In Basic Research, discovery target

In Basic Research, discovery targets are broad. Scientists and researchers generally look for capabilities that have some efficacy with an articulated broad market or customer-based need. Some Basic Research is truly blue sky, but that has been on the decline the past few decades as few can afford it. Basic Research often just rules out things that won't work and identifies inventions that might work.

Applied Research generally has a more specific target. It usually focuses on a known problem, business opportunity, or an application area where economic or social improvements are possible. Applied Research generally starts off by taking enablers that might work and attempts to narrow them down to the possible and likely feasible solutions.

Advanced Development generally takes these possible and likely feasible solutions and further reduces the risk in hopes of culling out the best alternatives to deliver to an expressed target for a capability or feature to incorporate into products. Downstream manufactured cost considerations start to come into play as a culling consideration. Mentioned earlier, some advanced and innovation organizations actually bring the entire product to market.

Finally, Product Development invents what’s needed and necessary “now” and packages both the form and function of all feasible and risk-reduced features and/or capabilities into products planned for release to the marketplace. Venn diagrams of each of these four historical R&D categories always overlapped, but the overlaps have grown in cadence with the growth of innovation emphasis this past decade.

In short, research and advanced development organizations historically didn’t bring products with full form and function to market. Instead, they specialized in experimentation and analysis, combined with breadboards and brassboards to demonstrate feasibility. Form and function was the job of Product Development.

Professionals in these pre-product development organizations were largely senior scientists and engineers who specialized in discovery and in narrowing-down feasibility issues. The knowledge of manufacturing capabilities and constraints, packaging, logistics, costing and other "product launch" disciplines were almost exclusively in the realm of Product Development. Today, the lines of organization purpose and demarcation aren’t as clear.

"Analog vs. Anywhere" R&DTraditional "Analog" R&D
R&D is a continuum—highly analog rather than digital in its construct. In the 20th century, R&D could generally be segmented into four categories: Basic Research, Applied Research, Advanced Development and Product Development. "Skunk Works," perhaps a fifth category, is a discussion for another day.

In Basic Research, discovery targets are broad. Scientists and researchers generally look for capabilities that have some efficacy with an articulated broad market or customer-based need. Some Basic Research is truly blue sky, but that has been on the decline the past few decades as few can afford it. Basic Research often just rules out things that won't work and identifies inventions that might work.

Applied Research generally has a more specific target. It usually focuses on a known problem, business opportunity, or an application area where economic or social improvements are possible. Applied Research generally starts off by taking enablers that might work and attempts to narrow them down to the possible and likely feasible solutions.

Advanced Development generally takes these possible and likely feasible solutions and further reduces the risk in hopes of culling out the best alternatives to deliver to an expressed target for a capability or feature to incorporate into products. Downstream manufactured cost considerations start to come into play as a culling consideration. Mentioned earlier, some advanced and innovation organizations actually bring the entire product to market.

Finally, Product Development invents what’s needed and necessary “now” and packages both the form and function of all feasible and risk-reduced features and/or capabilities into products planned for release to the marketplace. Venn diagrams of each of these four historical R&D categories always overlapped, but the overlaps have grown in cadence with the growth of innovation emphasis this past decade.

In short, research and advanced development organizations historically didn’t bring products with full form and function to market. Instead, they specialized in experimentation and analysis, combined with breadboards and brassboards to demonstrate feasibility. Form and function was the job of Product Development.

Results (Thai) 1:

