ohan Christian Fabricius (7 January

ohan Christian Fabricius (7 January 1745 – 3 March 1808) was a Danish zoologist, specialising in "Insecta", which at that time included all arthropods: insects, arachnids, crustaceans and others. He was a student of Carl Linnaeus, and is considered one of the most important entomologists of the 18th century, having named nearly 10,000 species of animal, and established the basis for modern insect classification.

Contents

1 Biography
2 Works
3 References
4 Further reading
5 External links

Biography

Johan Christian Fabricius was born on 7 January 1745 at Tønder in the Duchy of Schleswig, where his father was a doctor.[1][2] He studied at the gymnasium at Altona and entered the University of Copenhagen in 1762.[3] Later the same year he travelled together with his friend and relative Johan Zoëga to Uppsala, where he studied under Carl Linnaeus for two years.[3] On his return, he started work on his Systema entomologiæ, which was finally published in 1775.[3] Throughout this time, he remained dependent on subsidies from his father, who worked as a consultant at Frederiks Hospital.[3]

Fabricius was appointed a professor in Copenhagen in 1770, and in 1775 or 1776, the University of Kiel appointed Fabricius Professor of Natural History and Economics, promising that they would build a natural history museum and a botanical garden.[2] Although he tried to resign three times, on one occasion only being prevented by an appeal from his students to the Danish King and Duke of Schleswig, Christian VII,[2] Fabricius held the position at Kiel for the rest of his life.[1]

During his time in Kiel, Fabricius repeatedly travelled to London in the summer to study the collections of British collectors, such as Joseph Banks and Dru Drury.[4] Towards the end of his career, Fabricius spent much of his time living in Paris, where he frequently met with naturalists such as Georges Cuvier and Pierre André Latreille,[2] but on hearing of the British attack on Copenhagen in 1807, Fabricius returned to Denmark, damaging his already fragile health. He died on the 3rd of March 1808, at the age of 63.[2] His daughter died in an accident in Paris, but he was survived by two sons, who both studied medicine.[1]
Works

Fabricius is considered one of the greatest entomologists of the 18th century.[2] He was a greater observer of insects than his more botanically-minded mentor, Carl Linnaeus. Fabricius named 9,776 species of insects, compared to Linnaeus' tally of around 3,000.[5] He identified many Tenebrionidae species from the Egyptian Sinai, however, these identifications were made on the basis of other entomologists collections. [6]

Fabricius added two distinct areas to the classification system. He considers both artificial and natural characteristics. Artificial characteristics allow for the determination of a species, and natural allow for the relationship to other genera and varieties. [5]

The evolutionary idea of Fabricius are not as well known. He believed that new species could be formed by the hybridization of existing species. He also has been called the "Father of Lamarckism" because of his belief that new species can form from morphological adaptation. This agrees with Lamarck's Theory of Acquired Characteristics. [7]

In contrast to Linnaeus' classification of the insects, which was based primarily on the number of wings, and their form, Fabricius used the form of the mouthparts to discriminate the orders (which he termed "classes").[5] He stated "those whose nourishment and biology are the same, must then belong to the same genus".[8] Fabricius' system remains the basis of insect classification today, although the names he proposed are not. For instance, his name for the order containing the beetles was "Eleutherata", rather than the modern "Coleoptera", and he used "Piezata" for Hymenoptera; his term Glossata is still in use, but for a slightly smaller group among the Lepidoptera, rather than the whole order. Fabricius also foresaw that the male genitalia would provide useful characters for systematics, but could not apply that insight himself.[8]

Fabricius was the first to divide the Staphylinidae (rove beetles), which Linnaeus had considered a single genus he called "Staphylinus," establishing in 1775 the genus Paederus. He also described 77 species of Staphylinidae.[9]

His major works on systematic entomology were:[5]

Results (Thai) 1:

Ohan Fabricius คริสเตียน (7 มกราคม 1745 - 3 มีนาคม 1808) เป็นนักธรรมชาตินิยมเดนมาร์กมีความเชี่ยวชาญใน "insecta" ซึ่งในเวลานั้นรวมรพทั้งหมด: แมลง arachnids กุ้งและคนอื่น ๆ เขาเป็นนักเรียนของคาร์ลลินเนอัสและถือเป็นหนึ่งใน entomologists ที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ 18 ที่มีชื่อเกือบ 10,000 สายพันธุ์ของสัตว์และสร้างพื้นฐานสำหรับการจัดหมวดหมู่แมลงที่ทันสมัย​​.



