมสซาชูเซตส์ Space และสมาคม Nantucket มาเรียมิทเชลล์

Results (Thai) 3:

แม่เหล็กขนาดใหญ่ตัวแปรดาวมีความสว่างที่แตกต่างกันและซ้ำกับแต่ละการหมุนของดาวสองดวงรอบศูนย์กลางของมวลของระบบ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของความสว่างจะเปลี่ยนไปในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานของเวลา งานวิจัยนี้ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ RoboCorp สำหรับปีและข้อมูลจากฐานข้อมูล AAVSO เพื่อศึกษาวิวัฒนาการระยะยาวของ QQ-Vul เฟสโค้ง การวิเคราะห์เสริมด้วยการชี้แจงการเปลี่ยนแปลงความสว่างระยะสั้นโดยใช้ Vestal และลูอิสของมาเรียมิทเชลล์หอดูดาว ข้อมูลระยะยาวแบ่งออกเป็นสี่ประเภทพฤติกรรมทั่วไปจากเส้นโค้งไฮเพอร์โบลา 12615.5 เพื่อลดเส้นโค้งของ 12615.0 น้ำหนักและความสว่างช้าแทนที่เส้นโค้งขั้นต่ำทุติยภูมิ ข้อมูลกลางคืนยังคงอยู่ในช่วงของประเภทเหล่านี้แม้ว่าค่าต่ำสุดที่สองในข้อมูลกลางคืนไม่เคยหายไป การเปลี่ยนแปลงระยะยาวไม่ได้เป็นระยะๆ มันมักจะใช้เพื่ออธิบายรูปแบบของเส้นโค้งไฮเพอร์โบลาประกอบด้วยขั้วเดียวซึ่งบางส่วนทำให้เกิดค่าต่ำสุดที่สอง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงระยะยาวอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในอัตราการสะสมซึ่งอาจแสดงการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างขนาดหรือตำแหน่งของจุดบนดาวแคระขาวเพื่อลดหรือขจัดขั้นต่ำทุติยภูมิ โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก nsf รียู AST-135980 มูลนิธิอวกาศแมสซาชูเซตส์และสมาคมมิทเชลล์ natucket