How to solve social network addicti

How to solve social network addiction in students
Introduction
Social network addiction is characterized by the level of this use being so extreme that it negatively affects the responsibilities in student’s lives, relationships with other, and security in social lives. The first is effect of education which can decrease their school records if the students are not concentrating with lessons in class but technology items instead. It shows the irresponsibility of their roles. Next effect, the relationships with other has decreased because social network makes less communicate with people in reality. Mostly, they contact each other through social networks like Facebook, Twitter, and Whatsapp. Social network is too simple way to have relationships, but it causes people to avoid face-to-face conversation. Security in social lives is the last effect of social network addiction. We often have seen the news about seduction through social media, so It’s easy lure students into harmful real world.
Many studies shown by researchers have concluded that are the effects of so social network addiction. Tiffany (2012) indicated that social network decrease attention of the students and diverts them to avoid study. They don’t have discipline on their work by useless chatting, random searching chat, etc. They cannot succeed on their careers if they still chatting during work. Wilson (2013) explained that from everyone who using social network usually use for escape loneliness, but none of them were abusers or had any problem of phychosis or mental disorder. Booth (2013) said that communication has changed from meeting face-to-face as we used to. Social network can lead to have a weak relationship. It doesn’t make we feel close to each other. Kris (2014) also shows that negative relationships affect on social media 75%, positive 18%, and no effect 7%. Sharon (2012) reported that American student use internet for social network mostly. Online interactive are just for fun, also it has a danger for students. And Sharon (2012) found that sexually attracting is one of social network addiction problem. It’s dangerous thing to students and easy way to engage them in harmful conversation.
According to Umarani (2013), especially, students tended to didn’t aware of how much time they use on social network. It had an affected on real social community and education which implied social network addiction behavior among students. Although, the researchers have not find the solutions to solve this problems. So, these study’s purpose are to analyze cause of social network addiction and to study behavior of the students who addict social media in order to solve this problems appropriately.

Results (Thai) 1:

วิธีการแก้ปัญหาสังคมยาเสพติดในนักเรียนแนะนำ ยาเสพติดเครือข่ายสังคมเป็นลักษณะตามระดับการใช้กำลังมากดังนั้นว่า มันส่งผลเสียต่อความรับผิดชอบของชีวิต ความสัมพันธ์อื่น ๆ และความปลอดภัยในชีวิตทางสังคม ครั้งแรกเป็นผลการศึกษาที่สามารถลดบันทึกโรงเรียนถ้านักเรียนจะไม่ concentrating เรียนในคลาสแต่เทคโนโลยีสินค้าแทน แสดง irresponsibility บทบาทของพวกเขา ผลถัดไป ความสัมพันธ์กันได้ลดลงเนื่องจากสังคมทำให้น้อยสื่อสารกับคนในความเป็นจริง ส่วนใหญ่ พวกเขาติดต่อกันผ่านทางเครือข่ายสังคมเช่น Facebook, Twitter และวอทส์แอพพ์ เครือข่ายทางสังคมเป็นวิธีที่ง่ายเกินไปมีความสัมพันธ์ แต่จะทำให้ผู้คนหลีกเลี่ยงแบบพบปะสนทนา ความปลอดภัยในชีวิตสังคมเป็นผลสุดท้ายของการติดยาเสพติดเครือข่ายสังคม เรามักได้เห็นข่าวเกี่ยวกับ seduction ถูกสะกดจิตผ่านสื่อทางสังคม ดังนั้นจึงเรียน lure กลายเป็นอันตรายต่อโลก ศึกษาหลายที่แสดง โดยนักวิจัยได้สรุปที่มีผลกระทบของยาเสพติดเครือข่ายสังคมดังนั้น ทิฟฟานี่ (2012) ระบุความสนใจลดลงที่เครือข่ายทางสังคมของนักเรียน และ diverts ให้หลีกเลี่ยงการศึกษา พวกเขาไม่มีวินัยในการทำงานของพวกเขา โดยไร้ประโยชน์สนทนา พูดคุยค้นหาสุ่ม ฯลฯ พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพของพวกเขาหากพวกเขายังคง สนทนาระหว่างการทำงาน Wilson (2013) อธิบายว่า จากทุกคนที่ใช้สังคมเครือข่ายมักจะ ใช้สำหรับหลบหนีความเหงา แต่ไม่มีพวกเขามี abusers หรือมีปัญหา phychosis หรือโรคจิต บูธ (2013) กล่าวว่า การสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลงจากพบปะเราใช้ เครือข่ายสังคมสามารถนำไปสู่มีความสัมพันธ์ที่อ่อน มันไม่ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกัน คริส (2014) แสดงความสัมพันธ์เชิงลบมีผลกระทบต่อสังคม 75%, 18% บวก และไม่มีผล 7% ชารอน (2012) รายงานนักเรียนอเมริกันที่ใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับเครือข่ายสังคมส่วนใหญ่ มีการโต้ตอบออนไลน์เพื่อความสนุกสนาน ยังมีอันตรายสำหรับนักเรียน และชารอน (2012) พบว่า ดึงดูดทางเพศปัญหายาเสพติดเครือข่ายสังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งที่เป็นอันตรายกับนักเรียนและวิธีง่าย ๆ ในการมีส่วนร่วมในการสนทนาเป็นอันตรายได้ ตาม Umarani (2013), โดยเฉพาะ นักเรียนที่มีแนวโน้มที่จะไม่ทราบจำนวนเวลาที่ใช้ในเครือข่ายสังคม มันมีการได้รับผลกระทบทางสังคมของชุมชนและการศึกษาซึ่งโดยนัยสังคมติดยาเสพติดพฤติกรรมนักเรียน ถึงแม้ว่า นักวิจัยมีวิธีการแก้ปัญหานี้ไม่พบ ดังนั้น การศึกษาเหล่านี้ของมีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของการติดยาเสพติดเครือข่ายสังคม และ การศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนที่ addict สังคมเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างเหมาะสม

