gust 2012Phra Racha Wang Derm Palac

gust 2012
Phra Racha Wang Derm Palace (The Former Palace) is the only palace built by King Taksin the Great in 1768. The Palace was constructed on the west side of the Chao Phraya River at the mouth of Bangkok Yai Canal, next to Wat Arun (The Temple of The Dawn), on the opposite bank from the Bangkok’s Grand Palace. The Phra Racha Wang Derm Palace was the residence of King Taksin the Great of the Thonburi dynasty. King Taksin was the only king of the Thonburi era. His palace was not neither big nor luxurious. It is just a simple but beautiful. Thonburi purposed as the bustling center for economic and governmental activities for 15 years. At the beginning of the Rattanakosin era, the capital was moved to the east side of the Chao Phraya River and a new grand palace was built. Nevertheless, because of its strategic location, Phra Racha the Former Palace sustained to be used by members of the royal family and royal household. After relocated the capital the Phra Racha Wang Derm’s area was reduced by The King Rama I, excluding the two temples from the palace grounds.

When Prince Chakrapadipongse, the last occupant, passed away, King Rama V graciously bestowed the palace to the Royal Thai Navy to be used as the site of the Naval Academy. Specific instructions were given to preserve ancient sites such as the Throne Hall, King Pinklao's residence, King Taksin's Shrine and the Whale Head Shrine. The Naval Academy remained at Phra Racha Wang Derm until 1944 when it was moved to Sattahip and Kledkaew. Then it was moved to its current location at Samutprakarn in 1952. The Academy building, which was originally built in western style, was remodeled into a Thai style and has housed the Royal Thai Navy Headquarters up to the present.

In 1900, The King Rama V handed the former palace to the Royal Navy to serve as the Royal Naval Academy. However, specific instructions were given to maintain ancient sites such as the Throne Hall, King Pinklao's residence, King Taksin's Shrine and the Whale Head Shrine. In 1944, the Royal Navy Academy was moved, and the palace was transformed into the head office of the Thai Royal Navy up to the present. The palace is open from 8.30am – 4pm every day, except public holidays.

Results (Thai) 1:

gust 2012พระราชาวังพระราชวังเดิม (พระราชวังเดิม) เป็นพระราชวังเดียวที่สร้างขึ้น โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใน 1768 วังถูกสร้างขึ้นบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองใหญ่กรุงเทพ ติดวัดอรุณราชวราราม (วัดของ The Dawn), ตรงข้ามธนาคารจากพระบรมมหาราชวังของกรุงเทพฯ พระราชาวังเดิมพาพำนักของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชราชวงศ์ธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมีพระยุคธนบุรีเท่านั้น พระราชวังไม่ไม่ใหญ่ ไม่หรูหรา มันเป็นเพียงที่เรียบง่ายแต่สวยงาม ธนบุรีตั้งใจเป็นศูนย์กลางแห่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และรัฐบาล 15 ปี ในช่วงต้นยุครัตนโกสินทร์ เมืองหลวงถูกย้ายไปฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และถมใหม่ถูกสร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก มีตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ พระราชาพาอดีตยั่งยืนจะใช้ โดยสมาชิกของพระราชวงศ์และพระราชวัง หลังจากที่ย้ายเมืองหลวง ถูกลดลงตั้งพระราชวังเดิมของพระรามฉัน ไม่รวมวัดสองจากพระราชวังเมื่อเจ้าชาย Chakrapadipongse, occupant สุดท้าย ผ่าน รัชกาลปรมิประทานพาราชนาวีไทยจะใช้เป็นเว็บไซต์ของสถาบันกองทัพเรือ คำแนะนำที่ได้รับการรักษาหนึ่งในโบราณสถานพระที่นั่ง พระปิ่นเกล้าเรสซิเดนซ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินของศาลเจ้าและศาลศีรษะปลาวาฬ วิทยาลัยกองทัพเรือยังคงอยู่ที่พระราชวังเดิมจนเมื่อมันถูกย้ายไปสัตหีบและ Kledkaew 1944 แล้ว จะถูกย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันที่สมุทรปราการใน 1952 อาคารสถาบัน ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรป ถูกออกแบบในสไตล์ไทย และมีห้องพักรอยัลไทยกองทัพเรือสำนักงานใหญ่จนถึงปัจจุบันใน 1900 รัชกาลที่มอบพาอดีตราชนาวีเป็นสถาบันกองทัพเรือรอยัล อย่างไรก็ตาม ได้รับคำแนะนำการรักษาหนึ่งในโบราณสถานพระที่นั่ง พระปิ่นเกล้าเรสซิเดนซ์ สมเด็จพระเจ้าตากสินของศาลเจ้าและศาลศีรษะปลาวาฬ ในปี 1944 วิทยาลัยกองทัพเรือรอยัลถูกย้าย และวังได้เปลี่ยนเป็นสำนักงานใหญ่ของราชนาวีไทยจนถึงปัจจุบัน วังได้เปิดจาก 08.30 – 16.00 น.ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

