The brahmacari-ashram, often away f

The brahmacari-ashram, often away from the home (somewhat like a boarding school), was primarily intended for fostering spiritual values. Memorisation and skill development were subsidiary to character formation and self-realisation. Even sons of the royal family were expected to undergo this austere and rigorous training.

To be celibate and live a simple life, free from sense pleasure and material allurement.
To serve the guru (spiritual teacher) and collect alms for him.
To hear, study and assimilate the Vedas.
To develop all the appropriate qualities: humility, discipline, simplicity, purity of thought, cleanliness, soft-heartedness, and so on.

Results (Thai) 1:

หลักตั้งใจ brahmacari-รัม มักจะออกจากบ้าน (ค่อนข้างเหมือนโรงเรียนประจำ), ค่ายพัฒนาคุณค่าทางจิตวิญญาณ หลัก ๆ และการพัฒนาทักษะถูกย่อยเพื่อสร้างอักขระและการรับรู้ตนเอง แม้บุตรของพระราชวงศ์ถูกคาดว่าจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวด และคะแนนการ celibate และมีชีวิตที่เรียบง่าย ปราศจากความรู้สึกสุขและวัสดุ allurementกูรู (ครูทางจิตวิญญาณ) และเก็บทานสำหรับเขาการฟัง ศึกษา และดูดซึมพระเวทการพัฒนาคุณภาพที่เหมาะสมทั้งหมด: เรียบง่าย ถ่อมตน วินัย ความบริสุทธิ์ของความคิด ความสะอาด soft heartedness และอื่น ๆ

Results (Thai) 3:

ที่อาศรมพรหมจารี มักจะ ห่างจากบ้าน ( ค่อนข้างเหมือนโรงเรียนประจำ ) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมคุณค่าทางจิตใจ memorisation และพัฒนาฝีมืออยู่ในเครือและตัวอักษรและการตระหนักรู้ในตนเอง . แม้แต่ลูกหลานของราชวงศ์ที่ถูกคาดว่าจะได้รับการฝึกฝนที่เคร่งครัดและเข้มงวดนี้อยู่เป็นโสด และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ฟรี จากความสุขความรู้สึกและเสน่ห์ของวัสดุเพื่อรับใช้คุรุ ( ครูมโนมัย ) และเก็บทำทานให้เขาฟัง ศึกษา และ assimilate ภควัทคีตา .เพื่อพัฒนาคุณภาพที่เหมาะสม : ความอ่อนน้อมถ่อมตน วินัย ความเรียบง่าย ความบริสุทธิ์ของความคิด , ความสะอาด , นุ่ม heartedness และอื่น ๆ