Cultural differences are explained

Cultural differences are explained in terms of socially shared axiomatic assumptions or
cultural theories in specific life domains; the approach thus also links ecocultural and
cultural theoretical perspectives (Cooper & Denner, 1998). Bringing ecological theory and
culture together implies defining individual competence within the cultural and historical
context, placing emphasis on variation and change within communities. Whether or not
culture would make an impact on cognition in a particular social situation depends on
whether the relevant shared assumptions are available, accessible, salient, and applicable in
the situation. Thus, the influences of culture on cognition and behaviour are dynamic and
mediated by values, norms and the basic principles of social cognition. Morris and Fu
(2001) identify three moderators of cultural differences that determine whether knowledge
becomes accessible, namely the properties of the person (e.g. motives, availability of
constructs), the situational context (e.g. time pressure, recent history), and the stimulus
event (e.g. applicability, salience) that determine the frequency of use (Higgins, 1996). Inthe last few years, these three areas have been covered by extensive research, especially in
the area of intercultural negotiation (see below).

Results (Thai) 1:

แตกต่างทางวัฒนธรรมมีการอธิบายในแง่ของการใช้งานร่วมกันทางสังคมซึ่งเป็นจริงสมมติฐานหรือทฤษฎี
วัฒนธรรมในโดเมนชีวิตเฉพาะวิธีการจึงยังเชื่อมโยง ecocultural
และมุมมองเชิงทฤษฎีทางวัฒนธรรม (cooper DENNER &, 1998) การนำทฤษฎีทางนิเวศวิทยาและวัฒนธรรม
ร่วมกันหมายถึงการกำหนดความสามารถของแต่ละบุคคลในบริบททางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
การวางความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงภายในชุมชน หรือไม่
วัฒนธรรมจะทำให้ส่งผลกระทบต่อความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ทางสังคมที่เฉพาะเจาะจงขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่า
ที่ใช้ร่วมกันที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่สามารถเข้าถึงได้เด่นและสามารถใช้งานได้ในสถานการณ์
จึงมีอิทธิพลของวัฒนธรรมในความรู้ความเข้าใจและพฤติกรรมเป็นแบบไดนามิกและ
ผู้ไกล่เกลี่ยโดยค่าบรรทัดฐานและหลักการพื้นฐานของการรับรู้ทางสังคม มอร์ริสและฟู
(2001) ระบุสามผู้ดูแลของความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ตรวจสอบว่ามีความรู้จะสามารถเข้าถึง
คือคุณสมบัติของบุคคล (เช่นแรงจูงใจ, ความพร้อมของโครงสร้าง
) บริบทสถานการณ์ (เช่นความดันเวลาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา) และ กระตุ้น
เหตุการณ์ (เช่นการบังคับใช้นูน) ที่เป็นตัวกำหนดความถี่ของการใช้ (ฮิกกินส์, 1996) inthe ไม่กี่ปีที่ผ่านมาทั้งสามพื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองจากการวิจัยอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่
ของการเจรจาต่อรองระหว่างวัฒนธรรม (ดูด้านล่าง)

Results (Thai) 2:

อธิบายความแตกต่างทางวัฒนธรรมในสังคมร่วม axiomatic สมมติฐาน หรือ
ทฤษฎีวัฒนธรรมในโดเมนเฉพาะชีวิต วิธีการทำยังลิงค์ ecocultural และ
มุมมองทฤษฎีวัฒนธรรม (Cooper & Denner, 1998) นำทฤษฎีระบบนิเวศ และ
วัฒนธรรมร่วมกันหมายถึงการกำหนดความสามารถที่แต่ละวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์
บริบท ทำการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงในชุมชน หรือไม่
วัฒนธรรมจะสร้างผลกระทบกับประชานในเฉพาะทางสังคมขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ว่าสมมติฐานร่วมที่เกี่ยวข้องจะพร้อมใช้งาน สามารถ เด่น และใช้ใน
สถานการณ์ ดังนั้น อิทธิพลทางวัฒนธรรมของประชานและพฤติกรรมเป็นแบบไดนามิก และ
mediated โดยค่า บรรทัดฐานและหลักการพื้นฐานของสังคมประชาน มอร์ริสและ Fu
(2001) ระบุผู้ควบคุมที่สามของความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่กำหนดว่าความรู้
ไอ คือคุณสมบัติของบุคคล (เช่น motives พร้อมใช้งานของ
สร้าง), บริบทเมืองไทย (เช่นความกดดันเวลา ประวัติล่า), และการกระตุ้น
เหตุการณ์ความเกี่ยวข้อง (เช่นของ salience) ที่กำหนดความถี่ของการใช้ (ฮิกกินส์ 1996) Inthe ไม่กี่ปี สามด้านได้ถูกครอบคลุม โดยการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
พื้นที่ของสมาคมเจรจา (ดูด้านล่าง)

Results (Thai) 3:

ความแตกต่างทางวัฒนธรรมจะอธิบายไว้ในเงื่อนไขของสังคมร่วมกันสมมุติฐานที่เห็นได้โดยง่ายหรือ
ทางวัฒนธรรมทฤษฎีในโดเมนชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งแนวทางจึง L ecocultural และ
มุมมองทางวัฒนธรรมในเชิงทฤษฎี(คูเปอร์& denner 1998 ) การนำทางด้านนิเวศวิทยาและทฤษฎี
วัฒนธรรมร่วมกันหมายถึงการกำหนดความสามารถแบบเฉพาะรายในบริบททางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ซึ่งจะช่วยได้การให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลง ภายใน ชุมชน
ซึ่งจะช่วยหรือไม่ไม่ว่าจะทางวัฒนธรรมจะทำให้ส่งผลกระทบต่อทราบในสถานการณ์ทางสังคมอย่างเป็นพิเศษขึ้นอยู่กับความสามารถใน
ไม่ว่าจะใช้ร่วมกันอย่างที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่สามารถเข้าถึงได้ที่โดดเด่นและมีผลบังคับใช้อยู่ในสถานการณ์
ซึ่งจะช่วยได้ ดังนั้นจึงมีอิทธิพลของวัฒนธรรมในการทำงาน,และเป็นแบบไดนามิกและ
ดีงามด้วยคุณค่าบรรทัดฐานและหลักการพื้นฐานของทราบทางสังคม. เทศบาลเมืองแอตแลนตาและกังฟู
( 2001 )ระบุว่าสาม Republican ของความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่เป็นตัวกำหนดว่าความรู้
จะสามารถเข้าถึงได้คือคุณสมบัติของบุคคลที่(เช่นความพร้อมใช้งานของ
ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระตุ้น)สถานการณ์ว่าบริบท(เช่นความดันในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้)และกระตุ้น
เหตุการณ์(เช่นการใช้บังคับsalience )ที่เป็นตัวกำหนดความถี่การใช้งาน( higgins 1996 ) inthe ไม่กี่ปีที่ผ่านมาสามพื้นที่เหล่านี้ได้รับการคุ้มครองโดยการวิจัยที่หลากหลายโดยเฉพาะในเขตพื้นที่
ซึ่งจะช่วยในการเจรจาต่อรองกันระหว่างวัฒนธรรม(ดูด้านล่าง)