The participants regarded staff rel

The participants regarded staff reliance, and thus obedience,
as necessary in order to achieve goals:
I became an educational supervisor . . . I had to assure
the head nurses so that they could trust me. I had to show
them my capacities so that they know that I amqualified,
therefore care . . . what I say. In this way, I could achieve
my goals (S 2).
Having information enabled the participants to convince
top managers, as well as subordinators:
If a manager tries to influence working conditions, such
as wages, then our information enables us to resist and
convince him/her (S 3).
Moreover, legal authority provided the participants with a
great authority to behave assertively:
When we do not find a medical intern, we tell the senior
resident “either to find the intern or to cure the patient
yourself”. A nurse, even as [the] emergency unit incharge,
cannot speak this way. I, as a supervisor, can do
so.We need a more powerful one (S 1).
Psychology
This category explains the use of psychology as various treatment
styles that are appropriate to the situation. It includes
“the analysis of the staff members’ mood” and “understanding
the staff”. For example, the following comments were
made:
Once you confront an employee who is not in a good
mood and naturally resists what you say, if you know
him/her psychologically, you try to calm him/her and
solve his/her problem rather than giving him/her orders
(S 3).
[The] head nurse and her assistant should know each
other retrospectively. If not, some challenges between
them will be unavoidable. Similar challenges have . . .
occurred before (HN 6).
Internal relationship between the executive
agents components
Besides the main path of the model, there are internal relationships
among the executive agents’ categories.
The components of learning assertiveness, self-learning,
and developmental factors could impact the bravery development
factors:
. . . as I was the elder child in my family, my father gave
me more responsibility. It increased my selfconfidence
. . . (M 2).
When Mr N notices braveness in my speech, he inductively
becomes brave. He tries to imitate me to speak
against others (S 2).
Not only did the supportive factors directly influence assertive
behavior but they also affected the bravery development
factors:
Daring is related to [the] top managers’ support . . . this
is an encouragement for leaders.That is, if a leader does
his/her best, [the] top managers support him/her (HN 5).
Relationship between the religious beliefs and the
executive agents
The study’s participants considered religious beliefs as a
daring factor:
. . . that the leaders believe in Islamic management is
another requirement for daring . . . this is a divine management
which God is satisfied with. The leadership
should be like this. I prefer it (M 1).
Religious beliefs persuaded learning:
You need to have plans to achieve ideological goals. To
do so, accruing information and awareness plays an
important role in managerial behaviors, etc. (HN 6).
Some religious recommendations could influence the
supportive factors. For example, truth could influence staff
reliance:
. . . [the] truth causes reliance. If they trust you, they
cooperate with you (HN 3).
However, developmental factors, such as social and family
training, could affect one’s religious and ethical beliefs:
My mother limited our contacts with others. She
believed that we should not be in touch with those who
do not worship God. She emphasized . . . religious and
ideological issues . . . (S 1).
DISCUSSION
This grounded theory study demonstrated how assertive
behaviors are shaped in some Iranian nursing leaders.The first
theme was task generation, which induced a set of tasks for
the participants. The participants were directed to assertive
behaviors to carry out the target tasks. In a study by Khomeiran
et al. (2006), the participants pointed out that taking some
degree of responsibility had given them the opportunity to
acquire some important skills, such as assertiveness.
The results of this study indicated that the ETGs were
related to job characteristics and job status and they automatically
induced responsibilities for the participants who
needed to be assertive to carry out these responsibilities. In
a study by Timmins and McCabe (2005b), the respondents
cited their responsibility to patients as a primary facilitator of
their assertive behavior. Clearly, from these practicing clinicians’
perspective, assertiveness was a requirement of good
quality patient care. Therefore, the results of Timmins and
McCabe (2005b) and Khomeiran et al. (2006) are confirmed
by the present study’s results.
The interesting point in this study was that some of the
ITG-related tasks were imposed on the participants internally.
Such tasks internally enforced them to carry out the
external tasks in accordance with ethics and religious criteria.
For example, they should take care of patients so carefully

Results (Thai) 1:

