We determined associations between

We determined associations between diet soda consumption and risk of incident metabolic syndrome, its components, and type 2 diabetes in the Multi-Ethnic Study of Atherosclerosis. Diet soda consumption was assessed by food frequency questionnaire at baseline (2000-2002). Incident type 2 diabetes was identified at three follow-up examinations (2002-2003, 2004-2005, and 2005-2007) as fasting glucose >126 mg/dl, self-reported type 2 diabetes, or use of diabetes medication. Metabolic syndrome (and components) was defined by National Cholesterol Education Program Adult Treatment Panel III criteria. Hazard ratios (HRs) with 95% CI for type 2 diabetes, metabolic syndrome, and metabolic syndrome components were estimated, adjusting for demographic, lifestyle, and dietary confounders. At least daily consumption of diet soda was associated with a 36% greater relative risk of incident metabolic syndrome and a 67% greater relative risk of incident type 2 diabetes compared with nonconsumption (HR 1.36 [95% CI 1.11-1.66] for metabolic syndrome and 1.67 [1.27-2.20] for type 2 diabetes). Of metabolic syndrome components, only high waist circumference (men ≥102 cm and women ≥88 cm) and high fasting glucose (≥100 mg/dl) were prospectively associated with diet soda consumption. Associations between diet soda consumption and type 2 diabetes were independent of baseline measures of adiposity or changes in these measures, whereas associations between diet soda and metabolic syndrome were not independent of these factors. Although these observational data cannot establish causality, consumption of diet soda at least daily was associated with significantly greater risks of select incident metabolic syndrome components and type 2 diabetes.

Results (Thai) 1:

เรากำหนดความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณโซดาอาหารและความเสี่ยงของปัญหากลุ่มอาการเผาผลาญ ส่วนประกอบ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในการศึกษาหลายชาติพันธุ์ของหลอดเลือด ปริมาณโซดาอาหารถูกประเมิน โดยแบบสอบถามความถี่อาหารที่พื้นฐาน (2000-2002) ระบุเหตุการณ์ชนิดที่ 2 โรคเบาหวานที่ตรวจติดตามผล 3 (2002-2003, 2004-2005 และปี 2005-2007) เป็นน้ำตาลกลูโคสที่ถือศีลอด > 126 mg/dl รายงานตนเองชนิดที่ 2 โรคเบาหวาน หรือใช้ยาเบาหวาน หน่วย (และส่วนประกอบ) ถูกกำหนด โดยเงื่อนไขชาติไขมันศึกษาโปรแกรมผู้ใหญ่รักษาแผง III อันตราย (น) อัตราส่วน มี 95% CI สำหรับเบาหวานชนิดที่ 2 หน่วย และคอมโพเนนต์ถูกประเมินอาการเผาผลาญ การปรับปรุงสำหรับประชากร ไลฟ์สไตล์ และอาหาร confounders โซดาอาหารบริโภคประจำวันที่ถูกเชื่อมโยงกับ 36% มากกว่าญาติเสี่ยงต่ออาการปัญหาเผาผลาญ และเป็น 67% ค่าความเสี่ยงสัมพัทธ์ของเหตุการณ์ชนิดที่ 2 โรคเบาหวานเมื่อเทียบกับ nonconsumption (HR 1.36 [95% CI 1.11-1.66] หน่วยและ 1.67 [1.27-2.20] สำหรับเบาหวานชนิดที่ 2) ส่วนประกอบของอาการเผาผลาญ เฉพาะเส้นรอบวงเอวสูง (ซม. ≥102 คนและหญิง ≥88 ซม.) และกลูโคสสูงถือศีลอด (≥100 mg/dl) มี prospectively ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โซดาอาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณโซดาอาหารและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ขึ้นอยู่กับมาตรการพื้นฐานของ adiposity หรือการเปลี่ยนแปลงในมาตรการเหล่านี้ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยและโซดาอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ แม้ว่าข้อมูลสังเกตการณ์เหล่านี้ไม่สามารถสร้าง causality ปริมาณของโซดาอาหารน้อยทุกวันถูกเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของส่วนประกอบของอาการเผาผลาญเลือกเหตุการณ์และโรคเบาหวานชนิดที่ 2

Results (Thai) 2:

เรามุ่งมั่นที่ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคโซดาอาหารและความเสี่ยงของโรคที่เกิดการเผาผลาญส่วนประกอบและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในการศึกษาหลายเชื้อชาติของหลอดเลือด การบริโภคโซดาอาหารได้รับการประเมินจากแบบสอบถามความถี่อาหารที่ baseline (2000-2002) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับการระบุที่สามการติดตามตรวจสอบ (2002-2003, 2004-2005, 2005-2007 และ) เป็นโรคเบาหวานกลูโคส> 126 mg / dl ชนิดที่ตนเองรายงาน 2, การใช้ยาโรคเบาหวานหรือ ซินโดรมการเผาผลาญ (และส่วนประกอบ) ถูกกำหนดโดยคอเลสเตอรอลแห่งชาติเกณฑ์โปรแกรมการศึกษาผู้ใหญ่รักษาแผง III อัตราส่วนอันตราย (ชม. ) ที่มี 95% CI สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคเมตาบอลิและส่วนประกอบซินโดรมการเผาผลาญประมาณปรับค่าเข้าชมวิถีชีวิตและตัวแปรอาหาร อย่างน้อยการบริโภคประจำวันของโซดาอาหารมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงมากขึ้น 36% ของโรคเมตาบอลิเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเสี่ยง 67% มากขึ้นของโรคเบาหวานประเภท 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเทียบกับ nonconsumption (HR 1.36 [95% CI 1.11-1.66] โรคเมตาบอลิและ 1.67 [1.27-2.20] สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2) ส่วนประกอบของซินโดรมการเผาผลาญรอบเอวสูงเท่านั้น (ชาย≥ 102 ซม. และหญิง≥ 88 ซม. ) และกลูโ​​คสสูง (≥ 100 mg / dl) ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเป็นต้นโซดาอาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคโซดาอาหารและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นอิสระของมาตรการพื้นฐานของความอ้วนหรือการเปลี่ยนแปลงในมาตรการเหล่านี้ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างโซดาอาหารและซินโดรมการเผาผลาญอาหารที่ไม่ได้เป็นอิสระจากปัจจัยเหล่านี้ แม้ว่าข้อมูลเชิงเหล่านี้ไม่สามารถสร้างอำนาจการบริโภคโซดาอาหารอย่างน้อยในชีวิตประจำวันมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เลือกส่วนประกอบซินโดรมการเผาผลาญอาหารและโรคเบาหวานชนิดที่ 2

Results (Thai) 3:

เราพบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคโซดาอาหารและความเสี่ยงของเหตุการณ์ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ส่วนประกอบของมัน และเบาหวานชนิดที่ 2 ในหลากชาติพันธุ์ศึกษาของหลอดเลือด การใช้โซดาอาหารที่ถูกประเมินด้วยแบบสอบถามความถี่ของอาหารที่ baseline ( 2543-2545 ) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถูกระบุเหตุการณ์ที่ 3 ติดตามผลการสอบ ( 2003 , 2004 ,และ พ. เป็นอดอาหารกลูโคส > 126 มก. / ดล. self-reported , โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือการใช้ยาเบาหวาน เมตาโบลิกซินโดรม ( และส่วนประกอบ ) ถูกกำหนดโดยเกณฑ์แห่งชาติคอเลสเตอรอลรักษาแผงโปรแกรมการศึกษาผู้ใหญ่ 3 . อัตราส่วนอันตราย ( น. ) 95% CI สำหรับประเภท 2 โรคเบาหวาน , ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม และส่วนประกอบ ซินโดรมการเผาผลาญประมาณปรับสำหรับประชากร , ไลฟ์สไตล์ชนิด และการทำผิดกฎหมาย . อย่างน้อยทุกวัน การบริโภคโซดาอาหารที่ถูกเชื่อมโยงกับความเสี่ยงสัมพัทธ์เป็น 36% ของเหตุการณ์ภาวะเมตาบอลิกซินโดรมและความเสี่ยงสัมพัทธ์ 67 % มากขึ้นของปัญหาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เมื่อเทียบกับ nonconsumption ( HR 1.36 [ 95%CI 1.11-1.66 ] สำหรับกลุ่มอาการ metabolic และ 1.67 [ 1.27-2.20 ] สำหรับโรคเบาหวานประเภท 2 ) ส่วนประกอบของซินโดรมการเผาผลาญสูงเท่านั้น รอบเอวผู้ชาย ( ≥ 102 ซม. และผู้หญิง≥ 88 ซม. ) และมีการอดอาหารกลูโคส ( ≥ 100 มก. / ดล. ) มีการเกี่ยวข้องกับการใช้โซดาอาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคอาหารโซดาและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นอิสระของมาตรการพื้นฐานของ adiposity หรือการเปลี่ยนแปลงมาตรการเหล่านี้ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารโซดาและเมตาบอลิก ซินโดรม คือ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ แม้ว่าข้อมูลที่ได้จากการสังเกตเหล่านี้ไม่สามารถสร้างบทบาทการบริโภคโซดาอาหารอย่างน้อยทุกวัน มีความสัมพันธ์กับระดับความเสี่ยงของเหตุการณ์มากกว่าเลือกส่วนประกอบซินโดรมการเผาผลาญและเบาหวานชนิดที่ 2