In this paper, the effectiveness of

In this paper, the effectiveness of fibre reinforcement (coir fibre and synthetic fibre) in subgrade soil has been studied from the point of view of strength. The permanent strain, resilient strain behaviour and resilient modulus of subgrade soil have been determined in the laboratory. A value of 10% (20 mm) strain is taken as the failure criterion for the subgrade for pavement in rural area. A subgrade soil of silty sand mixed with optimum content of fly ash and two different types of fibres varying in their tensile strength and coefficient of frictions were used. Repeated triaxial tests on samples, unreinforced and reinforced at the optimum content of fibre, were carried out at a confining pressure of 25, 50 and 75 kN/m2 and the stress levels of 153 and 204 kN/m2, producing six different deviator stresses. It is concluded from this study that both the permanent and resilient strains in all materials decrease with confining pressure but increase with the number of load cycles and deviator stress in reinforced and unreinforced conditions. Further, the resilient modulus decreases with the number of load cycles and deviator stress and increases with the confining pressure. Coir fibre shows better resilient response against synthetic fibre by higher coefficient of friction. Fly ash is also used in this study and for maximum dry density, the 30% fly ash and 70% sand mix is tested for various parameters.

Results (Thai) 1:

ในบทความนี้ประสิทธิภาพของเส้นใยเสริมแรง (ใยมะพร้าวและเส้นใยสังเคราะห์) ในดินฐานรากได้รับการศึกษาจากมุมมองของความแข็งแรง สายพันธุ์ถาวรพฤติกรรมความเครียดความยืดหยุ่นและโมดูลัสความยืดหยุ่นของดินฐานรากได้รับการพิจารณาในห้องปฏิบัติการ ค่าของความเครียด 10% (20 มิลลิเมตร) จะนำมาเป็นเกณฑ์ความล้มเหลวสำหรับฐานรากสำหรับทางเท้าในพื้นที่ชนบท ดินฐานรากของทรายปนทรายแป้งผสมกับเนื้อหาที่เหมาะสมของเถ้าลอยและทั้งสองประเภทที่แตกต่างกันของเส้นใยที่แตกต่างกันในความต้านทานแรงดึงและค่าสัมประสิทธิ์ของความขัดแย้งของพวกเขาถูกนำมาใช้ ซ้ำแล้วซ้ำอีกการทดสอบแรงอัดสามแกนในตัวอย่างไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรงและเสริมที่เนื้อหาที่เหมาะสมของเส้นใยได้ดำเนินการที่ความดันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง 25, 50 และ 75 กิโลนิวตัน / m2 และระดับความเครียดของ 153 และ 204 กิโลนิวตัน / m2 ผลิตหกความเครียด deviator ที่แตกต่างกัน มันจะได้ข้อสรุปจากการศึกษานี้ว่าทั้งสองสายพันธุ์ที่ถาวรและมีความยืดหยุ่นในวัสดุทั้งหมดลดลงความดันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง แต่เพิ่มขึ้นด้วยจำนวนรอบภาระและความเครียดในสภาพ deviator เสริมและไม่มีโครงสร้างที่แข็งแรง นอกจากนี้โมดูลัสความยืดหยุ่นลดลงด้วยจำนวนรอบภาระและความเครียด deviator และการเพิ่มขึ้นที่มีความดันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง มะพร้าวเส้นใยแสดงให้เห็นว่าการตอบสนองความยืดหยุ่นที่ดีกับเส้นใยสังเคราะห์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่สูงขึ้นของ เถ้าลอยยังถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้และความหนาแน่นแห้งสูงสุดที่เถ้าลอย 30% และผสมทราย 70% และจะทดสอบการพารามิเตอร์ต่างๆ โมดูลัสความยืดหยุ่นลดลงด้วยจำนวนรอบภาระและความเครียด deviator และการเพิ่มขึ้นที่มีความดันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง มะพร้าวเส้นใยแสดงให้เห็นว่าการตอบสนองความยืดหยุ่นที่ดีกับเส้นใยสังเคราะห์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่สูงขึ้นของ เถ้าลอยยังถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้และความหนาแน่นแห้งสูงสุดที่เถ้าลอย 30% และผสมทราย 70% และจะทดสอบการพารามิเตอร์ต่างๆ โมดูลัสความยืดหยุ่นลดลงด้วยจำนวนรอบภาระและความเครียด deviator และการเพิ่มขึ้นที่มีความดันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง มะพร้าวเส้นใยแสดงให้เห็นว่าการตอบสนองความยืดหยุ่นที่ดีกับเส้นใยสังเคราะห์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่สูงขึ้นของ เถ้าลอยยังถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้และความหนาแน่นแห้งสูงสุดที่เถ้าลอย 30% และผสมทราย 70% และจะทดสอบการพารามิเตอร์ต่างๆ

Results (Thai) 2:

ในกระดาษนี้ประสิทธิภาพของเส้นใยเสริมแรง (ใย coir และใยสังเคราะห์) ในดินเกรดย่อยได้รับการศึกษาจากจุดของมุมมองของความแข็งแรง สายพันธุ์ถาวรพฤติกรรมสายพันธุ์ที่ยืดหยุ่นและโมดูลัสความยืดหยุ่นของดินเกรดย่อยได้รับการกำหนดในห้องปฏิบัติการ ค่าของ 10% (20 มม.) ความเครียดจะถูกนำมาเป็นเกณฑ์ความล้มเหลวสำหรับเกรดย่อยสำหรับทางเท้าในพื้นที่ชนบท. ดินเกรด subgrade ทรายผสมกับเนื้อหาที่เหมาะสมของเถ้าลอยและสองชนิดที่แตกต่างกันของเส้นใยในความแข็งแรงของพวกเขาแรงดึงและค่าสัมประสิทธิ์ของการขัดแย้งถูกนำมาใช้ การทดสอบแบบไตรแกนซ้ำในตัวอย่างที่ไม่เสริมและเสริมประสิทธิภาพที่เนื้อหาที่เหมาะสมของเส้นใยที่ถูกดำเนินการที่ความดันที่แข็งแกร่งของ 25, ๕๐และ๗๕ kN/m2 และระดับความเครียดของ๑๕๓และ๒๐๔ kN/m2, การผลิตหกแตกต่างกันเบี่ยงเบนความเครียด มันเป็นข้อสรุปจากการศึกษานี้ว่าทั้งสายพันธุ์ถาวรและความยืดหยุ่นในวัสดุทั้งหมดลดลงด้วยความดัน confining แต่เพิ่มขึ้นกับจำนวนของรอบโหลดและ deviator เครียดในเงื่อนไขเสริมและไม่เสริม. นอกจากนี้โมดูลัสที่มีความยืดหยุ่นลดลงกับจำนวนรอบการโหลดและเบี่ยงเบนความเครียดและเพิ่มขึ้นด้วยความดัน confining เส้นใย coir แสดงการตอบสนองที่ยืดหยุ่นได้ดีกับใยสังเคราะห์โดยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานสูง เถ้าลอยยังใช้ในการศึกษานี้และสำหรับความหนาแน่นสูงสุดแห้งเถ้าลอย30% และ๗๐% ผสมทรายจะถูกทดสอบสำหรับพารามิเตอร์ต่างๆ

Results (Thai) 3:

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ศึกษาผลของเส้นใยมะพร้าวและเส้นใยสังเคราะห์ในการเสริมสร้างดินรองพื้นทางจากมุมมองของความแข็งแรง สายพันธุ์ถาวรความยืดหยุ่นและโมดูลัสความยืดหยุ่นของดินรองพื้นทางวัดในห้องปฏิบัติการ ความเครียดค่า 10-% มม. ถูกใช้เป็นเกณฑ์สำหรับความล้มเหลวของฐานถนนในชนบท ความต้านทานแรงดึงและสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของดินทรายที่มีปริมาณที่เหมาะสมของเถ้าลอยและสองชนิดที่แตกต่างกันของเส้นใยที่ศึกษา ภายใต้การบีบอัดและความเครียดของ 153 และ 204kn M2 ตัวอย่างที่ไม่ได้เสริมและเสริมซ้ำสามแกนทดสอบและหกชนิดที่แตกต่างกันของความเครียดที่ถูกสร้างขึ้น ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าภายใต้เงื่อนไขของการเสริมแรงและการเสริมแรงความเครียดแบบถาวรและยืดหยุ่นของวัสดุทั้งหมดจะลดลงด้วยการเพิ่มขึ้นของการบีบอัด โมดูลัสยืดหยุ่นลดลงด้วยการเพิ่มขึ้นของการโหลดและความเครียดบางส่วนและเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นของการบีบอัด เส้นใยกะลามะพร้าวมีสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานสูงและมีการตอบสนองที่ดีกับเส้นใยสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังใช้เถ้าถ่านหินเพื่อให้ได้ความหนาแน่นแห้งสูงสุดโดยการทดสอบพารามิเตอร์ต่างๆของส่วนผสมของ 30 เปอร์เซ็นต์ของเถ้าลอยและ 70 เปอร์เซ็นต์ของทราย