ผู้เข้าร่วมถือว่าพึ่งพาพนักงาน และเชื่อฟังตามความจำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย:เป็นการศึกษานิเทศ... ผมมั่นใจหัวหน้าพยาบาลเพื่อให้พวกเขาสามารถเชื่อใจฉัน ผมจะแสดงพวกเขากำลังการผลิตของฉันเพื่อให้พวกเขารู้ว่าฉัน amqualifiedดังนั้น ดูแล...สิ่งที่ฉันพูด ด้วยวิธีนี้ ฉันสามารถบรรลุเป้าหมายที่ของฉัน (S 2)มีข้อมูลเปิดใช้งานผู้เข้าร่วมการโน้มน้าวใจผู้บริหารสูงสุด เป็น subordinators:ถ้าพยายามมีอิทธิพลต่อสภาพการทำงาน ผู้จัดการดังกล่าวเป็นค่าจ้าง แล้วข้อมูลของเราช่วยให้เราสามารถต่อต้าน และมั่นใจทราบถึงรายละเอียด (S 3)นอกจากนี้ ผู้มีอำนาจตามกฎหมายให้ร่วมกับการหน่วยงานที่ดีทำงานที่ assertively:เมื่อเราพบช่างเทคนิคฝึกหัดแพทย์ เราบอกที่อาวุโสมีถิ่นที่อยู่ "หรือหาช่างเทคนิคฝึกหัดการเยียวยาผู้ป่วยตัวเอง" พยาบาล เป็น incharge หน่วยฉุกเฉิน []ไม่พูดแบบนี้ เป็นผู้ควบคุมงาน สามารถทำได้เพื่อให้ เราต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นหนึ่ง (S 1)จิตวิทยาประเภทนี้อธิบายการใช้จิตวิทยาเป็นการรักษาต่าง ๆลักษณะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ มี"การวิเคราะห์อารมณ์ของพนักงาน" และ "ความเข้าใจการบริการของพนักงาน" ตัวอย่าง ได้เห็นต่อไปนี้ทำ:เมื่อคุณเผชิญหน้ากับพนักงานที่ไม่ดีอารมณ์ และธรรมชาติพยายามขัดขวางสิ่งที่คุณพูด ถ้าคุณรู้ทราบถึงรายละเอียด psychologically คุณพยายามสงบทราบถึงรายละเอียด และแก้ปัญหาเขา/เธอแทนที่ให้ทราบถึงรายละเอียดใบสั่ง(S 3)[] ใหญ่พยาบาลและผู้ช่วยของเธอควรรู้ว่าแต่ละอื่น ๆ ย้อนหลังได้ด้วย ถ้า ไม่ ความท้าทายบางอย่างระหว่างพวกเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีความท้าทายคล้ายกัน...เกิดขึ้นก่อน (HN 6)ความสัมพันธ์ภายในระหว่างผู้บริหารคอมโพเนนต์ของตัวแทนนอกจากเส้นทางหลักของรูปแบบ มีความสัมพันธ์ภายในระหว่างประเภทของตัวแทนผู้บริหารส่วนประกอบของการเรียนรู้ยืนกราน เรียนรู้ด้วยตนเองและพัฒนาปัจจัยอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาความกล้าหาญปัจจัย:...เป็นฉัน เป็นลูกคนในครอบครัว พ่อให้ฉันรับผิดชอบเพิ่มเติม ยังเพิ่ม selfconfidence ของฉัน. . . (ม. 2)เมื่อนาย N สังเกตพบว่า braveness ในคำพูดของฉัน เขาท่านจะกล้า เขาพยายามที่จะเลียนแบบฉันพูดกับอื่น ๆ (S 2)ไม่เพียงแต่ ได้ปัจจัยสนับสนุนโดยตรงมีผลทำลักษณะการทำงานแต่พวกเขายังได้รับผลกระทบการพัฒนาความกล้าหาญปัจจัย:กล้าหาญเป็นที่เกี่ยวข้องกับ [] สูงสุดของผู้จัดการสนับสนุน...