Politics too were problematic after

Politics too were problematic after the Revolution. The Articles of Confederation that had served well enough to form a nation and bring it successfully through the conflict with one of the most powerful nations of the period was an ineffective tool. Despite such successes as the Northwest Ordinance of 1787, most attempts by Congress to govern were ignored by the states. Efforts to strengthen the Articles were thwarted (Links to an external site.) at every turn. Since any change required unanimous agreement, any contention over an issue doomed it to failure.

The futility (Links to an external site.) of attempting to govern under the Articles of Confederation caused even the staunchest (Links to an external site.) supporter of the document to admit its ineffectiveness and admit the need for greater authority for the national government. The problems with the Articles led Congress to schedule a convention to meet in Philadelphia in 1787 to consider the problems with that document. From that meeting would come a new and better document, a document that has stood the United States in good stead for over two centuries: the United States Constitution.

Colonial women performed many tasks after the revolution
States were also gradually coming to see that concern for their own problems could not be their only focus; as members of a union, they needed to be aware of problems that affected each of them as individual states, as well as all of them together as the United States.

Social relations also changed during the Revolution. Many women had broken away from their traditional work to assume the tasks and responsibilities of absent fathers, husbands and sons. In the cities and towns, women of the Revolutionary period functioned as traders, merchants, and craftspersons. In the rural areas, farmers’ wives maintained their own traditional tasks like preparing and cooking meals, cleaning, raising the children, spinning, weaving and making clothes. But they also took on the additional male tasks of plowing, planting and establishing security for their often isolated homesteads. Women also took their place on the battlefields of the Revolution, both in “hands-on” combat positions and as support personnel

Despite the obvious capabilities of Revolutionary women, legally they did not gain from the Revolution. Perhaps the biggest change was their increased self-confidence and their more common participation in activities outside the home environment. They played significant roles in the abolitionist movements that began at the close of the war and continued through the mid-19th century.

Results (Thai) 1:

การเมืองเกินไปได้ไม่มีปัญหาหลังจากการปฏิวัติ ในบทความของสมาพันธรัฐที่มีอาหารดีเพียงพอที่จะสร้างประเทศ และนำสำเร็จผ่านความขัดแย้งของประเทศมีประสิทธิภาพมากที่สุดของรอบระยะเวลา เป็นเครื่องมือไม่ได้ แม้ มีความสำเร็จดังกล่าวเป็นกฤษฎีกาตะวันตกเฉียงเหนือของ 1787 ส่วนใหญ่พยายาม โดยสภาควบคุมถูกละเว้น โดยรัฐ ได้พยายามเสริมบทความ thwarted (เชื่อมโยงไปยังภายนอกไซต์) ที่เปิดทุก เนื่องจากข้อตกลงเป็นเอกฉันท์ต้องเปลี่ยนใด ๆ การช่วงชิงงานบนผ่านประเด็นถึงวาระมันจะล้มเหลวอุดมคติ (การเชื่อมโยงไปยังภายนอกไซต์) ของพยายามควบคุมภายใต้บทความสมาพันธ์เกิดได้ที่ staunchest (การเชื่อมโยงไปยังภายนอกไซต์) ผู้ให้การสนับสนุนเอกสาร ineffectiveness เป็นที่ยอมรับ และยอมรับว่า ต้องการผู้มีอำนาจมากกว่ารัฐบาลแห่งชาติ ปัญหาเกี่ยวกับบทความนำสภาการจัดกำหนดการประชุมเพื่อตอบสนองในฟิลาเดลเฟียใน 1787 เพื่อพิจารณาปัญหาเกี่ยวกับเอกสารนั้น จากการประชุมที่จะมาใหม่ และดีกว่าเอกสาร เอกสารที่ได้ยืนอยู่สหรัฐอเมริกานี้ดีกว่าสองศตวรรษ: รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาโคโลเนียลผู้หญิงทำงานต่าง ๆ หลังจากการปฏิวัติอเมริกายังค่อย ๆ มาดูว่า ความกังวลในปัญหาของตนเองไม่สามารถโฟกัสของพวกเขาเท่านั้น เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน พวกเขาต้องตระหนักถึงปัญหาที่ได้รับผลกระทบแต่ละของพวกเขาเป็นแต่ละรัฐ รวมทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาความสัมพันธ์ทางสังคมเปลี่ยนไปในระหว่างการปฏิวัติด้วย ผู้หญิงหลายคนมีงานอยู่งานโบราณถือเอาภารกิจและความรับผิดชอบของขาดบิดา สามี และบุตร ในเมืองและเมือง ผู้หญิงของปฏิวัติแยกผู้ค้า พ่อค้า และ craftspersons ในพื้นที่ชนบท ภรรยาเกษตรกรรักษางานดั้งเดิมของตนเองเช่นการเตรียม และปรุงอาหารอาหาร ซัก เลี้ยงเด็ก ปั่น ทอผ้า และทำเสื้อผ้า แต่พวกเขายังเอางานชายเพิ่มเติมของไถ การปลูก และการสร้างความปลอดภัยสำหรับ homesteads ของพวกเขามักจะแยก ผู้หญิงยังเกิดขึ้นของพวกเขาในการต่อสู้ของการปฏิวัติ ทั้ง ในตำแหน่ง "เพื่อ" ต่อสู้ และ เป็นฝ่ายสนับสนุนแม้ มีความชัดเจนของสตรีปฏิวัติ กฎหมายจะได้ไม่ได้รับจากการปฏิวัติ บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นและการเข้าร่วมกิจกรรมภายนอกสภาพแวดล้อมภายในบ้านทั่วไป พวกเขาเล่นบทบาทสำคัญในการ abolitionist เคลื่อนไหวที่เริ่มที่ปิดของสงคราม และต่อผ่านตัวกลางศตวรรษที่ 19