เนื้อหา 1 ประวัติ 2 ผลงาน

3
4 อ้างอิงอ่านต่อ
5 การเชื่อมโยงภายนอก



ชีวประวัติ Fabricius คริสเตียนโจฮานเกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1745 ที่tønderในขุนนางของ ชเลสวิกที่พ่อของเขาเป็นหมอ. [1] [2] เขาเรียนที่โรงยิมที่อัลโตและเข้ามหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนใน 1,762[3] ต่อมาในปีเดียวกันเขาเดินทางร่วมกับเพื่อนและ Zoega โจฮานญาติของเขาเพื่อ uppsala ที่เขาศึกษาภายใต้ลินเนอัสคาร์ลเป็นเวลาสองปี. [3] เมื่อเขากลับมาเขาเริ่มทำงานในentomologiæ systema ของเขาซึ่งถูกตีพิมพ์ในที่สุด 1775. [3] ตลอดเวลานี้เขาก็ยังคงขึ้นอยู่กับเงินอุดหนุนจากพ่อที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาที่โรงพยาบาล Frederiks ของเขา. [3]

Fabricius ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์ในโคเปนเฮเกนในปี 1770 และใน 1775 หรือ 1776 มหาวิทยาลัยคีลได้รับการแต่งตั้งศาสตราจารย์ Fabricius ของประวัติศาสตร์ธรรมชาติและเศรษฐกิจมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์. [2] แม้ว่าเขาจะพยายามที่จะ ลาออกสามครั้งมีอยู่ครั้งหนึ่งได้รับการป้องกันโดยเฉพาะการอุทธรณ์จากนักเรียนของเขาไปยังกษัตริย์เดนมาร์กและดยุคแห่งชเลสวิก, คริสเตียน vii, [2] Fabricius ในตำแหน่งที่คีลสำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตของเขา. [1]

ช่วงเวลาที่เขาในคีล , Fabricius ซ้ำเดินทางไปลอนดอนในช่วงฤดู​​ร้อนที่จะศึกษาคอ​​ลเลกชันของนักสะสมชาวอังกฤษเช่นธนาคาร joseph และ Dru ดรูรี่. [4] ในช่วงสุดท้ายของอาชีพของเขาFabricius ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเวลาของเขาที่อาศัยอยู่ในปารีสซึ่งเขาได้พบบ่อยกับธรรมชาติเช่น georges คูวิเออร์และ pierre Andréเทอรี่ [2] แต่ในการได้ยินของการโจมตีของอังกฤษในโคเปนเฮเกนใน 1807 Fabricius กลับไปยังเดนมาร์กเสียหายสุขภาพที่เปราะบางอยู่แล้วของเขา . เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1808 ตอนอายุ 63. [2] ลูกสาวของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุในปารีส,แต่เขารอดชีวิตมาได้จากลูกชายสองคนที่ทั้งสองเรียนแพทย์. [1]


ทำงาน Fabricius ถือเป็นหนึ่งใน entomologists ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 18. [2] เขาเป็นผู้สังเกตการณ์ของแมลงมากขึ้นกว่าพฤกษศาสตร์ใจเดียวกันที่ปรึกษาของเขา , คาร์ลลินเนอัส Fabricius 9776 ชื่อสายพันธุ์ของแมลงเมื่อเทียบกับลินเนอัสนับ 'ประมาณ 3,000[5] เขาระบุหลายชนิด tenebrionidae จาก sinai อียิปต์ แต่ระบุเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของคอลเลกชัน entomologists อื่น ๆ [6]

Fabricius เพิ่มอีกสองพื้นที่ที่แตกต่างกับระบบการจัดหมวดหมู่ เขาคิดว่าลักษณะทั้งเทียมและธรรมชาติ ลักษณะเทียมอนุญาตให้มีการกำหนดสายพันธุ์ที่และเป็นธรรมชาติช่วยให้ความสัมพันธ์กับสกุลอื่น ๆ และพันธุ์ [5]