นี้เป็นกำลังใจให้กับผู้นำได้ นั่นคือ ถ้าผู้นำไม่ส่วนเขา/เธอ, [] ด้านผู้จัดการสนับสนุนทราบถึงรายละเอียด (HN 5)ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางศาสนาและตัวแทนผู้บริหารผู้เข้าร่วมการศึกษาถือเป็นความเชื่อทางศาสนาเป็นการอันปัจจัย:...ที่ผู้นำเชื่อว่าในการจัดการอิสลามเป็นความต้องการอีกอัน...นี้จะจัดการกับพระเจ้าที่พระเจ้าจะพอใจกับ นำควรจะมีเช่นนี้ ฉันชอบมัน (M 1)ความเชื่อในศาสนาเกลี้ยกล่อมเรียน:คุณจำเป็นต้องมีแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอุดมการณ์ ถึงทำงาน การรับรู้ข้อมูลและความรู้เล่นการบทบาทสำคัญในการจัดการพฤติกรรม ฯลฯ (HN 6)คำแนะนำบางศาสนาอาจมีอิทธิพลต่อการปัจจัยสนับสนุน ตัวอย่าง ความจริงอาจมีผลกระทบต่อพนักงานอ้างอิง:. . . [] ความจริงทำให้เกิดความเชื่อมั่น ถ้าพวกเขาไว้ใจคุณ พวกเขาร่วมมือกับคุณ (HN 3)อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพัฒนา สังคมและครอบครัวฝึกอบรม อาจมีผลต่อของศาสนา และจริยธรรมความเชื่อ:แม่จำกัดของเราติดต่อกับผู้อื่น เธอเชื่อว่า ไม่มีการติดต่อกับผู้คนนมัสการพระเจ้า เธอเน้นย้ำ...ศาสนา และปัญหาอุดมการณ์... (S 1)สนทนานี้สูตรทฤษฎีศึกษาแสดงวิธีทำลักษณะการทำงานมีรูปร่างในบางผู้นำอิหร่านพยาบาล ครั้งแรกมีรูปแบบงานสร้าง ซึ่งเกิดจากชุดงานผู้เข้าร่วม ผู้เข้าร่วมได้โดยตรงเพื่อทำลักษณะการดำเนินงานเป้าหมาย ในการศึกษาโดย Khomeiranal. ร้อยเอ็ด (2006), ผู้เข้าร่วมชี้ให้เห็นว่ามีบางระดับของความรับผิดชอบได้ให้โอกาสได้รับทักษะบางสำคัญ เช่นยืนกรานผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า ETGs ที่มีที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงาน และสถานะของงาน และพวกเขาโดยอัตโนมัติทำให้เกิดความรับผิดชอบสำหรับผู้เข้าร่วมที่จำเป็นต้องทำการดำเนินการความรับผิดชอบเหล่านี้ ในการศึกษา โดย Timmins และ McCabe (2005b), ผู้ตอบอ้างความรับผิดชอบให้แก่ผู้ป่วยเป็นผู้อำนวยความสะดวกหลักของพฤติกรรมของพวกเขาทำ ชัดเจน เข้าฝึก clinicians'มุมมอง ยืนกรานเป็นความต้องการของดีคุณภาพการดูแลผู้ป่วย ดังนั้น ผลลัพธ์ของ Timmins และยืนยัน McCabe (2005b) และ Khomeiran et al. (2006)โดยผลของการศึกษาปัจจุบันจุดที่น่าสนใจในการศึกษานี้เป็นที่ของการงานที่เกี่ยวข้องของ ITG ถูกบังคับในผู้เข้าร่วมภายในงานดังกล่าวภายในการบังคับใช้ให้ดำเนินการงานภายนอกตามเงื่อนไขทางศาสนาและจริยธรรมตัวอย่าง พวกเขาควรดูแลผู้ป่วยอย่างรอบคอบดังนั้น

