2 Inflation targeting literature re

2 Inflation targeting literature review
Inflation targeting policy focuses on the inflation rate and started in
New Zealand in 1990. Now, inflation targeting is a policy adopted by 9
industrial countries and 19 emerging countries. Prior to this new policy,
central banks used to focus on intermediate targets such as monetary aggregates. Applying this policy is consistent with the major goal of monetary policy, which is to achieve price stability and enhance economic
growth. Moreover, this policy is a clear sign from the central bank that it
is combating the inflation rate.
The technical steps of how to set up a price-targeting framework are
simple and easy. First, the economic team, i.e. monetary and fiscal authorities set-up and announce the appropriate inflation rate for the economy.
Second, the monetary authority monitors the actual inflation rate and sets
some forecasts. Third, the monetary authority adjusts monetary policy to
reduce the gap between the forecast and the target. Horvath and Mateju
(2011) found that higher levels of inflation and higher variability of inflation are associated with higher inflation targeting. Moreover, they found a
negative relationship between central bank credibility and inflation targeting. The great recession of 2007-2008 has opened a new challenge facing
inflation targeters in the form of a trade-off between controlling the
inflation rate or limiting economic contraction.
The debate in developed and developing countries regarding inflation
targeting is very dissimilar. In developed countries the argument is about
does inflation targeting make a difference? Economists in these countries
seek evidence to prove that macroeconomic performance is better under
inflation targeting. However, in developing countries, economists explore
the applicability of inflation targeting.

Results (Thai) 1:

2 การทบทวนวรรณกรรมในการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ นโยบายเป้าหมายเงินเฟ้อในอัตราเงินเฟ้อ และเริ่มนิวซีแลนด์ในปี 1990 ตอนนี้ การกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นนโยบายนำ โดย 9ประเทศอุตสาหกรรมและประเทศเกิดใหม่ 19 ก่อนหน้านี้นโยบายใหม่ธนาคารกลางใช้ในการเน้นเป้าหมายระดับกลางเช่นเงินเพิ่ม ใช้นโยบายนี้จะสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของนโยบายการเงิน ที่จะให้เกิดราคาเสถียรภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจเจริญเติบโต นอกจากนี้ นโยบายนี้จะล้างการลงทะเบียนจากธนาคารกลางเป็นต่อสู้อัตราเงินเฟ้อ ขั้นตอนเทคนิควิธีการตั้งค่ากรอบการกำหนดราคาเป้าหมายง่าย และสะดวก ครั้งแรก การเศรษฐกิจ ทีม ตั้งค่าหน่วยงานเช่นเงิน และเงิน และประกาศอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมสำหรับเศรษฐกิจสอง หน่วยการเงินตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นจริง และตั้งค่าคาดการณ์บางอย่าง ที่สาม อำนาจเงินปรับนโยบายการเงินลดช่องว่างระหว่างการคาดการณ์และเป้าหมาย Horvath และ Mateju(2011) พบว่า ระดับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและสูงขึ้นสำหรับความผันผวนของอัตราเงินเฟ้อจะเกี่ยวข้องกับการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น นอกจากนี้ พวกเขาพบกับความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางและการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ถดถอยดี 2007-2008 ได้เปิดการเชื่อมต่อกับความท้าทายใหม่targeters เงินเฟ้อในรูปแบบของ trade-off ระหว่างการควบคุมการ อัตราเงินเฟ้อหรือการหดตัวทางเศรษฐกิจจำกัด The debate in developed and developing countries regarding inflationtargeting is very dissimilar. In developed countries the argument is aboutdoes inflation targeting make a difference? Economists in these countriesseek evidence to prove that macroeconomic performance is better underinflation targeting. However, in developing countries, economists explorethe applicability of inflation targeting.