Results (Thai) 2:

วิธีการแก้ปัญหายาเสพติดเครือข่ายทางสังคมในนักเรียนบทนำติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคมที่โดดเด่นด้วยระดับของการใช้งานนี้เป็นมากเพื่อที่จะส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบในชีวิตของนักเรียน, ความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ และความปลอดภัยในชีวิตทางสังคม ที่แรกก็คือผลของการศึกษาซึ่งสามารถลดประวัติโรงเรียนของพวกเขาหากนักเรียนไม่จดจ่อกับบทเรียนในรายการระดับ แต่เทคโนโลยีแทน มันแสดงให้เห็นความไม่รับผิดชอบในบทบาทของพวกเขา ผลกระทบต่อไปความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ได้ลดลงเพราะเครือข่ายทางสังคมน้อยทำให้สื่อสารกับคนในความเป็นจริง ส่วนใหญ่พวกเขาติดต่อกันผ่านทางเครือข่ายสังคมเช่น Facebook, Twitter, Whatsapp และ เครือข่ายสังคมเป็นวิธีที่ง่ายเกินไปที่จะมีความสัมพันธ์ แต่มันทำให้คนที่จะหลีกเลี่ยงใบหน้าเพื่อใบหน้าสนทนา การรักษาความปลอดภัยในชีวิตทางสังคมเป็นผลสุดท้ายของการติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคม เรามักจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับการล่อลวงผ่านสื่อสังคมเพื่อให้มันเป็นเรื่องง่ายที่นักเรียนล่อเข้าไปในโลกแห่งความจริงที่เป็นอันตราย. การศึกษาจำนวนมากที่แสดงโดยนักวิจัยได้ข้อสรุปว่าจะมีผลกระทบจากการติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคมดังนั้น ทิฟฟานี่ (2012) ชี้ให้เห็นว่าการลดลงของความสนใจของเครือข่ายทางสังคมของนักเรียนและธารพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการศึกษา พวกเขาไม่ได้มีระเบียบวินัยในการทำงานของพวกเขาโดยการพูดคุยไม่ได้ผลการค้นหาการแชทแบบสุ่ม ฯลฯ พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพของพวกเขาหากพวกเขายังคงพูดคุยในระหว่างการทำงาน วิลสัน (2013) อธิบายว่าทุกคนที่มาจากการใช้เครือข่ายทางสังคมที่มักจะใช้สำหรับการหลบหนีความเหงา แต่ไม่มีผู้ใดของพวกเขาเป็นผู้ที่ทำร้ายหรือมีปัญหาของ phychosis หรือความผิดปกติทางจิตใด ๆ บูธ (2013) กล่าวว่าการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลงจากการประชุมใบหน้าเพื่อใบหน้าที่เราใช้ในการ เครือข่ายทางสังคมสามารถนำไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่อ่อนแอ มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกใกล้กัน คริส (2014) นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์เชิงลบส่งผลกระทบต่อในสื่อสังคม 75% บวก 18% และไม่มีผลกระทบ 7% ชารอน (2012) รายงานว่าการใช้อินเทอร์เน็ตของนักเรียนชาวอเมริกันส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายทางสังคม โต้ตอบออนไลน์เป็นเพียงเพื่อความสนุกสนานยังมีอันตรายสำหรับนักเรียน และชารอน (2012) พบว่าเพศสัมพันธ์เป็นหนึ่งในการดึงดูดของปัญหายาเสพติดเครือข่ายทางสังคม มันเป็นสิ่งที่อันตรายให้กับนักเรียนและง่ายต่อการมีส่วนร่วมในการสนทนาที่เป็นอันตราย. ตาม Umarani (2013) โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนนักศึกษามีแนวโน้มที่จะไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการมากเวลาที่พวกเขาใช้ในเครือข่ายทางสังคม มันมีผลกระทบต่อชุมชนสังคมและการศึกษาที่แท้จริงซึ่งโดยนัยพฤติกรรมติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคมในหมู่นักเรียน ถึงแม้ว่านักวิจัยยังไม่ได้หาคำตอบในการแก้ปัญหานี้ ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการศึกษาเหล่านี้มีการวิเคราะห์สาเหตุของการติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคมและศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนที่ติดยาเสพติดสื่อสังคมเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้อย่างเหมาะสม