Results (Thai) 2:

ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับการยกย่องพนักงานเชื่อมั่นและทำให้การเชื่อฟังตามความจำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย:
ฉันกลายเป็นผู้บังคับบัญชาการศึกษา . .
ผมต้องมั่นใจหัวหน้าหอผู้ป่วยเพื่อให้พวกเขาสามารถไว้วางใจผม ผมต้องแสดงให้พวกเขาความสามารถของฉันเพื่อให้พวกเขารู้ว่าผม amqualified, ดังนั้นการดูแล . . สิ่งที่ผมพูด ด้วยวิธีนี้ผมสามารถบรรลุเป้าหมายของฉัน (S 2). ข้อมูลมีการเปิดใช้งานผู้เข้าร่วมที่จะโน้มน้าวให้ผู้จัดการด้านบนเช่นเดียวกับใต้บังคับบัญชา: ถ้าผู้จัดการพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อสภาพการทำงานเช่นเป็นค่าจ้างแล้วข้อมูลของเราช่วยให้เราสามารถต่อต้านและ. โน้มน้าวให้เขา / เธอ (S 3) นอกจากนี้ยังมีอำนาจตามกฎหมายที่ให้ผู้เข้าร่วมประชุมกับผู้มีอำนาจที่ดีในการประพฤติ assertively: เมื่อเราไม่ได้พบแพทย์ฝึกหัดเราบอกอาวุโสถิ่นที่อยู่"อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะหาฝึกงานหรือการรักษาผู้ป่วยด้วยตัวคุณเอง" พยาบาลแม้ในขณะที่ [ที่] หน่วยฉุกเฉิน incharge, ไม่สามารถพูดแบบนี้ ผมเป็นผู้บังคับบัญชาสามารถทำso.We ต้องมีหนึ่งในมีประสิทธิภาพมากขึ้น (S 1). จิตวิทยาหมวดหมู่นี้จะอธิบายถึงการใช้จิตวิทยาในการรักษาที่หลากหลายรูปแบบที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งจะรวมถึง"การวิเคราะห์ของอารมณ์ที่สมาชิกในทีมงานส" และ "การทำความเข้าใจกับพนักงาน" ยกตัวอย่างเช่นการแสดงความคิดเห็นต่อไปนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อคุณเผชิญหน้ากับพนักงานที่ไม่ได้เป็นในที่ดีอารมณ์และเป็นธรรมชาติต่อต้านสิ่งที่คุณพูดถ้าคุณรู้ว่าเขา/ เธอจิตใจคุณพยายามที่จะสงบเขา / เธอและแก้/ ปัญหาของเขาและเธอค่อนข้าง กว่าให้เขา / เธอคำสั่งซื้อ(S 3). [ที่] หัวหน้าพยาบาลและผู้ช่วยของเธอควรจะรู้ว่าแต่ละอื่นๆ ย้อนหลัง ถ้าไม่ได้ท้าทายบางอย่างระหว่างพวกเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความท้าทายที่คล้ายกันมี . . เกิดขึ้นก่อน (HN 6). ความสัมพันธ์ภายในระหว่างผู้บริหารส่วนประกอบตัวแทนนอกจากนี้เส้นทางหลักของรูปแบบที่มีความสัมพันธ์ภายในระหว่างกลุ่มตัวแทนผู้บริหาร'. ส่วนประกอบของอหังการการเรียนรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้และปัจจัยการพัฒนาอาจส่งผลกระทบการพัฒนาความกล้าหาญปัจจัย . . ขณะที่ผมเป็นลูกคนโตในครอบครัวของฉันพ่อของฉันให้ฉันความรับผิดชอบมากขึ้น มันเพิ่มขึ้นมั่นใจของฉัน . . (M 2). เมื่อไม่มีนายสังเกตเห็นความกล้าหาญในการพูดของฉันเขา inductively กลายเป็นผู้กล้าหาญ เขาพยายามที่จะเลียนแบบผมที่จะพูดคุยกับคนอื่น (S 2). ไม่เพียง แต่ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสนับสนุนโดยตรงแน่วแน่พฤติกรรมแต่พวกเขายังได้รับผลกระทบการพัฒนาความกล้าหาญปัจจัยกล้าที่เกี่ยวข้องกับ [ที่] สนับสนุนผู้จัดการด้านบน ' . . นี้คือการให้กำลังใจสำหรับ leaders.That เป็นถ้าผู้นำไม่ได้ของเขา/ เธอที่ดีที่สุด [ที่] ผู้จัดการด้านบนสนับสนุนเขา / เธอ (HN 5). ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางศาสนาและตัวแทนผู้บริหารเข้าร่วมการศึกษาที่ถือว่าเป็นความเชื่อทางศาสนาเป็นปัจจัยที่กล้าหาญ: . . ผู้นำที่เชื่อมั่นในการบริหารจัดการอิสลามเป็นความจำเป็นสำหรับความกล้าหาญอีก . . นี้คือการจัดการของพระเจ้าที่พระเจ้าจะพอใจกับ ผู้นำควรจะเป็นเช่นนี้ ฉันชอบมัน (M 1). ความเชื่อทางศาสนาชักชวนการเรียนรู้: คุณจำเป็นต้องมีแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอุดมการณ์ ที่จะทำเช่นนั้นมีการเก็บข้อมูลและการรับรู้เล่นบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการพฤติกรรมฯลฯ (HN 6). บางคำแนะนำทางศาสนามีอิทธิพลต่อการสามารถปัจจัยสนับสนุน ตัวอย่างเช่นความจริงอาจมีผลต่อพนักงานเชื่อมั่น: . . [ที่] ความจริงที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่น หากพวกเขาไว้วางใจคุณพวกเขา. ร่วมมือกับคุณ (HN 3) อย่างไรก็ตามปัจจัยการพัฒนาเช่นครอบครัวสังคมและการฝึกอบรมจะมีผลต่อความเชื่อทางศาสนาและจริยธรรมของคน: แม่ของฉัน จำกัด รายชื่อของเรากับคนอื่น ๆ เธอเชื่อว่าเราไม่ควรจะอยู่ในการติดต่อกับผู้ที่ไม่ได้นมัสการพระเจ้า เธอเน้น . . ศาสนาและปัญหาอุดมการณ์ . . (S 1). การอภิปรายการศึกษาทฤษฎีนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่มีเหตุผลกล้าแสดงออกพฤติกรรมที่มีรูปร่างในบางพยาบาลอิหร่านกับผู้นำที่แรกชุดรูปแบบคือการสร้างงานที่ส่งผลให้ชุดของงานสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับคำสั่งให้แน่วแน่พฤติกรรมในการดำเนินงานเป้าหมาย ในการศึกษาโดย Khomeiran et al, (2006) ผู้เข้าร่วมการชี้ให้เห็นว่าการบางระดับของความรับผิดชอบได้ให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ทักษะที่สำคัญบางอย่างเช่นอหังการ. ผลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า Etgs ถูกที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงานและสถานะการทำงานและพวกเขาโดยอัตโนมัติเหนี่ยวนำให้เกิดความรับผิดชอบสำหรับผู้เข้าร่วมผู้ที่จำเป็นจะต้องแน่วแน่ที่จะดำเนินความรับผิดชอบเหล่านี้ ในการศึกษาโดยมินและ McCabe (2005b) ผู้ตอบแบบสอบถามอ้างความรับผิดชอบของตนให้กับผู้ป่วยที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกหลักของพฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสมของพวกเขา เห็นได้ชัดจากการฝึกเหล่านี้แพทย์ 'มุมมองอหังการเป็นความต้องการที่ดีของการดูแลผู้ป่วยที่มีคุณภาพ ดังนั้นผลของมินและMcCabe (2005b) และ Khomeiran et al, (2006) ได้รับการยืนยันจากผลการศึกษาในปัจจุบันของ. จุดที่น่าสนใจในการศึกษาครั้งนี้คือการที่บางส่วนของงาน ITG ที่เกี่ยวข้องกับการที่ถูกกำหนดไว้ในการเข้าร่วมภายใน. งานดังกล่าวภายในบังคับให้พวกเขาดำเนินการงานภายนอกให้สอดคล้องกับจริยธรรมและศาสนาเกณฑ์ที่. ตัวอย่างเช่นพวกเขาควรจะดูแลผู้ป่วยอย่างระมัดระวัง