Results (Thai) 2:

การเมืองเกินไปปัญหาหลังการปฏิวัติ ข้อบังคับของสมาพันธ์ที่ได้ทำหน้าที่ได้ดีพอที่จะสร้างประเทศและนำมันประสบความสำเร็จผ่านความขัดแย้งกับหนึ่งในประเทศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของรอบระยะเวลาเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้ผล แม้จะประสบความสำเร็จเช่นกฎหมายภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ 1787 ความพยายามมากที่สุดโดยสภาคองเกรสในการปกครองถูกละเลยโดยรัฐ ความพยายามที่จะสร้างความเข้มแข็งบทความถูกขัดขวาง (ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก.) ที่เปิดทุก นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อตกลงเป็นเอกฉันท์ต้องต่อสู้มากกว่าปัญหาใด ๆ อีกต่อไปมันจะล้มเหลว. ไม่ได้ผล (ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก.) ความพยายามที่จะควบคุมภายใต้ข้อบังคับของสมาพันธ์ที่เกิดแม้ staunchest (ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก.) ลูกน้องของ เอกสารที่จะยอมรับไม่ได้ผลและยอมรับความจำเป็นในการมีอำนาจมากขึ้นสำหรับรัฐบาลแห่งชาติ ปัญหากับบทความที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์เพื่อกำหนดตารางการประชุมที่จะตอบสนองในฟิลาเดลใน 1787 เพื่อพิจารณาปัญหากับเอกสารที่ จากการประชุมที่จะมาเอกสารใหม่และดีกว่าเอกสารที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาในสถานที่ดีมานานกว่าสองศตวรรษ. รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาผู้หญิงโคโลเนียลดำเนินงานเป็นจำนวนมากหลังจากการปฏิวัติสหรัฐอเมริกาก็ค่อยมาเพื่อดูความกังวลว่า ปัญหาของตัวเองไม่สามารถโฟกัสเดียวของพวกเขา; ในฐานะสมาชิกของสหภาพพวกเขาต้องการที่จะตระหนักถึงปัญหาที่ได้รับผลกระทบแต่ละของพวกเขาในขณะที่แต่ละรัฐเช่นเดียวกับพวกเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันในขณะที่สหรัฐฯ. ความสัมพันธ์ทางสังคมยังมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงการปฏิวัติ ผู้หญิงหลายคนได้หักออกไปจากการทำงานแบบดั้งเดิมของพวกเขาที่จะสรุปงานและความรับผิดชอบของบรรพบุรุษขาดสามีและบุตรชาย ในเมืองและเมืองหญิงของยุคปฏิวัติทำหน้าที่เป็นผู้ค้าพ่อค้าและช่างฝีมือ ในพื้นที่ชนบทภรรยาของเกษตรกรการบำรุงรักษางานดั้งเดิมของพวกเขาเองเช่นการจัดเตรียมและการปรุงอาหารอาหาร, ทำความสะอาด, การเลี้ยงดูเด็กปั่นการทอและการทำเสื้อผ้า แต่พวกเขายังเอางานชายที่เพิ่มขึ้นของการไถปลูกและการสร้างความปลอดภัยให้กับโรงแยกของพวกเขามักจะ ผู้หญิงยังเกิดขึ้นของพวกเขาในสนามรบของการปฏิวัติทั้งใน "มือบน" ตำแหน่งของการต่อสู้และเป็นบุคลากรสนับสนุนแม้จะมีความสามารถในการที่เห็นได้ชัดของผู้หญิงปฏิวัติถูกต้องตามกฎหมายที่พวกเขาไม่ได้รับจากการปฏิวัติ บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการเพิ่มขึ้นของพวกเขามั่นใจในตนเองและการมีส่วนร่วมของพวกเขาร่วมกันมากขึ้นในกิจกรรมนอกสภาพแวดล้อมที่บ้าน พวกเขามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวของทาสที่เริ่มต้นที่ใกล้ชิดของสงครามและเดินผ่านกลางศตวรรษที่ 19