Results (Thai) 3:

วิธีการแก้ปัญหายาเสพติดเครือข่ายทางสังคมในนักเรียน

แนะนำเครือข่ายยาเสพติดมีลักษณะตามระดับการใช้นี้ถูกมากว่า มันส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบในชีวิตของนักเรียน ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และความมั่นคงในชีวิตทางสังคมอย่างแรกคือผลของการศึกษาซึ่งสามารถลดระเบียนของโรงเรียน ถ้านักเรียนไม่สนใจกับบทเรียนในรายการระดับ แต่เทคโนโลยีแทน มันแสดงถึงความไม่รับผิดชอบของบทบาทของพวกเขา ต่อไปผล ความสัมพันธ์กับอื่น ๆได้ลดลง เนื่องจากเครือข่ายทางสังคมให้น้อย สื่อสารกับผู้คนในความเป็นจริง ส่วนใหญ่พวกเขาติดต่อกับแต่ละอื่น ๆผ่านทางเครือข่ายทางสังคมเช่น Facebook , Twitter , และ WhatsApp เครือข่ายทางสังคมเป็นวิธีที่ง่ายเกินไปที่จะมีความสัมพันธ์ แต่มันทำให้คนหลีกเลี่ยงการสนทนาตัวต่อตัว ความมั่นคงในชีวิตทางสังคม คือ ผลสุดท้ายของการเสพติดสังคมเครือข่าย เรามักจะได้เห็นข่าวเรื่องการล่อลวงผ่านสื่อทางสังคม ดังนั้นนักเรียนล่อง่ายในอันตรายที่แท้จริงของโลก
หลายการศึกษาแสดง โดยนักวิจัยได้สรุปว่า คือ ผลของยาเสพติดเครือข่ายเพื่อให้สังคม ทิฟฟานี่ ( 2012 ) พบว่า การลดลงของเครือข่ายทางสังคมของนักเรียนและเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการศึกษา พวกเขาไม่มีวินัยในการทำงานของพวกเขาโดยการสุ่มค้นหาไร้ประโยชน์ , แชท , ฯลฯ พวกเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพของพวกเขา หากพวกเขายังคงสนทนาในการทำงานวิลสัน ( 2013 ) อธิบายว่า ทุกคนที่ใช้เครือข่ายทางสังคมมักจะใช้เพื่อหนีความเหงา แต่ไม่มีผู้ใดของพวกเขาเป็น abusers หรือมีปัญหาใด ๆของ phychosis หรือความผิดปกติทางจิต บูธ ( 2013 ) กล่าวว่า การสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลงจากการประชุมแบบตัวต่อตัวที่เราใช้ เครือข่ายทางสังคมสามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่อ่อนแอ มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับแต่ละอื่น ๆคริส ( 2014 ) ยังแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงลบที่ส่งผลกระทบต่อสังคมสื่อ 75% บวก 18 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีผลกระทบ 7 % ชารอน ( 2012 ) รายงานว่านักเรียนใช้อินเทอร์เน็ตเครือข่ายทางสังคมสำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ โต้ตอบออนไลน์เพียงเพื่อความสนุกสนานและเป็นอันตรายต่อนักเรียน และชารอน ( 2012 ) พบว่าดึงดูดทางเพศเป็นหนึ่งในปัญหายาเสพติด เครือข่ายทางสังคมมันเป็นสิ่งที่อันตรายต่อนักเรียนและวิธีง่ายๆในการดึงดูดพวกเขาในการสนทนาที่เป็นอันตราย .
ตาม umarani ( 2013 ) โดยเฉพาะ นักเรียนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการมากเวลาที่พวกเขาใช้ในเครือข่ายทางสังคม มันมีจริงและมีผลต่อสังคมชุมชน การศึกษาแสดงว่าพฤติกรรมการเสพติดสังคมเครือข่ายในหมู่นักเรียน แม้ว่านักวิจัยได้พบแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ ดังนั้น วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของการเสพติดสังคมเครือข่าย และเพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนที่ติดยาเสพติดสื่อทางสังคมเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเหมาะสม