Data presented in Table 1 shows the

Data presented in Table 1 shows the effect of yeast strains on quality of young wines made from Sauvignon Blanc. Significant differences were noted in all studied parameters among the yeast strains. The pH values of wines produced from different yeast strains were ranged from 3.29 to 3.51. The pH values of all wines were within acceptable limit of good wines. Total titratable acidity content of wines ranged between 6.05 and 7.31 g/l. The wine made from PC was recorded with minimum titratable acidity and maximum value was recorded in wine made from spontaneous fermentation. Wine made from RS-3 contained maximum volatile acidity with the value of 0.255 g/l followed by RS-1, RS-2, NT and PC with values of 0.152, 0.147, 0.136 and 0.097 g/l, respectively. Total SO2 content of wines also varied according to the yeast strains. Maximum concentration (44.90 mg/l) was reported in RS-2 followed by RS-1, PC, NT and least (28.95 mg/l) was in RS-3. However, maximum free SO2 content was found in RS-3 followed by PC. Sugar content of these wines showed the fermentation efficiency of particular strain. The wines obtained from the inoculation of RS-1 contained maximum total sugars and reducing sugar. Minimum reducing sugar i.e. 1.48 g/l was observed in RS-3 followed by RS-2 (1.55 g/l). Wine produced by the inoculation of RS-3 recorded maximum alcohol i.e. 13.5 percent followed by RS-2. Whereas, wine made from RS-1 contained minimum alcohol (10.9%). The antioxidant capacity of young wines was also affected by the used yeast strains. The antioxidant capacity was reflected through the values of phenolic content, FRAP and DPPH assay. Wines produced from spontaneous fermentation was found with minimum value of phenolics i.e. 0.107 g/l while maximum concentration was reported in wine made from RS-1 with the value of 0.126 g/l. The values of FRAP and DPPH were maximum in wines obtained from Premier Cuvee

Results (Thai) 1:

ข้อมูลที่นำเสนอในตารางที่ 1 แสดงผลของสายพันธุ์ยีสต์ที่มีต่อคุณภาพของไวน์ที่ทำจากหนุ่ม Sauvignon Blanc ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระบุไว้ในพารามิเตอร์การศึกษาทั้งหมดในหมู่สายพันธุ์ยีสต์ ค่า ph ของไวน์ที่ผลิตจากยีสต์สายพันธุ์ที่แตกต่างกันอยู่ระหว่าง 3.29-3.51 ค่า ph ของไวน์ทุกคนภายในระยะที่ยอมรับของไวน์ที่ดีความเป็นกรดที่ไตเตรทเนื้อหาโดยรวมของไวน์ที่อยู่ระหว่าง 6.05 และ 7.31 g / l ไวน์ที่ทำจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกบันทึกไว้มีความเป็นกรดที่ไตเตรทต่ำสุดและค่าสูงสุดจะถูกบันทึกลงในไวน์ที่ทำจากการหมักธรรมชาติ ไวน์ที่ทำจากอาร์เอส-3 ที่มีความเป็นกรดที่ระเหยได้สูงสุดกับมูลค่าของ 0.255 กรัม / ลิตรตามด้วยอาร์เอส-1, rs-2, NT และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีค่าของ 0.152, 0.147, 0.136 และ 0.097 กรัม / ลิตรตามลำดับเนื้อหา SO2 รวมของไวน์ที่ยังแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ยีสต์ ความเข้มข้นสูงสุด (44.90 mg / l) มีรายงานใน rs-2 ตามด้วยอาร์เอส-1 ชิ้น NT และน้อย (28.95 mg / l) ในอาร์เอส-3 แต่เนื้อหา SO2 ฟรีสูงสุดที่พบในอาร์เอส-3 ตามมาด้วยคอมพิวเตอร์ ปริมาณน้ำตาลของไวน์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพการหมักของสายพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนของ rs-1 ที่มีน้ำตาลรวมสูงสุดและลดน้ำตาล ขั้นต่ำลดน้ำตาลคือ 1.48 กรัม / ลิตรเป็นข้อสังเกตใน rs-3 ตามด้วยอาร์เอส-2 ​​(1.55 กรัม / ลิตร) ไวน์ที่ผลิตโดยการฉีดวัคซีนของอาร์เอส-3 บันทึกแอลกอฮอล์สูงสุดคือร้อยละ 13.5 รองลงมาคืออาร์เอส-2 ขณะที่ไวน์ที่ทำจากอาร์เอส-1 ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขั้นต่ำ (10.9%)สารต้านอนุมูลอิสระของไวน์หนุ่มยังได้รับผลกระทบจากการใช้สายพันธุ์ยีสต์ สารต้านอนุมูลอิสระได้สะท้อนให้เห็นผ่านค่าของเนื้อหาฟีนอลและทดสอบ frap DPPH ไวน์ที่ผลิตจากการหมักธรรมชาติพบด้วยค่าต่ำสุดของฟีนอลคือ 0.107 กรัม / ลิตรในขณะที่ความเข้มข้นสูงสุดที่มีการรายงานในไวน์ที่ทำจากอาร์เอส-1 มีมูลค่า 0.126 g / lค่านิยมของ frap และ DPPH ได้สูงสุดในไวน์ที่ได้รับจาก Cuvee นายกรัฐมนตรี

