Over the past decade, policymakers

Over the past decade, policymakers in East Asia have implemented new policies and programs aimed at increasing the capacity for leadership in schools (Cheng & Walker, 2008; Hallinger, 2011; Walker & Kwan, 2008). The rationale for overhauling school management systems (e.g., school based management, quality systems, accountability structures) and developing new approaches to the recruitment, selection, training, and evaluation of school leaders is based upon an increasingly substantial empirical knowledge base concerning the contributions that instructional leadership makes to school performance (Hallinger & Heck, 1996; Leithwood et al., 2006; Robinson et al., 2008). At the same time, scholars have noted that this knowledge base consists largely of theory and empirical research from Western cultural contexts (Cheng, 1995; Hallinger, 1995, in press; Hallinger & Leithwood, 1998; Hallinger et al., 2005; Walker & Dimmock, 2002). This limitation of the knowledge base on school leadership in East Asia represents the focus of this project.
The Instructional Leadership in East Asia (ILEA) project seeks to contribute to the development of the knowledge base on principal instructional leadership in 7 East Asian societies: Hong Kong, Mainland China, Vietnam, Malaysia, Taiwan, Singapore, and Thailand. The research is being conducted in three overlapping stages using methods designed to explore how principals enact instructional leadership from ‘indigenous perspectives’ (Bajunid, 1996). That is, we began with a very broad framework derived from prior research, but without a functional definition of the role or its composite practices. The stages of the research process consist of:
• Literature reviews within each of the seven societies,
• A qualitative research design that employs open-ended and semi-structured interviews with a sample of 30 primary school principals in each country,
• Adaptation and validation of the PIMRS instrument in each of the 7 countries to create an Asia-adapted version of the instrument. Quantitative data collection for the purposes of validation will also include additional variables that can be collected directly from the principals (e.g., slef-efficacy, gender, experience etc.).
These methods will enable us to generate propositions about how instructional leadership is exercised within and across these societies. Thus, the project will refine the existing knowledge base concerning a key facet of school leadership and lay the foundation for contextualized, large-scale quantitative studies in the future.
As of September 2015, the project members have, in most societies, completed the first phase (i.e., Lit Review) and are in the process of completing the second phase (qualitative data collection and analysis).

Results (Thai) 1:

กว่าทศวรรษที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายในเอเชียตะวันออกใช้นโยบายใหม่และโปรแกรมที่มุ่งที่การเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับผู้นำในโรงเรียน (เฉิงและวอล์คเกอร์ 2008 Hallinger, 2011 วอล์คเกอร์และขวัญ 2008) ผล overhauling ระบบการบริหารโรงเรียน (เช่น จัดการตามโรงเรียน ระบบคุณภาพ โครงสร้างความรับผิดชอบ) และการพัฒนาใหม่ ๆ เพื่อสรรหาบุคลากร เลือก ฝึกอบรม การประเมินผลของโรงเรียนผู้นำขึ้นอยู่กับการขึ้นพบประจักษ์รู้เกี่ยวกับการจัดสรรที่เป็นผู้นำสอนทำโรงเรียน (Hallinger & Heck, 1996 Leithwood et al., 2006 โรบินสันและ al., 2008) ในเวลาเดียวกัน นักวิชาการได้ตั้งข้อสังเกตว่า ฐานความรู้นี้ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของทฤษฎีและผลวิจัยจากบริบทวัฒนธรรมตะวันตก (เฉิง 1995 Hallinger, 1995 ที่กด Hallinger & Leithwood, 1998 Al. Hallinger ร้อยเอ็ด 2005 วอล์คเกอร์และ Dimmock, 2002) ข้อจำกัดนี้ของฐานความรู้ในโรงเรียนเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกแสดงถึงจุดเน้นของโครงการนี้ผู้สอนในโครงการเอเชียตะวันออก (ILEA) พยายามที่จะนำไปสู่การพัฒนาฐานความรู้ของผู้สอนหลักในสังคมเอเชียตะวันออก 7: Hong Kong จีนแผ่นดินใหญ่ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และไทย การวิจัยจะถูกดำเนินการในสามขั้นตอนทับซ้อนกันโดยใช้วิธีการออกแบบมาเพื่อสำรวจวิธีแบบแสดงออกเป็นผู้นำสอนจาก 'มุมมองพื้น' (Bajunid, 1996) นั่นคือ เราเริ่มต้น ด้วยกรอบกว้างมากได้มา จากงานวิจัยก่อนหน้านี้ แต่ ไม่มีคำนิยามงานของบทบาทหรือปฏิบัติการโดยรวม ขั้นตอนของการวิจัยประกอบด้วย:•เอกสารประกอบการรีวิวในแต่ละสังคม 7• A ออกแบบการวิจัยเชิงคุณภาพที่ใช้การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบเปิด ด้วยตัวอย่างของแบบที่ 30 โรงเรียนในแต่ละประเทศ•ปรับและตรวจสอบเครื่องมือ PIMRS ใน 7 ประเทศสร้างรุ่นเอเชียดัดแปลงของตราสาร รวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อการตรวจสอบจะรวมตัวแปรเพิ่มเติมซึ่งรวบรวมโดยตรงจากแบบ (เช่น slef ประสิทธิภาพ เพศ ประสบการณ์ฯลฯ)วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างเริ่มเกี่ยวกับ วิธีสอนเป็นผู้นำได้ใช้ภายใน และสังคมเหล่านี้ ดังนั้น โครงการจะปรับฐานความรู้ที่มีอยู่เกี่ยวกับพได้สำคัญของผู้นำโรงเรียน และวางรากฐานสำหรับการศึกษาเชิงปริมาณ contextualized ขนาดใหญ่ในอนาคตณ 2015 กันยายน สมาชิกโครงการ ในสังคมมากที่สุด เสร็จเฟสแรก (เช่น แสงตรวจสอบ) และอยู่ระหว่างดำเนินการระยะที่สอง (รวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและวิเคราะห์)

