Bangladesh is one of the least deve

Bangladesh is one of the least developed nations in the
world. Since it's beginning (1971), there has been some
growth in the industrial sector. Industries are mainly
concentrated in major urban metropolitan areas such as
Dhaka (The capital of Bangladesh), Rajshahi, the seaport
cities such as Chittagong and Khulna, the inland port city
Narayanganj, and other divisional towns. Obviously, the
air pollution problem is more severe in these areas. Apart
from unplanned industrial development in these areas,
the severity of the pollution is increased mainly due to
exhausts from two-stroke engine and diesel-run vehicles.
In the rural areas of Bangladesh, the danger of air
pollution not yet turns into a point of concern. This is due
to less motorized vehicles and industries in rural areas.
(UNEP, 2001) (Figure 3).
Vehicular air pollution is a major cause of respiratory
distress in urban Bangladesh. If pregnant mothers come
across excessive pollution, it may cause premature death
of their children. According to the National Institute of
Diseases of Chest and Hospital (NIDCH), nearly seven
million people in Bangladesh suffer from asthma, more
than half of them are children. Cases of children suffering
from bronchitis and chronic cough have also shot up in
recent years. Children breathe more air relative to their
lung size than adults. They spend more time outdoors,
often during midday and afternoons when pollution levels
are generally highest (Daily Star, 2009).
The primary sources of air pollution in the rural areas
are brick kilns and cooking stoves. In rural areas, wood,
coal, and biomass are used as sources of energy. During
the monsoon, rural people cook inside their houses
without sufficient ventilation (exposure to air) systems.
This provides rise to severe indoor air pollution, which
brings health hazards, mostly for women and children
(UNEP, 2001).
There are two major sources of air pollution in
Bangladesh, vehicular emissions, and industrial
emissions. These are mainly concentrated in the cities.
Other than those there are many brick-making kilns
operated seasonally, mainly in dry season all over
Bangladesh. More or less all of these kilns use coal and
wood as their prime sources of energy, resulting in the
emission of particulate matter, oxides of sulfur, and
volatile organic compounds. Additionally to these usual
sources of fuel, used rubber wheels of vehicles are also
burnt, which produce black carbon and toxic gases.
These are harmful for health (UNEP, 2001).
In order to accommodate the growing population, the
construction of high-rise buildings is growing rapidly.
Along with these buildings, the numbers of slums are also
growing. The tremendous force of population has made it
almost unfeasible to maintain a clean environment in the
capital city of Dhaka (UNEP, 2001).
Dhaka has been identified as the second worst city to
live for the second consecutive time, according to a
survey of Economist Intelligence Unit (EIU) affiliated with
the UK-based weekly Economist. The listing was based
on 30 factors across five broad categories: stability,
healthcare, culture and environment, education and
infrastructure. The survey factor were rated as accepted,
tolerable, uncomfortable, undesirable or intolerable in a
system that "allows for direct comparison between
locations," according to the report (Daily Star, 2011).
Dhaka is also one of the most densely populated cities in
the world (UNEP, 2001). Dhaka, the capital city of
Bangladesh (location 23.42 N and 90.22 E) has an
estimated population of more than 8 million. Air pollution
has emerged as an acute problem in the city. Blackening
of the city air and reduced visibility can be observed in
some areas at times even. Occurrence of choking smells
and irritating eyes are common (Khaliquzzaman, 1998).

Results (Thai) 1:

ประเทศบังกลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในการเวิลด์ ตั้งแต่มันเริ่ม (1971), มีบางเจริญเติบโตในภาคอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่เข้มข้นในพื้นที่นครหลวงเมืองสำคัญเช่นธากา (เมืองหลวงของบังกลาเทศ) การท่าเรือ ราชชาฮีเมืองจิตตะกองและ Khulna เมืองท่าบริเวณNarayanganj และเมืองอื่น ๆ divisional อย่างชัดเจน การปัญหามลพิษทางอากาศจะรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ ออกจากกันจากไม่ได้วางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่เหล่านี้ความรุนแรงของมลพิษที่จะเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เนื่องหมดแรงจากเครื่องยนต์สองจังหวะและรถยนต์ดีเซลรันในชนบทของประเทศบังกลาเทศ อันตรายของอากาศมลยังไม่ได้กลายเป็นจุดที่น่ากังวล ซึ่งจะครบกำหนดน้อยกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมในชนบท(UNEP, 2001) (รูป 3)มลพิษทางอากาศยานพาหนะคิรีเป็นสาเหตุของทางเดินหายใจทุกข์ในบังกลาเทศเมือง ถ้ามารดาที่ตั้งครรภ์มาทั้งมลพิษมากเกินไป มันอาจทำให้ตายก่อนวัยอันควรของเด็ก ตาม สถาบันแห่งชาติโรคทรวงอกและโรงพยาบาล (NIDCH), เกือบเจ็ดล้านคนในบังกลาเทศต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคหอบหืด มากกว่าครึ่งของพวกเขาเป็นเด็ก กรณีเด็กทุกข์ทรมานจากหลอดลมอักเสบไอเรื้อรังได้ยังยิงขึ้นในปีที่ผ่านมา เด็กหายใจอากาศเพิ่มเติมสัมพันธ์กับพวกเขาขนาดลุงมากกว่าผู้ใหญ่ พวกเขาใช้เวลานอกอาคารบ่อยครั้งในช่วงกลางวันและบ่ายเมื่อระดับมลพิษกำลังสูงสุดโดยทั่วไป (ประจำวันดาว 2009)แหล่งมาหลักของมลพิษอากาศในพื้นที่ชนบทมีเตาเผาอิฐและทำอาหารปิ้ง ในพื้นที่ชนบท ไม้ถ่านหินและชีวมวลที่ใช้เป็นแหล่งพลังงาน ในระหว่างการมรสุม คนชนบททำอาหารภายในบ้านของพวกเขาไม่ มีระบบระบายอากาศ (สัมผัสกับอากาศ) เพียงพอนี้ช่วยให้การเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศอย่างรุนแรงภายในอาคาร ที่นำสุขภาพอันตราย สำหรับผู้หญิงและเด็กเป็นส่วนใหญ่(UNEP, 2001)มีสองแหล่งที่สำคัญของมลพิษทางอากาศในประเทศบังกลาเทศ ปล่อยยานพาหนะคิรี และอุตสาหกรรมปล่อย ส่วนใหญ่เหล่านี้เข้มข้นในเมืองใช่ มีเตาเผาอิฐทำมากดำเนิน seasonally ส่วนใหญ่ในฤดูกาลที่แห้งไปหมดประเทศบังกลาเทศ น้อยทั้งหมดของเตาเผาเหล่านี้ใช้ถ่านหิน และไม้เป็นแหล่งที่มาสำคัญของพลังงาน ในการมลพิษเรื่องฝุ่น ออกไซด์ของซัลเฟอร์ และสารอินทรีย์ระเหย นอกจากนี้การเหล่านี้ปกติแหล่งของเชื้อเพลิง ใช้ยางล้อรถยนต์มีเผา ที่ผลิตคาร์บอนดำและก๊าซพิษเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (UNEP, 2001)เพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น การก่อสร้างอาคารสูงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ จำนวน slums ยังมีการเติบโต แรงมากของประชากรจะแทบไม่น่าเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีในการเมืองหลวงกรุงธากา (UNEP, 2001)มีการระบุธากาเป็นเมืองสองเลวไปสด เป็นครั้งที่สองติดต่อกันตามแบบสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ข่าวกรองหน่วย (EIU) สังกัดในสหราชอาณาจักรประจำสัปดาห์นักเศรษฐศาสตร์ รายการขึ้นกับปัจจัย 30 ประเภทกว้างห้า: ความมั่นคงสุขภาพ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ตัวสำรวจถูกจัดอันดับเป็นที่ยอมรับtolerable อึดอัด หยิบ หรือนำมารวมในการระบบที่ "อนุญาตให้สำหรับการเปรียบเทียบโดยตรงระหว่างสถาน รายงาน (วันดาว 2011)ธากายังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดไปในโลก (UNEP, 2001) ธากา เมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศ (ตำแหน่ง 23.42 N และ 90.22 E) มีการประชากรประมาณกว่า 8 ล้านคน มลพิษทางอากาศมีชุมนุมเป็นปัญหาเฉียบพลันที่ในเมือง Blackeningห้อง แอร์และการมองเห็นลดลงจะสังเกตได้จากในบางพื้นที่แม้แต่ในบางครั้ง เหตุการณ์ของ choking กลิ่นและเคืองตาทั่วไป (Khaliquzzaman, 1998)

