Each node in a MANET serves as a ho

Each node in a MANET serves as a host and/or router
generating, consuming or forwarding information [7]. These
nodes are fitted with and powered by batteries. The
depletion of participating nodes’ battery power in a routing
path will shorten the network lifetime. As charging or
replacing batteries on site is a difficult operation, it is
necessary to use the available energy efficiently to extend
the lifetime of the nodes [8-9]. Developing an energy
efficient routing scheme is one way of achieving optimized
performance of nodes.
Nodes consume energy while transmitting beacon
signals to neighboring nodes for the purpose of detecting
their existence or transmitting data to another node [4].When
an intermediate node has been selected as a router, it
consumes more energy than an idle node as it is actively
involved in communication [10]. Thus, the nodes’ residual
energy is important in determining the path to successfully
completing data transfer without interruption. Hence a
routing protocol that considers the nodes’ residual energy
will perform better than the protocols that do not.

Results (Thai) 1:

แต่ละโหนดใน MANET ทำหน้าที่เป็น host หรือเราเตอร์สร้าง ใช้ หรือส่งต่อข้อมูล [7] เหล่านี้โหนอยู่ด้วย และใช้พลังงานจากแบตเตอรี ที่การลดลงของเข้าร่วมโครงการพลังงานแบตเตอรีของโหนในสายงานการผลิต เส้นทางจะย่นอายุการใช้งานเครือข่าย เป็นชาร์จ หรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในเว็บไซต์จะดำเนินการยาก เป็นจำเป็นต้องใช้พลังงานมีประสิทธิภาพเพื่อขยายชีวิตของโหน [8-9] พลังงานการพัฒนาแผนงานกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพเป็นวิธีหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิภาพการทำงานของโหนดโหนดที่ใช้พลังงานขณะส่งเบคอนสัญญาณการโหนดที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบมีของหรือข้อมูลที่ส่งไปยังโหนดอื่น [4] เมื่อเลือกโหนตัวกลางเป็นเราเตอร์ มันใช้พลังงานมากขึ้นกว่าโหนดไม่ได้ใช้งานมันเป็นอย่างเกี่ยวข้องในการสื่อสาร [10] ดังนั้น โหนของเหลือพลังงานเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดเส้นทางไปเรียบร้อยแล้วการถ่ายโอนข้อมูลให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่หยุดชะงัก ดังนั้นการโพรโทคอสายงานการผลิตซึ่งถือว่ามีพลังงานเหลือของโหนจะทำดีกว่าโพรโทคอลที่ไม่

Results (Thai) 2:

โหนดใน MANET แต่ละทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพและ /
หรือเราเตอร์ที่ก่อให้เกิดการบริโภคหรือการส่งต่อข้อมูล[7]
เหล่านี้โหนดมีการติดตั้งและพลังงานจากแบตเตอรี่ การสูญเสียพลังงานจากแบตเตอรี่เข้าร่วมโหนดในเส้นทางเส้นทางที่จะร่นอายุการใช้งานเครือข่าย ขณะที่การเรียกเก็บเงินหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่อยู่ในสถานที่การดำเนินการที่ยากมันเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในการขยายอายุการใช้งานของโหนดที่[8-9] การพัฒนาพลังงานที่มีประสิทธิภาพโครงการเส้นทางเป็นวิธีหนึ่งในการบรรลุการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของต่อมน้ำ. โหนดใช้พลังงานในขณะที่การส่งสัญญาณการส่งสัญญาณไปยังต่อมน้ำเพื่อนบ้านเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการดำรงอยู่ของพวกเขาหรือส่งข้อมูลไปยังโหนดอื่น[4] .When โหนดกลางได้รับการคัดเลือก เป็นเราเตอร์มันสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นกว่าโหนดไม่ได้ใช้งานในขณะที่มันเป็นงานที่มีส่วนร่วมในการสื่อสาร[10] ดังนั้นที่เหลือโหนดส์พลังงานเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดเส้นทางที่จะประสบความสำเร็จเสร็จสิ้นการถ่ายโอนข้อมูลโดยไม่หยุดชะงัก ดังนั้นเส้นทางโปรโตคอลที่จะพิจารณาโหนดพลังงานที่เหลือจะดำเนินการดีกว่าโปรโตคอลที่ทำไม่ได้

Results (Thai) 3:

แต่ละโหนดใน MANET ที่ทำหน้าที่เป็นโฮสต์และ / หรือเราเตอร์
ผลิต การบริโภค หรือการส่งต่อข้อมูล [ 7 ] โหนดเหล่านี้
ติดตั้งและขับเคลื่อนโดยแบตเตอรี่
การมีส่วนร่วมโหนด ' พลังงานแบตเตอรี่ ในเส้นทาง เส้นทางจะสั้นลง
อายุการใช้งานเครือข่าย ที่ชาร์จหรือ
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ในเว็บไซต์เป็นการผ่าตัดที่ยาก มันเป็น
ต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายอายุการใช้งานของโหนด
[ 8-9 ] การพัฒนาประสิทธิภาพพลังงาน
เส้นทางโครงการเป็นวิธีหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของโหนด โหนด
.
สิ้นเปลืองพลังงานในขณะที่ส่งสัญญาณเตือน
ใกล้เคียงโหนดสำหรับวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบการดำรงอยู่ของพวกเขา
หรือการส่งข้อมูลไปยังอีกโหนดเมื่อ
[ 4 ]โหนดกลางได้รับเลือกเป็นเราเตอร์ ,
กินพลังงานมากกว่าโหนดไม่ได้ใช้งานมันอย่าง
มีส่วนร่วมในการสื่อสาร [ 10 ] ดังนั้น โหนด ' ตกค้าง
พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเส้นทางที่จะประสบความสำเร็จ
เสร็จสิ้นการถ่ายโอนข้อมูลโดยไม่สะดุด ดังนั้น
เส้นทางที่พิจารณาโหนด ' ตกค้างพลังงาน
จะแสดงได้ดีกว่าระบบที่ไม่