Results (Thai) 3:

การเมืองก็มีปัญหาหลังจากการปฏิวัติ บทความจากสมาพันธ์ที่เสิร์ฟดีรูปแบบของประเทศและทำให้มันสำเร็จผ่านความขัดแย้งกับหนึ่งในประเทศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของระยะเวลาที่เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้ผล แม้จะมีความสำเร็จเช่นกฎตะวันตกเฉียงเหนือของพวกมากที่สุด พยายาม โดยสภาปกครองถูกปฏิเสธจากรัฐความพยายามที่จะเสริมสร้างบทความถูกขัดขวาง ( เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอก ) ทุกครั้ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงใด ๆต้องเป็นเอกฉันท์ ข้อตกลงใด ๆ การต่อสู้มากกว่าปัญหาวาระที่จะล้มเหลว .

ถึง ( เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอก ) ที่พยายามจะปกครองใต้บทความจากสมาพันธ์ ทำให้แม้แต่ staunchest ( เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอก) สนับสนุนของเอกสารที่จะยอมรับว่ามันไม่ได้ผล และยอมรับความต้องการอำนาจมากขึ้นสำหรับรัฐบาลแห่งชาติ ปัญหากับบทความที่ทำให้รัฐสภาเพื่อตารางการประชุมเพื่อตอบสนองในฟิลาเดลใน 1787 เพื่อพิจารณาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเอกสารนั้น จากการประชุมที่จะมาเอกสารใหม่และดีกว่าเอกสารที่ได้ยืนสหรัฐอเมริกาใน stead ที่ดีกว่าสองศตวรรษ : สหรัฐอเมริการัฐธรรมนูญ อาณานิคมผู้หญิง

แสดงจํานวนมากหลังจากการปฏิวัติ
รัฐก็ค่อยๆมาเจอกับปัญหาของตนเอง ไม่สามารถโฟกัสเท่านั้น ในฐานะสมาชิกของสหภาพ พวกเขาต้องการที่จะทราบ ปัญหาที่ได้รับผลกระทบแต่ละของพวกเขาเป็นแต่ละรัฐเป็นทั้งหมดของพวกเขาร่วมกันเป็นสหรัฐอเมริกา

ความสัมพันธ์ทางสังคมเปลี่ยนไปในช่วงการปฏิวัติ ผู้หญิงหลายคนได้แตกออกไปจากงานดั้งเดิมของพวกเขาถือว่า หน้าที่ และความรับผิดชอบของพ่อขาด , สามีและลูก ในเขตเมืองและผู้หญิงในช่วงปฏิวัติ ทำหน้าที่เป็นผู้ค้า พ่อค้า และ craftspersons . ในชนบทภรรยาของชาวนารักษาแบบดั้งเดิมของตนเองงานเช่นเตรียมและการปรุงอาหาร , ทำความสะอาด , เลี้ยงเด็ก , ปั่นด้าย , ทอผ้าและทำเสื้อผ้า แต่พวกเขายังได้เพิ่มเติมที่ชายงานของการไถ , การปลูกและการสร้างความมั่นคงของแยกมักจะโรงนา . ผู้หญิงยังเอาสถานที่ของพวกเขาในสนามรบของการปฏิวัติทั้งใน " ตำแหน่งการต่อสู้ภาคปฏิบัติ " และเป็นบุคลากรสนับสนุน

แม้จะมีความสามารถที่ชัดเจนของผู้หญิงปฏิวัติ ถูกต้องตามกฎหมายพวกเขาไม่ได้กำไรจากการปฏิวัติ บางทีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมภายนอกทั่วไปมากขึ้นของสภาพแวดล้อมภายในบ้านพวกเขามีบทบาทในการเคลื่อนไหวของผู้ที่เห็นด้วยกับการเลิกทาสที่เริ่มขึ้นที่ใกล้ชิดของสงครามและต่อผ่านกลางศตวรรษที่ 19 .