The specific contaminants leading t

The specific contaminants leading to pollution in water include a wide spectrum of chemicals, pathogens, and physical changes such as elevated temperature and discoloration. While many of the chemicals and substances that are regulated may be naturally occurring (calcium, sodium, iron, manganese, etc.) the concentration is often the key in determining what is a natural component of water and what is a contaminant. High concentrations of naturally occurring substances can have negative impacts on aquatic flora and fauna.

Oxygen-depleting substances may be natural materials such as plant matter (e.g. leaves and grass) as well as man-made chemicals. Other natural and anthropogenic substances may cause turbidity (cloudiness) which blocks light and disrupts plant growth, and clogs the gills of some fish species.[12]

Many of the chemical substances are toxic. Pathogens can produce waterborne diseases in either human or animal hosts.[13] Alteration of water's physical chemistry includes acidity (change in pH), electrical conductivity, temperature, and eutrophication. Eutrophication is an increase in the concentration of chemical nutrients in an ecosystem to an extent that increases in the primary productivity of the ecosystem. Depending on the degree of eutrophication, subsequent negative environmental effects such as anoxia (oxygen depletion) and severe reductions in water quality may occur, affecting fish and other animal populations.

Results (Thai) 1:

สารปนเปื้อนเฉพาะที่นำไปสู่มลพิษน้ำรวมหลากหลายของสารเคมี เชื้อโรค และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเช่นอุณหภูมิสูงและการเปลี่ยนสี ในขณะที่สารเคมีและสารที่ถูกควบคุมอาจจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ (แคลเซียม โซเดียม เหล็ก แมงกานีส ฯลฯ) ความเข้มข้นมักจะเป็นคีย์ในการกำหนดส่วนประกอบตามธรรมชาติของน้ำคืออะไรและอะไรเป็นสิ่งปลอมปน ความเข้มข้นสูงของธรรมชาติเกิดขึ้นสารสามารถมีผลกระทบทางลบในน้ำพืชและสัตว์ออกซิเจนผ่านสารอาจเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นเรื่องพืช (เช่นใบไม้และหญ้า) รวมทั้งสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น สารอื่น ๆ ที่เป็นธรรมชาติ และที่มาของมนุษย์อาจทำให้เกิดความขุ่น (เมฆ) ซึ่งบล็อกแสง และ disrupts การเจริญเติบโตของพืช และอุดตันที่เหงือกของปลาบางชนิด [12]ของสารเคมีมีพิษ เชื้อโรคสามารถผลิตน้ำโรคในมนุษย์ หรือสัตว์โฮสต์ [13] ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางเคมีกายภาพของน้ำมีความเป็นกรด (ค่า pH เปลี่ยนแปลง), การนำไฟฟ้า อุณหภูมิ และผลกระทบต่อ ผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของสารเคมีในระบบนิเวศแบบเท่าที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหลักของระบบนิเวศได้ ขึ้นอยู่กับระดับของผลกระทบต่อ ต่อสิ่งแวดล้อมกระทบเช่น anoxia (สูญเสียออกซิเจน) และคุณภาพน้ำลดอย่างรุนแรงอาจเกิดขึ้น ผลกระทบต่อปลาและประชากรสัตว์อื่น ๆ

Results (Thai) 2:

สารปนเปื้อนที่เฉพาะเจาะจงที่นำไปสู่มลพิษในน้ำรวมถึงคลื่นความถี่กว้างของสารเคมีเชื้อโรคและการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเช่นอุณหภูมิสูงขึ้นและการเปลี่ยนสี ในขณะที่หลายสารเคมีและสารที่มีการควบคุมอาจจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ (แคลเซียมโซเดียม, เหล็ก, แมงกานีส, ฯลฯ ) ความเข้มข้นมักจะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดสิ่งที่เป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของน้ำและสิ่งที่เป็นสารปนเปื้อน ความเข้มข้นสูงของสารธรรมชาติที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบในทางลบต่อพืชและสัตว์น้ำ.

สารออกซิเจนบรรยากาศอาจจะเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นพืช (เช่นใบและหญ้า) เช่นเดียวกับสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น สารธรรมชาติและมนุษย์อื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขุ่น (เมฆ) ซึ่งบล็อกไฟและขัดขวางการเจริญเติบโตของพืชและอุดตันเหงือกของปลาบางชนิดได้. [12]

หลายคนของสารเคมีเป็นพิษ เชื้อโรคสามารถผลิตน้ำโรคทั้งในโฮสต์มนุษย์หรือสัตว์. [13] การเปลี่ยนแปลงของเคมีกายภาพของน้ำมีความเป็นกรด (การเปลี่ยนแปลงในค่า pH) การนำไฟฟ้าที่อุณหภูมิและ eutrophication eutrophication การเพิ่มความเข้มข้นของสารอาหารเคมีในระบบนิเวศที่มีขอบเขตที่เพิ่มขึ้นในการผลิตหลักของระบบนิเวศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับของ eutrophication ผลกระทบที่ตามมาในเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นการล้มเหลว (พร่องออกซิเจน) และการลดลงอย่างรุนแรงในคุณภาพน้ำอาจเกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อปลาและประชากรสัตว์อื่น ๆ

Results (Thai) 3:

โดยเฉพาะสารปนเปื้อนที่นำไปสู่มลพิษในน้ำรวมถึงสเปกตรัมกว้างของสารเคมี เชื้อโรค และการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น อุณหภูมิสูงและกระ ในขณะที่หลายของสารเคมี และสารที่ถูกควบคุมอาจจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ( แคลเซียม , โซเดียม , เหล็ก , แมงกานีส , ฯลฯ ) ความเข้มข้นมักจะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดสิ่งที่เป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของน้ำและสิ่งที่เป็นสิ่งปนเปื้อน ความเข้มข้นสูงของเกิดขึ้นตามธรรมชาติสารสามารถมีผลกระทบเชิงลบในพืชสัตว์และพืชออกซิเจนใช้สารที่อาจเป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น เรื่องพืช เช่น ใบไม้ และหญ้า ) รวมทั้งสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น ธรรมชาติของสสารและมนุษย์อื่น ๆอาจก่อให้เกิดความขุ่น ( ความขุ่น ) ซึ่งบล็อกแสงและขัดขวางการเจริญเติบโตของพืชและป้องกันเหงือกของปลา [ 12 ]หลายของสารเคมีที่เป็นพิษ เชื้อโรคสามารถผลิต waterborne โรคในมนุษย์หรือสัตว์โฮสต์ [ 13 ] การเปลี่ยนแปลงของน้ำ ทางเคมี รวมถึงกรด ( เปลี่ยนค่า pH ) , อุณหภูมิ , ไฟฟ้าและบานชื่น . บานชื่นเป็นการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของธาตุอาหารสารเคมีในระบบนิเวศมีขอบเขตที่เพิ่มขึ้นในการผลิตหลักของระบบนิเวศ ขึ้นอยู่กับระดับของบานชื่น ต่อมาลบ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะขาดออกซิเจน ( การพร่องออกซิเจน ) และลดลงอย่างรุนแรงในคุณภาพน้ำอาจเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชากรปลาและสัตว์อื่น ๆ