ความคิดวิวัฒนาการของ Fabricius จะไม่เป็นที่รู้จักกันดี เขาเชื่อว่าสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ของสายพันธุ์ที่มีอยู่ นอกจากนี้เขายังได้รับการเรียกว่า "พ่อของ Lamarckism" เพราะเขาเชื่อว่าสายพันธุ์ใหม่สามารถสร้างจากการปรับตัวก้านนี้เห็นด้วยกับทฤษฎีมาร์คของลักษณะที่ได้มา [7]

ในทางตรงกันข้ามกับการจัดหมวดหมู่ลินเนอัส 'ของแมลงซึ่งเป็นพื้นฐานหลักในจำนวนของปีกและรูปแบบของพวกเขา Fabricius ใช้รูปแบบของปากในการแยกแยะคำสั่งซื้อ (ซึ่งเขาเรียกว่า "การเรียน"). [ 5] เขาระบุว่า "บรรดาผู้ที่บำรุงและชีววิทยาเหมือนกันแล้วต้องเป็นชนิดเดียวกัน"[8] Fabricius ระบบยังคงเป็นพื้นฐานของการจัดหมวดหมู่แมลงในวันนี้แม้จะมีชื่อเขาเสนอไม่ได้ เช่นชื่อของเขาสำหรับการสั่งซื้อที่มีแมลงเป็น "eleutherata" มากกว่า "Coleoptera" โมเดิร์นและเขาใช้ "piezata" สำหรับการ hymenoptera; Glossata ระยะของเขายังคงอยู่ในการใช้งาน แต่สำหรับกลุ่มขนาดเล็กในหมู่ผีเสื้อ มากกว่าการสั่งซื้อทั้งหมดFabricius ยังเล็งเห็นว่าอวัยวะเพศชายจะให้ตัวละครที่มีประโยชน์สำหรับระบบนี้ แต่ไม่สามารถใช้ความเข้าใจว่าตัวเอง. [8]

Fabricius เป็นครั้งแรกที่จะแบ่ง Staphylinidae (ด้วงจร) ซึ่งลินเนอัสได้พิจารณาประเภทเดียวที่เขาเรียกว่า " staphylinus "สร้างใน 1775 paederus ประเภท นอกจากนี้เขายังอธิบาย 77 ชนิดของ Staphylinidae. [9]

ผลงานที่สำคัญของเขาในกีฏวิทยาระบบได้ [5]

Results (Thai) 2:

ม่าคริสเตียนขาวแวนนาไม (7 1745 มกราคม – 3 1808 มีนาคม) เป็นธรณีวิทยาเดนมาร์ก specialising ใน "Insecta" ซึ่งในขณะนั้นรวมทั้งหมด arthropods: แมลง arachnids ครัสเตเชีย และอื่น ๆ เขาเป็นนักศึกษาของลัส และถือเป็นหนึ่งใน entomologists ที่สำคัญที่สุดของศตวรรษที่ 18 มีชื่อพันธุ์สัตว์ เกือบ 10000 และสร้างพื้นฐานแห่งแมลงประเภท

เนื้อหา

ประวัติ 1
2 งาน
อ้างอิง 3
4 อ่านเพิ่มเติม
5 ลิงก์

ประวัติ

ขาวแวนนาไมคริสเตียนโยเกิด 7 1745 มกราคมที่ Tønder ในแห่งชเลดัชชีของสวิก ที่พ่อของเขาเป็นแพทย์[1][2] เขาเรียนที่โรงยิมที่ Altona และป้อนมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนใน 1762[3] เดินต่อมาในปีเดียวกันเขาทางร่วมกับเพื่อนและญาติโย Zoëga ของเขาไป Uppsala ที่เขาศึกษาภายใต้ลัสสำหรับสองปี[3] การกลับมาของเขา เขาเริ่มทำงานบนเขา entomologiæ Systema ซึ่งในที่สุดมีการเผยแพร่ใน 1775 แอดเด[3] ตลอดเวลา เขายังคงพึ่งเงินอุดหนุนจากบิดาของเขา ที่ทำงานเป็นปรึกษาโรงพยาบาล Frederiks[3]

ขาวแวนนาไมถูกแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ในโคเปนเฮเกนใน 1770 และใน 1775 แอดเดหรือ 1776 มหาวิทยาลัย Kiel แต่งตั้งศาสตราจารย์ขาวแวนนาไมธรรมชาติประวัติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ สัญญาว่า พวกเขาจะสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์[2] ถึงแม้ว่าเขาพยายามเลิกเล่นสามครั้ง เฉพาะ การป้องกัน โดยการขอร้องจากนักเรียนของกษัตริย์เดนมาร์กและดยุคแห่งชเลสวิก คริสเตียน VII ครั้งหนึ่ง [2] ขาวแวนนาไมจัดตำแหน่งที่ Kiel สำหรับส่วนเหลือของชีวิตของเขา[1]

เดินในช่วงเวลาของเขาใน Kiel ขาวแวนนาไมซ้ำทางไปลอนดอนในช่วงฤดูร้อนเพื่อศึกษาชุดสะสมอังกฤษ โจเซฟธนาคารและร้าน Dru[4] ในตอนท้ายของอาชีพของเขา ขาวแวนนาไมใช้มากเวลาอยู่ ในปารีส ซึ่งเขามักจะพบกับนักธรรมชาติวิทยาเช่นจอร์จ Cuvier และ Pierre André Latreille, [2] แต่ได้ยินโจมตีอังกฤษในโคเปนเฮเกนใน 1807 ขาวแวนนาไมกลับไปเดนมาร์ก ทำลายสุขภาพของเขาแล้วเปราะบาง เขาตายใน 1808 มีนาคมที่ 3 อายุ 63[2] ลูกสาวของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุในปารีส แต่เขามีชีวิตรอด โดยบุตรชายสองคน ซึ่งทั้งสองศึกษาแพทยศาสตร์[1]
งาน

ขาวแวนนาไมจะถือเป็นหนึ่งใน entomologists ที่สุดของศตวรรษ 18[2] เขาถูกนักการมากกว่าแมลงกว่าเขามาก botanically เที่ยวปรึกษา คาโรลัส ขาวแวนนาไมชื่อพันธุ์แมลง เปรียบเทียบกับของ Linnaeus ส้นสูงของรอบ 3000 9,776[5] เขาระบุหลายชนิด Tenebrionidae จากวซิไนเอ็มดีอียิปต์ ไร รหัสเหล่านี้ได้ทำคอลเลกชัน entomologists อื่น ๆ [6]

ขาวแวนนาไมเพิ่มพื้นที่แตกต่างกันสองระบบจำแนกประเภท เขาพิจารณาลักษณะธรรมชาติ และประดิษฐ์ ลักษณะประดิษฐ์ให้กำหนดชนิด และธรรมชาติให้สัมพันธ์กับสกุลและสายพันธุ์อื่น ๆ [5]

คิดวิวัฒนาการของขาวแวนนาไมจะไม่เป็นที่รู้จักกัน เขาเชื่อว่า สามารถเกิดสปีชีส์ใหม่ โดย hybridization อยู่พันธุ์ เขายังมีการเรียก "พ่อของ Lamarckism" เนื่องจากความเชื่อของเขาว่าพันธุ์ใหม่สามารถสร้างจากการปรับตัวของ นี้ตกลงกับของ Lamarck ทฤษฎีของซื้อลักษณะ [7]

ตรงข้ามประเภทของ Linnaeus แมลง ซึ่งเป็นไปตามหลักของปีก และแบบฟอร์มของพวกเขา ขาวแวนนาไมใช้แบบของ mouthparts การถือเขาถือเราสั่ง (ซึ่งเขาเรียกว่า "ชั้น")[5] เขาระบุ "ผู้บำรุงและชีววิทยากัน ต้องแล้วเป็นพืชสกุลเดียวกัน"[8] ขาวแวนนาไมของระบบยังคง พื้นฐานของประเภทแมลงวันนี้ ถึงแม้ว่าชื่อที่เขาเสนอไม่ เช่น ใบสั่งที่ประกอบด้วยด้วงชื่อของเขาคือ "Eleutherata" ดีกว่าสมัย "Coleoptera" และเขาใช้ "Piezata" สำหรับแตน ระยะของเขา Glossata ถูกใช้ แต่ สำหรับกลุ่มเล็กระหว่างการเจาะต้น แทนใบสั่งทั้งหมด ขาวแวนนาไม foresaw ที่อวัยวะเพศชายจะมีอักขระที่เป็นประโยชน์สำหรับอนุกรมวิธานของ แต่ไม่สามารถใช้ที่เข้าใจตัวเอง[8]

ขาวแวนนาไมเป็นคนแรกเพื่อแบ่ง Staphylinidae (ลจรอักษรด้วง), Linnaeus ที่ได้ถือว่าเป็นสกุลเดียวที่เขาเรียกว่า "Staphylinus สร้างใน 1775 แอดเดสกุล Paederus นอกจากนี้เขายังอธิบายพันธุ์ Staphylinidae 77[9]

มีผลงานสำคัญในระบบกีฏวิทยา: [5]

Results (Thai) 3:

ชาวคริสต์ ohan fabricius ( 7 มกราคม 1745 - 3 มีนาคม 1808 )เป็นนักสัตววิทยาเดนมาร์กที่พิเศษไปด้วยใน" insecta "ซึ่งในช่วงเวลาที่มี arthropods ทั้งหมดแมลง arachnids ผู้อื่นและถูกฟ้อง เขาเป็นนักเรียนของคาร์ล linnaeus และได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งใน entomologists ที่มีความสำคัญอย่างสูงสุดของศตวรรษที่ 18 ที่มีชื่อว่าเกือบ 10 , 000 สายพันธุ์ของสัตว์และที่สร้างขึ้นสำหรับแมลงที่ทันสมัยการแบ่ง ประเภท .

เนื้อหา

1 ประวัติ

ตามมาตรฐานการทำงาน 234 การอ้างอิง

หนังสืออ่านเพิ่มเติม 5 ภายนอก L

ประวัติ

พื้นที่ Karl Johan คริสเตียน fabricius เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1745 ที่ tønder ใน Duchy แห่ง schleswig ซึ่งบิดาของเขาเป็นหมอ.[ 1 ],[ 2 ]เขาศึกษาที่ยิมเนเซียมที่ altona และป้อนที่มหาวิทยาลัย Copenhagen ใน 1762 .[ 3 ]ใน ภายหลัง ในปีเดียวกับที่เขาเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนของเขาและพื้นที่ Karl Johan zoëga เทียบกับ uppsala ที่เขาศึกษาตามเลนส์ Carl linnaeus สำหรับสองปี.[ 3 ]ในระหว่างการเดินทางกลับของเขาเขาเริ่มงานบน entomologiæ ระบบของเขาซึ่งก็มีการตีพิมพ์ใน 1775 .[ 3 ]ตลอดช่วงเวลานี้จนในที่สุดเขาก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นอยู่กับเงินอุดหนุนจากพ่อของเขาซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาที่ frederiks โรงพยาบาล.[ 3 ]

fabricius ได้รับการแต่งตั้งศาสตราจารย์ในโคเปนเฮเกนใน 1770 และอยู่ใน 1775 หรือ 1776 มหาวิทยาลัยที่ได้รับการตกแต่งของคีล fabricius ศาสตราจารย์ของประวัติศาสตร์ธรรมชาติและเศรษฐศาสตร์และสัญญาว่าจะสร้าง พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์ที่.[ 2 ]แม้ว่าเขาพยายามจะลาออกจากตำแหน่งสามครั้งในหนึ่งครั้งเท่านั้นที่จะสามารถป้องกันได้โดยให้อุทธรณ์ของเขานักเรียนที่เดนมาร์กและเจ้านายของ schleswig ,คริสเตียน๗,[ 2 ] fabricius ซึ่งจัดขึ้นที่ตำแหน่งที่เมืองคีลสำหรับส่วนที่เหลือของชีวิต.[ 1 ],

ในระหว่างช่วงเวลาของเขาในเมืองคีล, fabricius ซ้ำหลายครั้งออกเดินทางไปยังกรุงลอนดอนในช่วงฤดูร้อนเพื่อการศึกษาที่คอลเลกชันของบริติชนักสะสมเช่นโยเซฟธนาคารและแซ่กั๊วะได้ Drury Lane Theatre .[ 4 ]ไปที่ปลายของอาชีพของเขา,fabricius ใช้เวลามากในช่วงวันเวลาของเขาอยู่ใน Paris สถานที่ซึ่งเขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวเช่น Georges cuvier และปิแอร์ andré latreille [ 2 ]แต่ในการได้ยินของการโจมตีอังกฤษในโคเปนเฮเกนใน 1807 fabricius กลับไปเดนมาร์กให้เกิดความเสียหายกับ สุขภาพ ของเขาอ่อนแออยู่แล้ว เขาเสียชีวิตในวันที่ 3 ของเดือนมีนาคม 1808 ที่มีอายุต่ำกว่า 63 .[ 2 ]บุตรสาวของเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุใน Parisแต่เขาก็อยู่รอดโดยบุตรชายทั้งสองคนที่ทั้งสองเรียนยารักษาโรค.[ 1 ]
ทำงาน

fabricius ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งใน entomologists มากที่สุดของศตวรรษที่ 18 .[ 2 ]ที่เขาเป็นคนที่มากขึ้นของแมลงมากกว่าที่ปรึกษาเพิ่มเติมในทางพฤกษศาสตร์ - ใจของเขา Carl linnaeus fabricius 9,776 ตั้งชื่อสายพันธุ์ของแมลงเมื่อเทียบกับการนับคะแนนของ linnaeus ประมาณ 3 , 000[ 5 ]เขาระบุว่าสายพันธุ์ tenebrionidae จำนวนมากจากซีนายตามแบบอียิปต์ที่ชัดเจนอย่างไรก็ตามเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของคอลเลกชัน entomologists อื่นๆ [ 6 ]

fabricius เพิ่มสองพื้นที่ที่โดดเด่นในระบบการแบ่ง ประเภท ได้ เขาเห็นว่าลักษณะทั้งเทียมและเป็นธรรมชาติ ลักษณะเฉพาะของเทียมทำให้สำหรับการกำหนดสายพันธุ์ที่และเป็นธรรมชาติช่วยให้ความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เพื่อความหลากหลายและสกุลของพืชและสัตว์อื่นๆ [ 5 ],

ความคิดวิวัฒนาการของ fabricius ไม่ได้เป็นที่รู้จัก เขาเชื่อว่าสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้โดย hybridization ของสายพันธุ์ที่มีอยู่ เขายังได้รับการขนานนามว่า"พ่อของ lamarckism "เพราะความเชื่อของเขาที่ว่าสายพันธุ์ใหม่สามารถที่จะสร้างเกี่ยวกับวิชาว่าด้วยรูปร่างลักษณะการปรับตัวโรงแรมแห่งนี้เห็นด้วยกับทฤษฎีของ lamarck ลักษณะของได้รับ [ 7 ],

ในทางตรงกันข้ามกับการแบ่ง ประเภท :' linnaeus ของแมลงที่เป็นพื้นฐานเป็นหลักตามหมายเลขที่ได้ของปีกและรูปแบบของพวกเขา fabricius ใช้รูปแบบของ mouthparts เพื่อเลือกปฏิบัติตามคำสั่ง(ซึ่งเขาเรียกว่า"เรียน")[ 5 ]เขากล่าว"ที่มีอาหารและชีววิทยาจะเหมือนกับที่ต้องเป็นของกะเดียวกันแล้ว"[ 8 ]ระบบ' fabricius ยังคงเป็นพื้นฐานของการแบ่ง ประเภท แมลงวันนี้แม้ว่าชื่อที่เขาเสนอไม่ได้ ตัวอย่างเช่นชื่อของเขาสำหรับการสั่งซื้อที่มีแมลงที่เป็น" eleutherata "มากกว่าที่ทันสมัย" coleoptera "และเขาก็ใช้" piezata "สำหรับ hymenoptera ระยะสั้นของเขา glossata ก็ยังใช้งานอยู่ได้แต่สำหรับกลุ่มที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยใน lepidoptera ที่มากกว่าการสั่งซื้อทั้งหมดfabricius นอกจากนั้นยังต้องกลัดกลุ้มที่อวัยวะเพศชายจะให้ตัวเป็นประโยชน์สำหรับ systematics แต่ก็ไม่ได้ใช้ความรู้ความเข้าใจว่าตัวเอง.[ 8 ]

fabricius ก็เป็นคนแรกที่แบ่ง staphylinidae (แมลงปีกแข็งตุหรัดตุเหร่)ซึ่ง linnaeus ได้รับการพิจารณาให้กะคนเดียวที่เขาเรียกว่า" staphylinus "การจัดตั้งใน 1775 กะที่ paederus เขายังได้อธิบายไว้ 77 สายพันธุ์ของ staphylinidae .[ 9 ],

การทำงานที่สำคัญของเขาในกีฏวิทยาอย่างเป็นระบบเป็น:[ 5 ]