ในงานวิจัยพื้นฐาน ค้นหาเป้าหมายได้กว้าง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วไปค้นหาความสามารถที่มีประสิทธิภาพบางอย่างกับตลาดการคิดหรือความต้องลูกค้า บางวิจัยพื้นฐานเป็นฟ้าอย่างแท้จริง แต่ที่ได้รับลดลงไม่กี่ทศวรรษเป็นไม่กี่สามารถจ่ายได้ การวิจัยมักจะเพียงกฎสิ่งที่จะไม่ทำงาน และระบุสิ่งประดิษฐ์ที่อาจทำงานการวิจัยประยุกต์โดยทั่วไปมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น มันมักจะเน้นปัญหาที่ทราบ โอกาสทางธุรกิจ หรือพื้นที่แอพลิเคชันที่ปรับปรุงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมเป็นไปได้ การวิจัยประยุกต์โดยทั่วไปเริ่มต้นปิด โดย enablers ถ่ายที่อาจทำงานและพยายามให้แคบลงเพื่อการแก้ปัญหาเป็นไปได้ และมีแนวโน้มขั้นสูงพัฒนาโดยทั่วไปใช้วิธีเหล่านี้ไปได้ และมีแนวโน้มเป็นไปได้ และช่วย ลดความเสี่ยงหวังของ culling ออกทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อส่งไปยังเป้าหมายแสดงความสามารถหรือคุณลักษณะในผลิตภัณฑ์ การพิจารณาต้นทุนการผลิตปลายน้ำเริ่มเข้ามาเล่นเนื่อง culling กล่าวถึงก่อนหน้านี้ บางขั้นสูง และนวัตกรรมองค์กรนำผลิตภัณฑ์ทั้งตลาดจริงในที่สุด พัฒนาผลิตภัณฑ์หนึ่งสิ่งที่จำเป็นและความจำเป็น "เลย" และแพคเกจทั้งแบบฟอร์มและฟังก์ชันคุณสมบัติที่สามารถทำได้ และ ลดความเสี่ยงหรือความสามารถในวางแผนเปิดตัวในตลาดผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เวนน์ไดอะแกรมของแต่ละประเภทเหล่านี้สี่อดีต R & D ซ้อนทับเสมอ แต่การทับซ้อนโตในจังหวะการเติบโตที่เน้นนวัตกรรมนี้ทศวรรษที่ผ่านมาในระยะสั้น วิจัยและพัฒนาขั้นสูงองค์กรในอดีตไม่ได้ผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบและฟังก์ชั่นที่มาตลาด แทน พวกเขาความเชี่ยวชาญในการทดลองและการวิเคราะห์ breadboards และ brassboards แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ งานแก้ไขงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผู้เชี่ยวชาญในองค์กรเหล่านี้พัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อนได้อาวุโสส่วนใหญ่นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่เชี่ยวชาญ ในการค้นพบ และ ในปัญหาความตีบลง ความรู้ความสามารถในการผลิต และข้อจำกัด บรรจุภัณฑ์ โลจิสติกส์ สาขาวิชา "เปิดตัวผลิตภัณฑ์" และคำนวณต้นทุนได้เกือบเฉพาะในขอบเขตของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ วันนี้ เส้นแบ่งเขตและวัตถุประสงค์ขององค์กรชัดเจน"นะเจอทุก" R & DTraditional "อนาล็อก" R & DR & D คือ การต่อเนื่อง — สูงนะไม่ ใช่ดิจิตอลในโครงสร้างของ ในศตวรรษที่ 20, R & D สามารถโดยทั่วไปเป็นแบ่งประเภทที่สี่: วิจัย วิจัยใช้ การ พัฒนาขั้นสูง และ พัฒนาผลิตภัณฑ์ "งานเสนียด ทีประเภทห้า เป็นการสนทนาสำหรับวันอื่นในงานวิจัยพื้นฐาน ค้นหาเป้าหมายได้กว้าง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วไปค้นหาความสามารถที่มีประสิทธิภาพบางอย่างกับตลาดการคิดหรือความต้องลูกค้า บางวิจัยพื้นฐานเป็นฟ้าอย่างแท้จริง แต่ที่ได้รับลดลงไม่กี่ทศวรรษเป็นไม่กี่สามารถจ่ายได้ การวิจัยมักจะเพียงกฎสิ่งที่จะไม่ทำงาน และระบุสิ่งประดิษฐ์ที่อาจทำงานการวิจัยประยุกต์โดยทั่วไปมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น มันมักจะเน้นปัญหาที่ทราบ โอกาสทางธุรกิจ หรือพื้นที่แอพลิเคชันที่ปรับปรุงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมเป็นไปได้ การวิจัยประยุกต์โดยทั่วไปเริ่มต้นปิด โดย enablers ถ่ายที่อาจทำงานและพยายามให้แคบลงเพื่อการแก้ปัญหาเป็นไปได้ และมีแนวโน้มขั้นสูงพัฒนาโดยทั่วไปใช้วิธีเหล่านี้ไปได้ และมีแนวโน้มเป็นไปได้ และช่วย ลดความเสี่ยงหวังของ culling ออกทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อส่งไปยังเป้าหมายแสดงความสามารถหรือคุณลักษณะในผลิตภัณฑ์ การพิจารณาต้นทุนการผลิตปลายน้ำเริ่มเข้ามาเล่นเนื่อง culling กล่าวถึงก่อนหน้านี้ บางขั้นสูง และนวัตกรรมองค์กรนำผลิตภัณฑ์ทั้งตลาดจริงในที่สุด พัฒนาผลิตภัณฑ์หนึ่งสิ่งที่จำเป็นและความจำเป็น "เลย" และแพคเกจทั้งแบบฟอร์มและฟังก์ชันคุณสมบัติที่สามารถทำได้ และ ลดความเสี่ยงหรือความสามารถในวางแผนเปิดตัวในตลาดผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เวนน์ไดอะแกรมของแต่ละประเภทเหล่านี้สี่อดีต R & D ซ้อนทับเสมอ แต่การทับซ้อนโตในจังหวะการเติบโตที่เน้นนวัตกรรมนี้ทศวรรษที่ผ่านมาในระยะสั้น วิจัยและพัฒนาขั้นสูงองค์กรในอดีตไม่ได้ผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบและฟังก์ชั่นที่มาตลาด แทน พวกเขาความเชี่ยวชาญในการทดลองและการวิเคราะห์ breadboards และ brassboards แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ งานแก้ไขงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์

Results (Thai) 2:

ในการวิจัยขั้นพื้นฐาน, การค้นพบเป้าหมายกว้าง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยโดยทั่วไปมองสำหรับความสามารถที่มีประสิทธิภาพบางคนที่มีตลาดกว้างก้องหรือความต้องการของลูกค้าที่ใช้ บางวิจัยพื้นฐานเป็นสีฟ้าอย่างแท้จริง แต่ที่ได้รับในการลดลงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาไม่กี่สามารถจ่ายได้ วิจัยพื้นฐานมักจะเป็นเพียงสิ่งที่ออกกฎที่จะไม่ทำงานและระบุสิ่งประดิษฐ์ที่อาจทำงาน.

วิจัยประยุกต์โดยทั่วไปมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น มันมักจะมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่รู้จักกันในโอกาสทางธุรกิจหรือการใช้พื้นที่ที่มีการปรับปรุงทางเศรษฐกิจหรือสังคมที่เป็นไปได้ วิจัยประยุกต์โดยทั่วไปเริ่มต้นโดยการรองรับที่จะทำงานและพยายามที่จะแคบลงไปที่การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และมีแนวโน้มที่เป็นไปได้.

การพัฒนาขั้นสูงทั่วไปจะใช้เวลาแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และมีแนวโน้มที่เป็นไปได้เหล่านี้และยังช่วยลดความเสี่ยงในความหวังของการเลือกสรรจากทางเลือกที่ดีที่สุดในการส่งมอบ ที่จะเป็นเป้าหมายสำหรับแสดงความสามารถหรือคุณลักษณะที่จะรวมเป็นผลิตภัณฑ์ ปลายน้ำพิจารณาค่าใช้จ่ายการผลิตเริ่มต้นที่จะเข้ามาเล่นเป็นข้อพิจารณาเลือกสรร กล่าวก่อนหน้านี้บางองค์กรและนวัตกรรมชั้นสูงจริงนำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปยังตลาด.

ในที่สุดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประดิษฐ์สิ่งที่จำเป็นและจำเป็น "ตอนนี้" และแพคเกจทั้งรูปแบบและฟังก์ชั่นของคุณสมบัติที่เป็นไปได้และความเสี่ยงที่ลดลงและ / หรือความสามารถในการเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางแผนไว้ สำหรับการเปิดตัวออกสู่ตลาด แผนภาพเวนน์ของแต่ละเหล่านี้สี่ประวัติศาสตร์ R & D ประเภทซ้อนทับเสมอ แต่การทับซ้อนมีการเติบโตในจังหวะที่มีการเจริญเติบโตของนวัตกรรมเน้นทศวรรษที่ผ่านมานี้.

ในระยะสั้นการวิจัยและการพัฒนาองค์กรที่ทันสมัยในอดีตไม่ได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบเต็มรูปแบบและฟังก์ชั่น ตลาด. แต่พวกเขาเชี่ยวชาญในการทดลองและการวิเคราะห์รวมกับ Breadboards และ brassboards แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ รูปแบบและฟังก์ชั่นเป็นงานของการพัฒนาผลิตภัณฑ์.

มืออาชีพในการพัฒนาองค์กรก่อนสินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์อาวุโสและวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญในการค้นพบและความเป็นไปได้ในเรื่องการกวดขันลง ความรู้เกี่ยวกับความสามารถในการผลิตและข้อ จำกัด บรรจุภัณฑ์, การขนส่ง, การคิดต้นทุนและอื่น ๆ "เปิดตัวผลิตภัณฑ์" สาขาอยู่เกือบเฉพาะในขอบเขตของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ วันนี้สายของวัตถุประสงค์องค์กรและการแบ่งเขตจะไม่เป็นที่ชัดเจน.

"อะนาล็อกกับทุก" R & DTraditional "อนาล็อก" R & D
R & D คือความต่อเนื่อง-สูงอนาล็อกมากกว่าดิจิตอลในการสร้างของ ในศตวรรษที่ 20, R & D สามารถโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นสี่ประเภท: การวิจัยพื้นฐานวิจัยประยุกต์, การพัฒนาขั้นสูงและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ "เหม็นธิการ" บางทีอาจจะเป็นประเภทที่ห้าคือการสนทนาสำหรับวันอื่น.

ในการวิจัยขั้นพื้นฐาน, การค้นพบเป้าหมายกว้าง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยโดยทั่วไปมองสำหรับความสามารถที่มีประสิทธิภาพบางคนที่มีตลาดกว้างก้องหรือความต้องการของลูกค้าที่ใช้ บางวิจัยพื้นฐานเป็นสีฟ้าอย่างแท้จริง แต่ที่ได้รับในการลดลงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาไม่กี่สามารถจ่ายได้ วิจัยพื้นฐานมักจะเป็นเพียงสิ่งที่ออกกฎที่จะไม่ทำงานและระบุสิ่งประดิษฐ์ที่อาจทำงาน.

วิจัยประยุกต์โดยทั่วไปมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น มันมักจะมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่รู้จักกันในโอกาสทางธุรกิจหรือการใช้พื้นที่ที่มีการปรับปรุงทางเศรษฐกิจหรือสังคมที่เป็นไปได้ วิจัยประยุกต์โดยทั่วไปเริ่มต้นโดยการรองรับที่จะทำงานและพยายามที่จะแคบลงไปที่การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และมีแนวโน้มที่เป็นไปได้.

การพัฒนาขั้นสูงทั่วไปจะใช้เวลาแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และมีแนวโน้มที่เป็นไปได้เหล่านี้และยังช่วยลดความเสี่ยงในความหวังของการเลือกสรรจากทางเลือกที่ดีที่สุดในการส่งมอบ ที่จะเป็นเป้าหมายสำหรับแสดงความสามารถหรือคุณลักษณะที่จะรวมเป็นผลิตภัณฑ์ ปลายน้ำพิจารณาค่าใช้จ่ายการผลิตเริ่มต้นที่จะเข้ามาเล่นเป็นข้อพิจารณาเลือกสรร กล่าวก่อนหน้านี้บางองค์กรและนวัตกรรมชั้นสูงจริงนำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปยังตลาด.

ในที่สุดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประดิษฐ์สิ่งที่จำเป็นและจำเป็น "ตอนนี้" และแพคเกจทั้งรูปแบบและฟังก์ชั่นของคุณสมบัติที่เป็นไปได้และความเสี่ยงที่ลดลงและ / หรือความสามารถในการเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางแผนไว้ สำหรับการเปิดตัวออกสู่ตลาด แผนภาพเวนน์ของแต่ละเหล่านี้สี่ประวัติศาสตร์ R & D ประเภทซ้อนทับเสมอ แต่การทับซ้อนมีการเติบโตในจังหวะที่มีการเจริญเติบโตของนวัตกรรมเน้นทศวรรษที่ผ่านมานี้.

ในระยะสั้นการวิจัยและการพัฒนาองค์กรที่ทันสมัยในอดีตไม่ได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบเต็มรูปแบบและฟังก์ชั่น ตลาด. แต่พวกเขาเชี่ยวชาญในการทดลองและการวิเคราะห์รวมกับ Breadboards และ brassboards แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ รูปแบบและฟังก์ชั่นเป็นงานของการพัฒนาผลิตภัณฑ์