The 1960's began with crew cuts on

The 1960's began with crew cuts on men and bouffant hairstyles on women. Men's casual shirts were often plaid and buttoned down the front, while knee-length dresses were Polyester Leisure suitrequired wear for women in most public places. By mid-decade, miniskirts or hot pants, often worn with go-go boots, were revealing legs, bodywear was revealing curves, and women's hair was either very short or long and lanky. Men's hair became longer and wider, with beards and moustaches. Men's wear had a renaissance. Bright colors, double-breasted sports jackets, polyester pants suits with Nehru jackets, and turtlenecks were in vogue. By the end of the decade, ties, when worn, were up to 5" wide, patterned even when worn with stripes. Women wore peasant skirts or granny dresses and chunky shoes. Unisex dressing was popular, featuring bell bottomed jeans, love beads, and embellished t-shirts. Clothing was as likely to be purchased at surplus stores as boutiques. Blacks of both genders wore their hair in an afro.

Results (Thai) 1:

ปี 1960 เริ่มต้นด้วยการตัดลูกเรือบนชายและทรงผมผู้หญิง เสื้อลำลองผู้ชายมักจะถูกจัดตาสก๊อตและ buttoned ลงด้านหน้าในขณะที่ชุดหัวเข่าที่มีความยาวได้พักผ่อนโพลีเอสเตอร์ suitrequired สวมใส่สำหรับผู้หญิงในที่สาธารณะมากที่สุด โดยในช่วงกลางทศวรรษ miniskirts หรือกางเกงร้อนมักจะสวมใส่กับการเดินทางไปรองเท้าถูกเผยให้เห็นขา bodywear ถูกเผยให้เห็นเส้นโค้งและเส้นผมของผู้หญิงเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งที่สั้นมากหรือยาวและยาวเหยียด ผมกลายเป็นคนอีกต่อไปและกว้างขึ้นด้วยเคราและหนวด สวมใส่ผู้ชายมียุคฟื้นฟูศิลปวิทยา สีสดใส, เสื้อกีฬากระดุมสองแถว, เส้นใยสังเคราะห์ที่เหมาะสมกับกางเกงด้วยแจ็คเก็ตเน turtlenecks และอยู่ในสมัย ตอนท้ายของทศวรรษความสัมพันธ์เมื่อสวมใส่ได้ถึง 5 "กว้างลวดลายได้เมื่อสวมใส่กับลายผู้หญิงสวมกระโปรงหรือชุดชาวนายายและรองเท้าอ้วน แต่งตัว unisex ได้รับความนิยมที่มีจุดต่ำสุดระฆังกางเกงยีนส์, ลูกปัดความรักและประดับเสื้อยืด เสื้อผ้าก็เป็นโอกาสที่จะซื้อได้ที่ร้านค้าที่เกินดุลเป็นบูติก คนผิวดำของทั้งสองเพศสวมผมของพวกเขาในแอฟริกา

Results (Thai) 2:

1960 เริ่ม มี crew cuts คนและทรงผม bouffant ในผู้หญิง เสื้อลำลองผู้ชายได้มักลายสก๊อต และ buttoned ลงหน้า ขณะที่ชุดความยาวเข่า โพลีเอสเตอร์ suitrequired กางเกงสำหรับผู้หญิงในสถานสาธารณะมากที่สุด โดยกลางทศวรรษ miniskirts หรือกางเกงร้อน มักสวมใส่กับรองเท้าโกโก้ ถูกเปิดเผยขา bodywear ถูกเผยให้เห็นเส้นโค้ง และผมของผู้หญิงมีทั้งสั้น หรือยาว และมาก lanky ผมผู้ชายกลายเป็นยาว และ กว้าง เบียดกับ moustaches เครื่องแต่งกายผู้ชายมีการเรอเนสซองซ์ สีสดใส แจ็คเก็ตกีฬา double-breasted โพลีเอสเตอร์ชุดกางเกงกับเสื้อรู เต่าอยู่ในสมัย โดยจุดสิ้นสุดของทศวรรษ ความสัมพันธ์ เมื่อสวมใส่ ได้ถึง 5 "กว้าง ลวดลายเมื่อสวมใส่ มีลาย ผู้หญิงสวมกระโปรงชาวนา หรือชุดยาย และรองเท้าหนา ๆ แต่งตัว unisex ได้นิยม กางเกงยีนส์เบลล์ยนที่ รักลูกปัด และเสื้อยืดข้าง เสื้อผ้าเป็นแนวโน้มที่จะซื้อที่ร้านค้าส่วนเกินเป็นร้าน ดำผสานระหว่างเพศทั้งสองสวมผมของพวกเขาในการอัฟโฟร

Results (Thai) 3:

1960 ปีที่เริ่มด้วยการลดลูกเรือในคนและผมซอยสั้นไล่ bouffant กับผู้หญิง เสื้อแบบสบายๆของคนก็มักจะราวๆและติดกระดุมลงมาทางด้านหน้าในขณะที่ชุดเข่า - ความยาวเป็นโพลีเอสเตอร์ suitrequired สวมใส่เพื่อพักผ่อนในยามว่างสำหรับผู้หญิงในที่สาธารณะ ในช่วงกลางทศวรรษกางเกงหรือกระโปรงสั้นเสื้อยืดแบบร้อนมักจะสวมใส่กับรองเท้าบู๊ตไป - กลับไปก็เผยให้เห็นขา bodywear ก็เผยให้เห็นความโค้งมนและเส้นผมของผู้หญิงก็เป็นอย่างมากทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาวและผอมสูง เส้นผมของคนกลายเป็นได้อีกต่อไปและกว้างขึ้นพร้อมด้วยหนวดและเครา สวมใส่ของคนที่แบบเรอเนสซองค์ สีที่สว่างสดใสเสื้อแจ็คเก็ตชูชีพกีฬาแบบเตียงนอนเดี่ยวขนาดใหญ่หนึ่งเตียง - กระดุมสองแถวกางเกงผ้าโพลีเอสเตอร์เหมาะกับกับ turtlenecks และเสื้อแจ็คเก็ตชูชีพเน - รูอยู่ในสมัยนิยม. ในช่วงปลายทศวรรษที่ความสัมพันธ์เมื่อสวมใส่อยู่ได้ถึง 5 นิ้วที่มีลวดลายได้แม้ในขณะสวมใส่ด้วยลายทางผู้หญิงสวมรองเท้าทรงหนาและสั้นและกระโปรงชาวนาหรือชุดก็ได้ยาย แต่งตัวเป็นหญิงได้รับความนิยมโดดเด่นไปด้วยกางเกงยีนส์ท้องระฆังลูกปัดความรักและตกแต่ง T - เสื้อ เสื้อผ้าก็เป็นไปไม่ได้ซื้อที่ร้านค้าร้านจำหน่ายสินค้าแบบบูติคที่เกินดุล คนผิวดำของเพศทั้งคู่สวมชุดเส้นผมของพวกเขาในแบบแอฟโรให้