Results (Thai) 3:

กว่าทศวรรษที่ผ่านมา นโยบายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้ใช้นโยบายและโครงการใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับผู้นำในโรงเรียน ( เฉิง&วอล์คเกอร์ , 2008 ; โรงเรียน 2011 ; วอล์คเกอร์&ควาน , 2008 ) เหตุผลและ Overhauling ระบบการจัดการโรงเรียน เช่น โรงเรียน ตามการจัดการคุณภาพระบบ โครงสร้างความรับผิดชอบ ) และพัฒนาแนวทางใหม่ในการสรรหาการคัดเลือก การฝึกอบรม และการประเมินผลของผู้นำโรงเรียนขึ้นเป็นรูปธรรมมากขึ้นความรู้เชิงประจักษ์เกี่ยวกับผลงานที่ฐานความเป็นผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน ( โรงเรียน ทำให้ประสิทธิภาพ& Heck , 1996 ; leithwood et al . , 2006 ; โรบินสัน et al . , 2008 ) ใน เวลาเดียวกันนักวิชาการได้ตั้งข้อสังเกตว่าฐานความรู้ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของทฤษฎีและการวิจัยเชิงประจักษ์จากบริบททางวัฒนธรรมตะวันตก ( Cheng , 1995 ; โรงเรียนในโรงเรียน , 1995 , กด & leithwood , 1998 ; โรงเรียน et al . , 2005 ; วอล์คเกอร์& dimmock , 2002 ) ข้อ จำกัด นี้ของฐานความรู้ในผู้นำโรงเรียนในเอเชียตะวันออกเป็นโฟกัสของโครงการนี้
.การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ( ilea ) โครงการที่มุ่งสนับสนุนการพัฒนาฐานความรู้เกี่ยวกับความเป็นผู้นำการสอนหลักใน 7 ตะวันออกสังคมเอเชีย : ฮ่องกง แผ่นดินใหญ่จีน เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และไทยการวิจัยจะถูกดำเนินการในที่ทับซ้อนกันสามขั้นตอนโดยใช้วิธีการที่ออกแบบมาเพื่อสำรวจว่าคนออกกฎหมายผู้นำทางวิชาการจากมุมมอง ' ' พื้นเมือง ( bajunid , 1996 ) คือว่า เราเริ่มต้นด้วยกรอบที่กว้างมากที่ได้มาจากการวิจัยก่อน แต่ไม่มีนิยามการทำงานของบทบาทหรือคอมโพสิต ) ขั้นตอนของกระบวนการวิจัยประกอบด้วย :
วรรณกรรม - รีวิวภายในแต่ละเจ็ดสังคม
- การวิจัยเชิงคุณภาพ การออกแบบที่ใช้ปลายเปิดและการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง มีจำนวน 30 โรงเรียนผู้บริหารในแต่ละประเทศ ,
- การปรับตัว และความตรงของเครื่องมือในแต่ละ pimrs ของ 7 ประเทศที่จะสร้างเอเชียปรับรุ่นของเครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบเชิงปริมาณจะรวมถึงตัวแปรเพิ่มเติมที่สามารถเก็บรวบรวมโดยตรงจากผู้บริหาร เช่น slef ความสามารถ เพศ ประสบการณ์ ฯลฯ )
วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้นำการจัดการเรียนการสอนจะใช้ภายในและระหว่างสังคมเหล่านี้ ดังนั้นโครงการปรับแต่งที่มีอยู่ในแง่ความรู้พื้นฐานสำคัญของผู้นำโรงเรียนและวางรากฐานสำหรับ contextualized ขนาดใหญ่ปริมาณการศึกษาในอนาคต .
เมื่อกันยายน 2015 , สมาชิกในโครงการได้ ในสังคมส่วนใหญ่ เสร็จเฟสแรก ( เช่นจุดตรวจสอบ ) และอยู่ในกระบวนการของการจบระยะที่ 2 ( วิจัยเชิงคุณภาพในการเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์