Results (Thai) 2:

มีลมกระโชกแรง 2012
พระราชวังเดิมพาเลซ (อดีตพาเลซ) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 1768 ในพระราชวังที่สร้างขึ้นบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองบางกอกใหญ่ถัดจากวัดอรุณ (วัดอรุณ) บนฝั่งตรงข้ามจากกรุงเทพฯแกรนด์พาเลซ พระราชวังเดิมพระราชวังเป็นที่อยู่อาศัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์เพียงของยุคธนบุรี พระราชวังของเขาไม่ได้ไม่ใหญ่ไม่หรูหรา มันเป็นเพียงที่เรียบง่าย แต่สวยงาม ธนบุรีวัตถุประสงค์เป็นศูนย์กลางที่คึกคักสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาครัฐเป็นเวลา 15 ปี ที่จุดเริ่มต้นของยุครัตนโกสินทร์เมืองหลวงถูกย้ายไปทางด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาและพระบรมมหาราชวังที่สร้างใหม่ แต่เพราะที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของพระราชาพาเลซอดีตไว้เพื่อนำไปใช้โดยสมาชิกของราชวงศ์และพระราชวัง ย้ายหลังจากที่เมืองหลวงพื้นที่พระราชวังเดิมถูกลดลงโดยรัชกาลที่ไม่รวมสองวัดจากบริเวณพระราชวัง. เมื่อเจ้าชาย Chakrapadipongse, ครอบครองที่ผ่านมาผ่านไปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าพระราชทานพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชวังเพื่อราชนาวีไทย เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ คำแนะนำที่ได้รับการรักษาโบราณสถานเช่นฮอลล์บัลลังก์กษัตริย์ปิ่นเกล้าที่อยู่อาศัยของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและหัวหน้าศาลเจ้าปลาวาฬ โรงเรียนนายเรือยังคงอยู่ที่พระราชวังเดิมจนกว่าจะถึงปี 1944 เมื่อมันถูกย้ายไปอยู่ที่สัตหีบและ Kledkaew จากนั้นก็จะถูกย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันของ บริษัท ที่สมุทรปราการในปี 1952 อาคารสถาบันการศึกษาซึ่งได้รับการสร้างขึ้นในสไตล์ตะวันตกได้รับการออกแบบเป็นสไตล์ไทยและเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกองทัพเรือไทยมาจนถึงปัจจุบัน. ในปี 1900 รัชกาลที่ V ส่งไปยังพระราชวังเดิมกองทัพเรือเพื่อทำหน้าที่เป็นกองโรงเรียนนายเรือ แต่คำแนะนำที่ได้รับในการรักษาโบราณสถานเช่นพระที่นั่งกิ่งที่อยู่อาศัยปิ่นเกล้าของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและหัวหน้าศาลเจ้าปลาวาฬ ในปี 1944 กองทัพเรือถูกย้ายสถาบันการศึกษาและพระราชวังก็กลายเป็นสำนักงานใหญ่ของกองทัพเรือไทยมาจนถึงปัจจุบัน พระราชวังเปิดให้บริการตั้งแต่ 08:30-04:00 ทุกวันยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์