Results (Thai) 2:

2 การกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทบทวนวรรณกรรม
การกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อนโยบายมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อและการเริ่มต้นใน
นิวซีแลนด์ในปี 1990 ตอนนี้เป้าหมายเงินเฟ้อเป็นนโยบายนำโดย 9
ประเทศอุตสาหกรรมและ 19 ประเทศเกิดใหม่ ก่อนที่จะมีนโยบายใหม่นี้
ธนาคารกลางที่ใช้ในการมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายระดับกลางเช่นปริมาณเงิน การใช้นโยบายนี้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของนโยบายการเงินซึ่งเป็นเพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคาและเสริมสร้างเศรษฐกิจที่
เจริญเติบโต นอกจากนี้นโยบายนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากการที่ธนาคารกลางว่ามัน
คือการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ.
ขั้นตอนทางเทคนิคของวิธีการตั้งค่ากรอบราคาการกำหนดเป้าหมาย
ที่ง่ายและสะดวก ครั้งแรกที่ทีมเศรษฐกิจเช่นเจ้าหน้าที่การเงินและการคลังตั้งขึ้นและประกาศอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมสำหรับเศรษฐกิจ.
ประการที่สองผู้มีอำนาจทางการเงินตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจริงและการตั้งค่า
การคาดการณ์บางอย่าง ประการที่สามผู้มีอำนาจทางการเงินปรับนโยบายการเงินเพื่อ
ลดช่องว่างระหว่างการคาดการณ์และเป้าหมาย Horvath และ Mateju
(2011) พบว่าระดับที่สูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและความแปรปรวนสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่มีความเกี่ยวข้องกับการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น นอกจากนี้พวกเขาพบ
ความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางและเป้าหมายเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ดีของ 2007-2008 ได้เปิดความท้าทายใหม่หันหน้าไปทาง
targeters อัตราเงินเฟ้อในรูปแบบของการค้าระหว่างการควบคุม
อัตราเงินเฟ้อหรือ จำกัด การหดตัวทางเศรษฐกิจ.
การอภิปรายในที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่
กำหนดเป้าหมายที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ในประเทศที่พัฒนาอาร์กิวเมนต์เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
การกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ไม่สร้างความแตกต่าง? นักเศรษฐศาสตร์ในประเทศเหล่านี้
แสวงหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพการทำงานเศรษฐกิจมหภาคจะดีกว่าอยู่ภายใต้
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนานักเศรษฐศาสตร์สำรวจ
การบังคับใช้ของเป้าหมายเงินเฟ้อ

Results (Thai) 3:

2 เป้าหมายเงินเฟ้อทบทวน
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อนโยบายมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อและเริ่มต้นใน
นิวซีแลนด์ในปี 1990 วรรณกรรม ตอนนี้ เป้าหมายเงินเฟ้อเป็นนโยบายประกาศใช้ โดย 9
อุตสาหกรรมประเทศและ 19 ประเทศที่เกิด ก่อนที่จะมีนโยบายใหม่นี้
ธนาคารกลางใช้เพื่อมุ่งเน้นเป้าหมายขั้นกลาง เช่น กลุ่มการเงินการใช้นโยบายนี้เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นเพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคาและเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นโยบายนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากธนาคารกลางที่
การต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ .
ขั้นตอนทางเทคนิคของวิธีการตั้งค่าราคากรอบเป้าหมายคือ
ง่ายและง่าย แรก , ทีมเศรษฐกิจ เช่นการตั้งค่าเจ้าหน้าที่การเงินและการคลัง และประกาศอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทย
ที่สอง ธนาคารกลางตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงและชุด
มีการคาดการณ์ . ประการที่สาม ธนาคารกลางจะปรับนโยบายการเงิน

ลดช่องว่างระหว่างการพยากรณ์และเป้าหมาย ฮอร์วาธ และ mateju
( 2011 ) พบว่าระดับที่สูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับ สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย นอกจากนี้ยังพบความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง
ความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย เศรษฐกิจที่ดีของ 2007-2008 ได้เปิดใหม่ความท้าทายหันหน้าไปทาง
เงินเฟ้อ targeters ในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนระหว่างการควบคุม
อัตราเงินเฟ้อหรือจำกัดการหดตัวทางเศรษฐกิจ .
การอภิปรายเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่พัฒนาและการพัฒนา
กลุ่มเป้าหมายมากแตกต่างกัน . ในประเทศที่พัฒนาแล้วการโต้แย้งเกี่ยวกับ
ไม่หนุนสร้างความแตกต่าง ? นักเศรษฐศาสตร์ในประเทศเหล่านี้
แสวงหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อดีกว่า
. อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาประเทศนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจการใช้เป้าหมายเงินเฟ้อของ

.