Baking flourished in the Roman Empi

Baking flourished in the Roman Empire from as early as 300BC but it wasn’t until 168BC that the first Bakers Guild was formed, within 150 years there were more than three hundred specialist pastry chefs in Rome.

The whole craft was incorporated in a guild of bakers - COLLEGIUM PISTORUM - and was of so high repute in the affairs of the state that one of its representatives had a seat in the Senate. The ruins of Pompeii and other buried cities have revealed the kind of bakeries that existed in those historic times.

The Romans enjoyed several kinds of bread, with interesting names. Lentaculum, made originally flat, round loaves made of emmer, (a cereal grain closely related to wheat flour) with a bit of salt were eaten. There was also oyster bread (to be eaten with oysters); 'artolaganus' or cakebread; 'speusticus' or 'hurry bread', tin bread, Parthian bread and the Roman Style Slipper Loaf

Breads were made richer by adding milk, eggs and butter, but only the wealthy and privileged could afford these. The Egyptian grammarian and philosopher Athenaeus, who lived in the 3rd century A.D., has handed down to us considerable knowledge about bread and baking in those days.

Results (Thai) 1:

อบเจริญรุ่งเรืองในอาณาจักรโรมันจากเป็นช่วงต้นเป็น 300BC แต่มันไม่ได้จนกว่า 168bc ว่าขนมปังสมาคมแรกที่ถูกสร้างขึ้นภายใน 150 ปีมีมากกว่าสามร้อยผู้เชี่ยวชาญพ่อครัวขนมใน rome.

งานฝีมือทั้งเป็น บริษัท ที่อยู่ในสมาคมของขนมปัง - pistorum Collegium - และเป็นที่มีชื่อเสียงสูงมากในกิจการของรัฐว่าเป็นหนึ่งในตัวแทนของมีที่นั่งในวุฒิสภา ซากปรักหักพังของปอมเปอีและเมืองอื่น ๆ ที่ฝังอยู่ได้เปิดเผยชนิดของเบเกอรี่ที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ครั้งนั้น.

ชาวโรมันมีความสุขหลายชนิดของขนมปังที่มีชื่อที่น่าสนใจ lentaculum,ทำแบนเดิมก้อนกลมที่ทำจากข้าวสาลี, (เมล็ดธัญพืชที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับแป้งสาลี) กับบิตของเกลือถูกกิน ยังมีขนมปังหอยนางรม (จะกินกับหอยนางรม); 'artolaganus หรือ cakebread; speusticus' หรือ 'ขนมปังรีบ' ขนมปังดีบุกขนมปัง parthian และรองเท้าแตะก้อนสไตล์โรมัน

ขนมปังที่ทำขึ้นโดยการเพิ่มนมไข่ และเนยแต่ร่ำรวยและสิทธิพิเศษสามารถจ่ายเหล่านี้ ไวยากรณ์อียิปต์และอะธีนักปรัชญาที่อาศัยอยู่ในโฆษณาศตวรรษที่ 3 ได้ส่งลงมาให้เรารู้มากเกี่ยวกับขนมปังและเบเกอรี่ในวันนั้น

Results (Thai) 2:

อบความเจริญรุ่งเรืองในอาณาจักรโรมันตั้งแต่ช่วงที่เป็น 300BC แต่มันไม่ได้จนถึง 168BC ที่ก่อตั้งสมาคม Bakers แรก ภายใน 150 ปี มีพ่อครัวขนมผู้เชี่ยวชาญมากกว่าสามร้อยในโรม

เรือทั้งหมดถูกรวมอยู่ในกิลด์ของ bakers - COLLEGIUM PISTORUM - และมีชื่อสูงในกิจการของรัฐที่มีตัวแทนของหนึ่งมีที่นั่งในวุฒิสภา ซากปรักหักพังของปอมเปอีและเมืองอื่น ๆ ฝังได้เปิดเผยชนิดของร้านเบเกอรี่ที่อยู่ในบรรดาประวัติศาสตร์ครั้งนั้น

โรมที่ชอบขนมปัง มีชื่อน่าสนใจหลายชนิด Lentaculum ทำครั้งแรกแบน กลม loaves ทำ emmer, (เมล็ดธัญพืชอย่างใกล้ชิดกับสาลี) กับบิตของเกลือก็กิน นอกจากนี้ยังมีขนมปังหอยนางรม (การรับประทานกับหอยนางรม); 'artolaganus' หรือ cakebread 'speusticus' หรือ 'รีบขนมปัง' ทินขนมปัง ขนมปังพาร์เทียน และ ชิ้นรองเท้าแตะสไตล์โรมัน

ขนมปังได้ทำขึ้น โดยการเพิ่มน้ำนม ไข่ และ เนย แต่เท่ามั่งคั่ง และมีสิทธิพิเศษสามารถจ่ายเหล่านี้ Grammarian อียิปต์และนักปราชญ์ Athenaeus คน 3 ฝน ได้ทอดให้เรารู้มากเกี่ยวกับขนมปังและเบเกอรี่ในนั้น

Results (Thai) 3:

อบเท่าไรในอาณาจักรโรมันที่จากในช่วงต้น 300 BC แต่ก็ไม่ได้จนกว่า 168 BC ที่ขนมสมาคมเป็นครั้งแรกที่มาอยู่ ภายใน 150 ปียังมีอีกมากกว่าสามร้อยพ่อครัวพาสทรีผู้เชี่ยวชาญด้านใน Rome .

เรือทั้งหมดได้ถูกนำมารวมไว้ในสมาคมที่ขนม - collegium pistorum - และมีบุคลิกสูงทำให้ในกิจการของรัฐที่เป็นหนึ่งในผู้แทนของตนได้ที่นั่งใน วุฒิสภา ซากปรักหักพังของ Pompeii และเมืองต่างๆถูกฝังอยู่อื่นๆได้เปิดเผยว่าในเบเกอรี่ที่มีอยู่ในเท่าแห่งประวัติศาสตร์ที่.

ชาวโรมันที่เพลิดเพลินใจไปกับหลายอย่างของขนมปังมีชื่อน่าสนใจ lentaculumก้อนกลมแบนเดิมทำให้ทำของ emmer (เมล็ดข้าวที่ใกล้ชิดกับแป้งสาลี)พร้อมด้วยเกลือเล็กน้อยก็กิน ก็ยังมีขนมปังหอยนางรม(เพื่อกินกับหอยนางรม)" artolaganus หรือ' cakebread ' speusticus หรือ'รีบขนมปัง'ขนมปังดีบุกการยิงเมื่อเวลาจากไปกินขนมปังและสไตล์โรมันรองเท้าแตะและ ขนมปัง

ขนมปังก็ทำให้ดียิ่งขึ้นโดยมีการเพิ่มเนยและไข่นมแต่เพียงแห่งเดียวที่ร่ำรวยและเต็มไปด้วยประโยชน์สามารถเหล่านี้ athenaeus นักปรัชญาและนักไวยากรณ์ตามแบบอียิปต์ที่อาศัยอยู่ในคริสต์ศักราชแห่งศตวรรษที่ 3 ได้ยื่นลงไปเราความรู้อย่างมากเกี่ยวกับการอบและขนมปังในวันที่