Results (Thai) 2:

ข้อมูลที่แสดงในตารางที่ 1 แสดงผลของยีสต์คุณภาพของไวน์ที่ทำจากลังค์สวีหนุ่ม ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญได้ระบุไว้ในพารามิเตอร์ทั้งหมด studied ในยีสต์ อยู่ในค่า pH ของไวน์ที่ผลิตจากยีสต์ที่แตกต่างกันที่ช่วงจาก 3.29 การ 3.51 ค่า pH ของไวน์ทั้งหมดภายในขีดจำกัดที่ยอมรับของไวน์ดีขึ้น เนื้อหาว่า titratable ไวน์ที่อยู่ในช่วงระหว่าง 6.05 และ 7.31 g/l ไวน์ที่ทำจากพีซีถูกบันทึกไว้ ด้วยว่า titratable ต่ำสุด และค่าสูงสุดที่ถูกบันทึกในไวน์ที่ทำจากการหมักอยู่ ไวน์ที่ทำจาก RS-3 อยู่มีการระเหยสูงสุด ด้วยค่า 0.255 g/l ตาม ด้วย RS-1, RS 2, NT และพีซี มีค่า 0.152, 0.147, 0.136 และ 0.097 g/l ตามลำดับ รวมเนื้อหา SO2 ของไวน์ที่แตกต่างกันตามสายพันธุ์ของยีสต์ ความเข้มข้นสูงสุด (44.90 มิลลิกรัม/ลิตร) ได้รายงานใน RS-2 ตาม ด้วย RS-1, PC, NT และน้อยที่สุด (28.95 mg/l) อยู่ใน RS-3 อย่างไรก็ตาม SO2 เนื้อหาฟรีสูงสุดพบใน RS-3 ตาม ด้วย PC เนื้อหาน้ำตาลไวน์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการหมักต้องใช้เฉพาะ ไวน์ที่ได้รับจาก inoculation RS-1 ประกอบด้วยน้ำตาลสูงสุดรวมและน้ำตาลลดลง ต่ำลดน้ำตาลเช่น 1.48 g/l ถูกสังเกตใน RS-3 ตาม ด้วย RS-2 (1.55 g/l) ไวน์ที่ผลิต โดย inoculation RS 3 บันทึกแอลกอฮอล์สูงสุดคือร้อยละ 13.5 ตาม ด้วย RS-2 ขณะ ไวน์ทำจาก RS-1 ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ต่ำ (10.9%) กำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระของไวน์หนุ่มได้ยังได้รับผลกระทบ โดยใช้ยีสต์ กำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระที่สะท้อนผ่านค่าฟีนอเนื้อหา FRAP และ DPPH assay ไวน์ที่ผลิตจากการหมักอยู่พบ มีค่าต่ำสุดของ phenolics เช่น 0.107 g/l ในขณะที่มีรายงานความเข้มข้นสูงสุดในไวน์ที่ทำจาก RS-1 ค่าของ 0.126 g/l ค่า FRAP และ DPPH ได้สูงสุดในไวน์ที่ได้รับจาก Cuvee พรีเมียร์