Results (Thai) 2:

บังคลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดใน
โลก เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้น (1971) ได้มีการบาง
เจริญเติบโตในภาคอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่
กระจุกตัวอยู่ในเขตปริมณฑลที่สำคัญในเมืองเช่น
ธากา (เมืองหลวงของบังคลาเทศ), ชหิเมืองท่า
เมืองเช่น Chittagong และ Khulna, เมืองท่าเรือ
Narayanganj และเมืองกองพลอื่น ๆ เห็นได้ชัดว่า
ปัญหามลพิษทางอากาศมีความรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ นอกเหนือ
จากการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ไม่ได้วางแผนในพื้นที่เหล่านี้
ความรุนแรงของมลพิษที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจาก
ไอเสียจากเครื่องยนต์สองจังหวะและรถดีเซลวิ่ง.
ในพื้นที่ชนบทของประเทศบังคลาเทศ, อันตรายจากอากาศ
มลพิษยังไม่ได้กลายเป็นจุด กังวล เพราะนี่คือ
ยานพาหนะมอเตอร์น้อยและอุตสาหกรรมในพื้นที่ชนบท.
(UNEP, 2001) (รูปที่ 3).
มลพิษทางอากาศพาหนะเป็นสาเหตุสำคัญของระบบทางเดินหายใจ
ความทุกข์ในเมืองบังคลาเทศ หากคุณแม่ตั้งครรภ์มา
ทั่วมลพิษมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการตายก่อนวัยอันควร
ของเด็ก ตามที่สถาบันแห่งชาติของ
โรคทรวงอกและโรงพยาบาล (NIDCH) เกือบเจ็ด
ล้านคนในประเทศบังกลาเทศทุกข์ทรมานจากโรคหอบหืดมากขึ้น
กว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นเด็ก กรณีของเด็กที่ทุกข์ทรมาน
จากโรคหลอดลมอักเสบและอาการไอเรื้อรังได้ยิงขึ้นใน
ปีที่ผ่านมา เด็กหายใจญาติอากาศมากขึ้นของพวกเขา
ขนาดปอดมากกว่าผู้ใหญ่ พวกเขาใช้เวลานอกบ้าน
บ่อยครั้งในช่วงเที่ยงและช่วงบ่ายเมื่อระดับมลพิษ
โดยทั่วไปจะมีสูงสุด (Daily Star, 2009).
แหล่งที่มาหลักของมลพิษทางอากาศในพื้นที่ชนบท
มีเตาเผาอิฐและเตาปรุงอาหาร ในพื้นที่ชนบท, ไม้,
ถ่านหินและชีวมวลจะถูกใช้เป็นแหล่งพลังงาน ในช่วง
มรสุมคนชนบทปรุงอาหารภายในบ้านของพวกเขา
โดยไม่ต้องระบายอากาศอย่างเพียงพอ (การสัมผัสกับอากาศ) ระบบ.
นี้จะมีการเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศในร่มที่รุนแรงซึ่ง
จะนำอันตรายต่อสุขภาพส่วนใหญ่สำหรับผู้หญิงและเด็ก
(UNEP, 2001).
มีสองแหล่งที่มาที่สำคัญคือ มลพิษทางอากาศใน
ประเทศบังคลาเทศการปล่อยยานพาหนะและอุตสาหกรรม
การปล่อยก๊าซ เหล่านี้มีความเข้มข้นส่วนใหญ่ในเมือง.
อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่มีหลายอิฐทำเตาเผา
ดำเนินการตามฤดูกาลส่วนใหญ่ในฤดูแล้งทั่ว
ประเทศบังคลาเทศ มากหรือน้อยทั้งหมดของเตาเผาเหล่านี้ใช้ถ่านหินและ
ไม้เป็นแหล่งสำคัญของพวกเขาของพลังงานที่มีผลใน
การปล่อยอนุภาคออกไซด์ของกำมะถันและ
สารอินทรีย์ระเหยง่าย นอกจากนี้ตามปกติ
แหล่งที่มาของเชื้อเพลิงที่ใช้ยางล้อของยานพาหนะนอกจากนี้ยังมี
การเผาซึ่งผลิตคาร์บอนสีดำและก๊าซพิษ.
เหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (UNEP, 2001).
เพื่อที่จะรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น,
การก่อสร้างสูง อาคารที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว.
พร้อมกับอาคารเหล่านี้ตัวเลขของชุมชนแออัดนอกจากนี้ยังมี
การเจริญเติบโต แรงอย่างมากของประชากรได้ทำให้มัน
เกือบจะทำไม่ได้ที่จะรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาดใน
เมืองหลวงธากา (UNEP, 2001).
ธากาได้รับการระบุว่าเป็นเมืองที่เลวร้ายที่สุดที่สองที่จะ
มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่สองติดต่อกันตามการ
สำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ หน่วยข่าวกรอง (EIU) ร่วมกับ
นักเศรษฐศาสตร์ประจำสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร รายชื่อที่มีพื้นฐานอยู่
ที่ 30 ปัจจัยในห้าประเภทกว้าง: ความมั่นคง
ด้านการดูแลสุขภาพวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมการศึกษาและ
โครงสร้างพื้นฐาน ปัจจัยการสำรวจได้รับการจัดอันดับเป็นที่ยอมรับ
ทนอึดอัดที่ไม่พึงประสงค์หรือมากเกินไปใน
ระบบที่ "ช่วยให้สำหรับการเปรียบเทียบโดยตรงระหว่าง
สถานที่ "ตามรายงาน (Daily Star, 2011).
ธากายังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดใน
โลก (UNEP, 2001) ธากาเมืองหลวงของ
บังคลาเทศ (สถานที่ตั้ง 23.42 n และ 90.22 E) มี
ประชากรประมาณกว่า 8 ล้าน มลพิษทางอากาศ
ได้กลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉียบพลันในเมือง ใส่ร้ายป้ายสี
ของอากาศเมืองและการมองเห็นลดลงสามารถมองเห็นได้ใน
บางพื้นที่ในช่วงเวลาที่แม้แต่ การเกิดขึ้นของกลิ่นสำลัก
และดวงตาระคายเคืองเป็นเรื่องธรรมดา (Khaliquzzaman, 1998)

Results (Thai) 3:

บังคลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดใน
โลก ตั้งแต่มันเริ่ม ( 1971 ) มี
การเติบโตในภาคอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองเมืองใหญ่

( เช่น ธากา เมืองหลวงของบังคลาเทศ ) , นางทาส , เมืองท่า
เมืองเช่นเมืองจิตตะกอง และ Khulna , ท่าเรือในเมือง
Narayanganj , และเมืองที่แผนกอื่น ๆ เห็นได้ชัดว่า
ปัญหามลภาวะทางอากาศจะรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ นอกเหนือจากการพัฒนาอุตสาหกรรม

ไม่ได้วางแผนในพื้นที่เหล่านี้ ความรุนแรงของปัญหามลพิษที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เนื่องจาก
เหนื่อยจากเครื่องยนต์สองจังหวะดีเซลและใช้ยานพาหนะ
ในชนบทของบังคลาเทศอันตรายของมลพิษอากาศ
ยังกลายเป็นจุดของความกังวล นี้เป็นเพราะรถยนต์และอุตสาหกรรมให้น้อยลง

ในชนบท( UNEP , 2001 ) ( รูปที่ 3 )
มลพิษทางอากาศจากยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักของระบบทางเดินหายใจ
ทุกข์ในเมืองบังคลาเทศ ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์มา
ข้ามมลพิษมากเกินไป อาจจะทำให้เกิด
จุดตายของเด็กของพวกเขา ตามที่สถาบันแห่งชาติของ
โรคทรวงอก และ รพ. ( nidch ) 7
ล้านคนในบังกลาเทศประสบจากโรคหอบหืดมากขึ้น
มากกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาเด็กกรณีของเด็กที่ทุกข์ทรมานจากโรคหลอดลมอักเสบและไอเรื้อรังได้

ยิงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา เด็กหายใจอากาศมากขึ้นเมื่อเทียบกับขนาดของปอดของพวกเขา
กว่าผู้ใหญ่ พวกเขาใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง ในช่วงเที่ยงและช่วงบ่ายเมื่อบ่อย

โดยทั่วไประดับมลพิษสูงสุด ( ดารารายวัน , 2009 ) .
แหล่งที่มาหลักของมลพิษทางอากาศในชนบท
มีเตาเผาอิฐและเตาทำอาหารในชนบท , ไม้ ,
ถ่านหินและชีวมวลจะถูกใช้เป็นแหล่งพลังงาน ระหว่าง
มรสุมชาวบ้านทำอาหารในบ้าน
ไม่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ ( จากอากาศ ) ระบบ .
นี้ให้สูงขึ้นเพื่อมลพิษทางอากาศรุนแรง ซึ่งทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ส่วนใหญ่สำหรับผู้หญิงและเด็ก ( UNEP , 2001 ) .
มีสองแหล่งที่มาของมลพิษในอากาศ
บังกลาเทศ , ยานพาหนะปล่อย ,และก๊าซอุตสาหกรรม

เหล่านี้ส่วนใหญ่มีความเข้มข้นในเมือง .
นอกจากที่มีอิฐหลายทำเตาเผา
ดำเนินการตามฤดูกาล ส่วนใหญ่ในฤดูแล้งทั่ว
บังคลาเทศ มากกว่าหรือน้อยกว่าการใช้ถ่านหินเตาเผาเหล่านี้ทั้งหมดและเป็นแหล่งที่มาของนายก
ไม้พลังงานที่เกิดใน
ปล่อยอนุภาคออกไซด์ของซัลเฟอร์ และ
, สารอินทรีย์ระเหย นอกจากนี้เหล่านี้ปกติ
แหล่งที่มาของเชื้อเพลิงที่ใช้ล้อยางรถยนต์ยังมี
เผาซึ่งผลิตคาร์บอนสีดำและก๊าซพิษ .
เหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ( UNEP , 2001 ) .
เพื่อรองรับการเติบโตของประชากร ,
การก่อสร้างอาคารสูงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว .
พร้อมกับอาคารเหล่านี้ ตัวเลขของชุมชนแออัดคือ นอกจากนี้
เติบโต แรงมหาศาลของประชากรได้
เกือบมีมาก่อนหรอกนะ ที่จะรักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อมในเมืองหลวงธากา
( UNEP , 2001 ) .
ธากาได้รับการระบุว่าเป็นเมืองที่สองที่เลวร้ายที่สุด

อยู่สำหรับเวลาที่สองติดต่อกัน จากการสำรวจของหน่วยสืบราชการลับ
นักเศรษฐศาสตร์ ( EIU ) ร่วมกับ
UK นักเศรษฐศาสตร์จากสัปดาห์ . รายการตาม
30 ปัจจัยข้ามกว้างห้าประเภท : ความมั่นคง ,
สุขภาพวัฒนธรรม และ สิ่งแวดล้อม การศึกษาและ
) การสำรวจปัจจัยอยู่ในระดับที่ยอมรับ
พอดูได้ อึดอัดที่ไม่พึงประสงค์หรือมากเกินไปในระบบที่ช่วยให้สำหรับการเปรียบเทียบ

ที่ตั้งตรงระหว่าง " ตามรายงาน ( ดารารายวัน , 2011 ) .
ธากายังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดใน
โลก ( UNEP , 2001 ) ธากา เมืองหลวงของบังคลาเทศ ( สถานที่
2342 และ 90.22 E )
) มีประชากรมากกว่า 8 ล้านบาท มลพิษทางอากาศ
ได้เกิดเป็นปัญหารุนแรงในเมือง blackening
ของเมืองอากาศและลดการมองเห็นสามารถสังเกตได้ในบางพื้นที่ ในบางครั้งแม้แต่
. เกิดอาการสำลักกลิ่น
และน่ารำคาญตาทั่วไป ( khaliquzzaman , 1998 )