Results (Thai) 3:

ผู้เข้าร่วมถือว่าพึ่งเจ้าหน้าที่จึงเชื่อฟัง ,
เท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย :
ฉันเป็นผู้จัดการศึกษา . . . . . . . ฉันต้องมั่นใจ
หัวหน้าพยาบาลเพื่อให้พวกเขาเชื่อใจฉัน ฉันต้องแสดงความสามารถของฉัน
พวกเขาเพื่อให้พวกเขารู้ว่าผม amqualified
ดังนั้น , การดูแล . . . . . . . อะไรที่ฉันพูด วิธีนี้ผมสามารถบรรลุเป้าหมายของฉัน ( s

2 )มีข้อมูลที่ใช้เข้าร่วมเพื่อโน้มน้าว
ผู้จัดการด้านบน รวมทั้ง subordinators :
ถ้าผู้จัดการพยายามจะมีอิทธิพลต่อสภาพการทำงาน เช่น
เป็นค่าจ้าง แล้วข้อมูลของเราช่วยให้เราสามารถต้านทานและ
โน้มน้าวให้เขา / เธอ ( 3 ) .
นอกจากนี้ อำนาจทางกฎหมายให้ผู้เข้าร่วมกับ
อำนาจทำตัว assertively :
เมื่อเราไม่หาเด็กฝึกงานทางการแพทย์ เราบอกรุ่นพี่
Resident เหมือนกันหาเด็กฝึกงาน หรือไปรักษาคนไข้
ตัวเอง " พยาบาล , แม้ว่า [ ] หน่วยฉุกเฉิน incharge
พูดไม่ได้แบบนี้ ผม ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลสามารถทำได้
so.we ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่ง ( s )
.
ประเภทนี้อธิบายการใช้จิตวิทยาเป็นรูปแบบการรักษา
ต่างๆที่เหมาะสมกับสถานการณ์
มันรวมถึง" การวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ อารมณ์ " และ " ความเข้าใจ
พนักงาน " ตัวอย่างเช่นความคิดเห็นต่อไปนี้ได้ :

เมื่อคุณเผชิญหน้ากับพนักงานที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดี
และเป็นธรรมชาติต่อต้านสิ่งที่คุณพูด ถ้าคุณรู้
เขา / เธอ จิตใจเธอพยายามสงบเขา / เธอและ
แก้ปัญหาของเขา / หล่อนมากกว่าที่ให้เขา / เธอสั่ง
( s 3 ) .
[ ] หัวหน้าพยาบาล และผู้ช่วยของเธอควรจะรู้
อื่น ๆย้อนหลัง . ถ้าไม่ ความท้าทายบางอย่างระหว่าง
พวกเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความท้าทายที่คล้ายคลึงกันได้ . . . . . . .
เกิดขึ้นก่อน ( HN 6 ) .

ส่วนประกอบภายในความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนผู้บริหาร
นอกจากเส้นทางหลักของแบบจำลองมีความสัมพันธ์ภายในระหว่างประเภทผู้บริหารตัวแทน '
.
ส่วนประกอบของการเรียนรู้แสดงออก
, การเรียนรู้ด้วยตนเอง ,ปัจจัยที่อาจกระทบต่อพัฒนาการและความกล้าหาญ ปัจจัยในการพัฒนา

. . . . . . . ผมเป็นเด็กที่อายุมากกว่าในครอบครัว พ่อให้
ฉันรับผิดชอบมากขึ้น มันเพิ่มขึ้น
นิสัยของฉัน . . . . . . . ( 2 )
n เมื่อคุณสังเกตเห็นความกล้าในการพูดของฉัน เขาอุปนัย
กลายเป็นผู้กล้าหาญ เขาพยายามที่จะเลียนแบบผม พูดกับคนอื่น ( s
2 )
ไม่เพียงแต่ปัจจัยสนับสนุนที่มีอิทธิพลต่อการแสดงออก
พฤติกรรม แต่พวกเขายังมีผลต่อการพัฒนา