Results (Thai) 3:

ข้อมูลในตาราง 1 แสดงผลในด้านพันธุ์ผสมยีสต์ใน คุณภาพ ของไวน์หนุ่มทำจาก Sauvignon Blanc ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในพารามิเตอร์ศึกษาทั้งหมดอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดที่ผสมยีสต์ ค่า pH ของไวน์ที่ผลิตจากพันธุ์ผสมยีสต์แตกต่างกันเป็นว่า Fixed Ranged Discount Promotion จาก 3.29 เป็น 3.51 ค่า pH ของไวน์ทั้งหมดมีอยู่ ภายใน ค่าจำกัดที่เป็นที่ยอมรับของไวน์ชั้นดีเนื้อหากรด titratable รวมของไวน์ and Ranged Discount Promotion ระหว่าง 6.05 และ 7.31 กรัม/ L ไวน์ที่ทำมาจากเครื่องพีซีได้รับการบันทึก ภาพ ไว้ด้วยกรด titratable ต่ำสุดและความคุ้มค่าสูงสุดได้รับการบันทึก ภาพ ไว้ในไวน์ทำจากหมักเอง ไวน์จาก RS 3 เปรี้ยวความผันผวนสูงสุดพร้อมด้วยความคุ้มค่าของ 0.255 กรัม/ L ตามด้วย RS 1 RS 2 NT และเครื่องพีซีด้วยค่าของ 0.152 0.147 0.136 และ 0.097 กรัม/ L ตามลำดับ.เนื้อหา 2 รวมของไวน์ที่หลากหลายนอกจากนั้นยังตามพันธุ์ผสมยีสต์ได้ ความเข้มข้นสูงสุด( 44.90 มก./ลิตร)ได้มีการรายงานข่าวใน RS 2 ตามด้วย RS - 1 พีซี NT และอย่างน้อย( 28.95 มก./ลิตร)อยู่ใน RS 3 แต่ถึงอย่างไรก็ตามเนื้อหา 2 แบบไม่เสียค่าบริการสูงสุดได้พบใน RS 3 ตามด้วยเครื่องพีซี เนื้อหาน้ำตาลทรายของไวน์เหล่านี้แสดงให้เห็น ประสิทธิภาพ การหมักที่การดึงเฉพาะไวน์ที่ได้รับจากเพาะ(ความคิด)ของ RS 1 ที่อยู่น้ำตาลรวมสูงสุดและลดน้ำตาลทราย อย่างน้อยการลดน้ำตาลทรายเช่น 1.48 กรัม/ลิตรพบว่าใน RS 3 ตามด้วย RS 2 ( 1.55 กรัม/ L ) ไวน์ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเพาะ(ความคิด)ของ RS 3 ที่บันทึกสูงสุดเช่นแอลกอฮอล์ 13.5% ตามด้วย RS 2 ในขณะที่ไวน์จาก RS 1 ที่อยู่แอลกอฮอล์ต่ำสุด( 10.9% )ความสามารถต้านอนุมูลอิสระอยู่มากของไวน์หนุ่มได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดผสมยีสต์ที่ใช้ได้ ความสามารถต้านอนุมูลอิสระอยู่มากที่สะท้อนออกมาผ่านทางค่าของข้อมูลตัวเครื่อง Phenolic frap dpph สอบและ ผลิตไวน์จากหมักโดยตนเองได้พบว่ามีค่าต่ำสุดของ L phenolics เช่น 0.107 (กว้าง G /ในขณะที่ความเข้มข้นสูงสุดได้มีการรายงานข่าวในไวน์ทำจาก RS 1 มีมูลค่า 0.126 L G /ค่าของ frap และ dpph ได้สูงสุดในไวน์ได้รับจาก Premier cuvee