กล้าความกล้าหาญ ปัจจัย เกี่ยวข้องกับ [ สนับสนุน ] ผู้จัดการด้านบน . . . . . . . นี้
เป็นการให้กําลังใจผู้นำ นั่นคือ ถ้าผู้นำไม่
ของเขา / เธอที่ดีที่สุด [ ] ผู้จัดการด้านบนสนับสนุนเขา / เธอ ( HN 5 ) . ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อทางศาสนา


) และตัวแทนผู้เข้าร่วมการศึกษาถือเป็นความเชื่อทางศาสนาเป็นปัจจัยท้าทาย :

. . . . . . .ที่ผู้นำเชื่อมั่นในการจัดการอิสลาม
อื่นความต้องการ กล้าหาญ . . . . . . . นี่คือการจัดการศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าจะพอใจกับ ภาวะผู้นำ
ควรเป็นแบบนี้ ฉันชอบมัน ( 1 )
ความเชื่อทางศาสนาชักชวนการเรียนรู้ :
คุณต้องมีแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของอุดมการณ์ .

ทำเช่นนั้นด้วยซ้ำข้อมูลตระหนักและมีบทบาทสำคัญ
พฤติกรรมการบริหาร ฯลฯ ( HN
6 )บางศาสนาแนะนำอาจมีอิทธิพลต่อ
ปัจจัยสนับสนุน ตัวอย่างเช่น ความจริงอาจมีผลต่อความเชื่อมั่น พนักงาน
:
. . . . . . . [ ] ความจริงสาเหตุที่อ้างอิง ถ้าพวกเขาเชื่อคุณ พวกเขา
ร่วมมือกับคุณ ( HN ) 3 .
แต่ปัจจัยพัฒนา เช่น ครอบครัว และสังคม
การฝึกอบรม อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อของศาสนาและจริยธรรม :
แม่จำกัดผู้ติดต่อของเรากับคนอื่น ๆ เธอ
เชื่อว่าเราไม่ควรสัมผัสกับผู้
ไม่ได้นมัสการพระเจ้า เธอเน้น . . . . . . . ศาสนาและ
ปัญหาอุดมการณ์ . . . . . . . . ( 1 )

นี้อภิปรายทฤษฎีการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสม
เป็นรูปในบางผู้นำพยาบาลชาวอิหร่าน หัวข้อแรกคือรุ่น
งานซึ่งทำให้ชุดของงาน
ผู้เข้าร่วม ผู้เข้าร่วมที่เหมาะสม
พฤติกรรมเพื่อทำตามเป้าหมายงาน ในการศึกษาโดย khomeiran
et al . ( 2006 ) , ผู้ที่ชี้ให้เห็นว่าระดับของความรับผิดชอบเอา

มีให้พวกเขามีโอกาสที่จะได้รับทักษะที่สำคัญบางอย่าง เช่น การกล้าแสดงออก .
ผลการศึกษาพบว่า etgs ถูก
ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงาน และงาน และพวกเขาโดยอัตโนมัติ
เกิดความรับผิดชอบต่อผู้
ต้องมีการแสดงออกความรับผิดชอบเหล่านี้ ในการศึกษาโดยทิมมินส์ และแมคคาบี้

( 2005b ) ผู้ตอบแบบสอบถามอ้างความรับผิดชอบของผู้ป่วยเป็นผู้ประสานงานหลักของพฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสมของพวกเขา เห็นได้ชัดจากการฝึก ( '
มุมมองแสดงออกความต้องการของการดูแลผู้ป่วยที่มีคุณภาพที่ดี

ดังนั้นผลของทิมมินส์และ
แมคเคบ ( 2005b ) และ khomeiran et al . ( 2006 ) โดยผลการศึกษายืนยัน
.
จุดที่น่าสนใจในการศึกษานี้ คือ บางส่วนของงานที่เกี่ยวข้องกำหนด
ITG มีผู้เข้าร่วมภายใน .
งานดังกล่าวภายในบังคับให้ทำตาม
งานภายนอกตามจริยธรรมและมาตรฐานทางศาสนา
ตัวอย่างเช่นพวกเขาควรจะดูแลผู้ป่วยอย่างรอบคอบดังนั้น