Hezbollah was largely formed with t

Hezbollah was largely formed with the aid of the Ayatollah Khomeini's followers in the early eighties in order to spread Islamic revolution[4] and follows a distinct version of Islamic Shi'a ideology ("Willayat Al-Faqih") developed by Ayatollah Ruhollah Khomeini, leader of the Islamic Revolution in Iran.[6] Although Hezbollah believes in one-person-one-vote system and disagree with the multi-confessional quotas under the Ta'if Accord, it does not intend to force a one-person-one-vote system onto the country's Christians.[14]

Hezbollah views its conflict with Israel and the Jewish people as religiously motivated. The history of the Arab-Israeli conflict to them is a repeat of the negative interactions between the Jews of medieval Arabia and Muhammad and the early umma described in the Koran and other classical Islamic texts. God, according Hezbollah theology, cursed all Jews as blasphemers damned for all time and throughout history.[15][16] Hezbollah (as well as the political/religious leaders of Iran) believe that the destruction of Israel will bring about the "reappearance of the Imam (the Shiite Islamic Messiah)".[17] These issues exist independently of Israeli treatment of Palestinians or even the existence of the State of Israel, although Hezbollah has strong objections to these more earthly matters as well. Hezbollah leader Hassan Nasrallah has said in an interview that “Israel is an illegitimate entity and it is a threat to the region. It is a constant threat to the whole region. We cannot coexist with this threat. That is why the ultimate goal of the [Arab and Islamic] nation is to end Israel’s existence irrespective of the problems, sensitivities and everything that has happened and could happen between Palestinians and non-Palestinians, Shia and Sunni, Muslims and Christians.”[18]

Results (Thai) 1:

Hezbollah ใหญ่ก่อตั้งขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของลูกศิษย์ของโคเมื่อในอันดับแรก ๆ เพื่อแพร่กระจายปฏิวัติอิสลาม [4] และตามรุ่นที่แตกต่างของอุดมการณ์อิสลาม Shi'a (" Willayat Al-Faqih ") โดยเมื่อลลอฮ์ ผู้นำการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน [6] แม้ Hezbollah เชื่อในระบบวัน-person-หนึ่งเสียง และไม่เห็นด้วยกับโควตาหลาย confessional ภายใต้แอคคอร์ด Ta'if มันไม่ต้องการบังคับระบบวัน-person-หนึ่งเสียงบนของคริสเตียน [14]Hezbollah มุมมองขัดแย้งกับอิสราเอลและชาวยิวเคร่งครัดเป็นแรงจูงใจ ประวัติความเป็นมาของความขัดแย้งอาหรับอิสราเอลไปเป็นซ้ำของการโต้ตอบลบระหว่างชาวยิวยุคกลางดีอาระเบีย และมุหัมมัดและ umma ต้นที่อธิบายใน Koran และข้อความอื่น ๆ อิสลามที่คลาสสิก พระเจ้า ตามหลักศาสน Hezbollah สาปชาวยิวทั้งหมดเป็น blasphemers damned ตลอดเวลา และ ตลอดประวัติศาสตร์ [15] [16] Hezbollah (เป็นผู้นำทางการเมือง/ศาสนาของอิหร่าน) เชื่อว่า การทำลายของอิสราเอลจะนำ "reappearance ของอิมาม (ชีอะห์พระเมสซิยาห์อิสลาม)" [17] ประเด็นมีอิสระการรักษาชาวปาเลสไตน์อิสราเอลหรือแม้แต่การดำรงอยู่ของรัฐอิสราเอล แม้ว่า Hezbollah มีอุปสรรคแรงกับเรื่องเหล่านี้เอิร์ทลี่เพิ่มเติมเช่น ผู้นำ Hezbollah Hassan Nasrallah กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า "อิสราเอลมีองค์กรนอกกฎหมาย และจะเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค ก็คงเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคทั้งหมด เราไม่สามารถอยู่ร่วมกับภัยคุกคามนี้ นั่นคือเหตุผลที่เป้าหมายสูงสุดของประเทศ [อาหรับ และอิสลาม] คือการ สิ้นสุดการดำรงอยู่ของอิสราเอลไม่ปัญหา รัฐ และทุกอย่างที่เกิดขึ้น และอาจเกิดขึ้นระหว่างชาวปาเลสไตน์และไม่ชาวปาเลสไตน์ ฮฺ และ Sunni มุสลิม และคริสเตียน " [18]

Results (Thai) 2:

บุปผชาติส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของสาวก Ayatollah Khomeini ในช่วงแปดเพื่อกระจายการปฏิวัติอิสลาม [4] และต่อไปนี้เป็นรุ่นที่แตกต่างของอุดมการณ์อิสลามชิ ("Willayat อัลฟากิฮ์") พัฒนาโดย Ayatollah Ruhollah Khomeini, ผู้นำของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน. [6] แม้ว่าบุปผชาติเชื่อมั่นในระบบหนึ่งคนหนึ่งเสียงและไม่เห็นด้วยกับโควต้าหลายสารภาพภายใต้ตาถ้า Accord ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะบังคับให้หนึ่งคนหนึ่ง ระบบ -vote บนของประเทศคริสเตียน. [14] บุปผชาติมุมมองความขัดแย้งกับอิสราเอลและชาวยิวเป็นแรงบันดาลใจอย่างเคร่งครัด ประวัติศาสตร์ของความขัดแย้งอาหรับกับอิสราเอลให้กับพวกเขาคือการทำซ้ำของปฏิสัมพันธ์เชิงลบระหว่างชาวยิวในอารเบียและมูฮัมหมัดในยุคกลางและอุมต้นที่อธิบายไว้ในอัลกุรอานและข้อความอื่น ๆ อิสลามคลาสสิก พระเจ้าตามธรรมล่าห์สาปแช่งชาวยิวทุกคนพูดหมิ่นประมาทสาปแช่งตลอดเวลาและตลอดประวัติศาสตร์. [15] [16] บุปผชาติ (เช่นเดียวกับการเมือง / ผู้นำทางศาสนาของอิหร่าน) เชื่อว่าการทำลายของอิสราเอลจะนำมาเกี่ยวกับ "เกิดขึ้นอีกครั้ง ของอิหม่าม (ไอท์อิสลามพระเจ้า) ". [17] ปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นอิสระจากการรักษาของอิสราเอลปาเลสไตน์หรือแม้กระทั่งการดำรงอยู่ของรัฐอิสราเอลแม้ว่าจะมีการคัดค้านล่าห์ที่แข็งแกร่งในเรื่องเหล่านี้ของโลกมากขึ้นเช่นกัน ผู้นำล่าห์ฮัสซัน Nasrallah ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า "อิสราเอลเป็นองค์กรที่ผิดกฎหมายและเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค มันเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องเพื่อทั้งภูมิภาค เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันกับภัยคุกคามนี้ นั่นคือเหตุผลที่เป้าหมายสูงสุดของ [อาหรับและอิสลาม] ประเทศคือการสิ้นสุดการดำรงอยู่ของอิสราเอลโดยไม่คำนึงถึงปัญหาความเปราะบางและทุกอย่างที่เกิดขึ้นและอาจเกิดขึ้นระหว่างชาวปาเลสไตน์และไม่ใช่ชาวปาเลสไตน์ชิและซุนชาวมุสลิมและชาวคริสต์. "[ 18]

Results (Thai) 3:

บุปผชาติส่วนใหญ่เกิดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของ Ayatollah Khomeini followers ใน eighties ต้นเพื่อที่จะแพร่กระจายการปฏิวัติอิสลาม [ 4 ] และต่อไปนี้เป็นรุ่นที่แตกต่างของอุดมการณ์ของชาวอิสลาม ( " willayat อัล faqih " ) ที่พัฒนาโดย Ayatollah อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน[ 6 ] แม้ว่าฮิซบุลลอฮ์ เชื่อมั่นในระบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง และไม่เห็นด้วยกับหลายเกี่ยวกับการสารภาพผิดโควต้าภายใต้ ta'if แอคคอร์ด มันไม่คิดจะบังคับหนึ่งคนหนึ่งเสียง ระบบบนคริสเตียนของประเทศ . [ 14 ]

บุปผชาติมุมมองของความขัดแย้งกับอิสราเอลและชาวยิวหรือเป็นแรงบันดาลใจประวัติความเป็นมาของความขัดแย้งอาหรับอิสราเอลให้พวกเขาเป็นซ้ำของปฏิสัมพันธ์เชิงลบระหว่างชาวยิวในยุคกลางของซาอุดิอาระเบีย และมุฮัมมัด และก่อนท่านอธิบายไว้ในอัลกุรอานและข้อความอิสลามอื่น ๆคลาสสิก พระเจ้า ตามบุปผชาติเทววิทยาสาปแช่งชาวยิวทั้งหมดเป็น blasphemers เคราะห์ร้ายตลอดเวลาและตลอดประวัติศาสตร์[ 15 ] [ 16 ] บุปผชาติ ( รวมทั้งศาสนาผู้นำการเมืองของอิหร่าน ) เชื่อว่า การทำลายของอิสราเอลจะนำเรื่อง " ปรากฏตัวของอิหม่าม ( อัลอิสลามชีอะ ) " [ 17 ] ปัญหาเหล่านี้มีอยู่เป็นอิสระของการรักษาอิสราเอลปาเลสไตน์หรือแม้กระทั่งการดำรงอยู่ของรัฐของอิสราเอล แม้ว่าฮิซบุลลอฮ์ได้คัดค้านเรื่องทางโลกมากขึ้นแข็งแกร่งเหล่านี้เช่นกันฮิซบุลลอหฺนัศรุลลอหฺเป็นผู้นำได้กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า " อิสราเอลเป็นองค์กรนอกกฎหมาย และเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค มันเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องไปทั่วทั้งภูมิภาค เราไม่สามารถอยู่ร่วมกับภัยคุกคามนี้ นั่นคือเหตุผลที่เป้าหมายสูงสุดของ [ อาหรับและอิสลาม ] ประเทศคือสิ้นสุดของอิสราเอลมีอยู่ไม่ปัญหาความไวและทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นระหว่างชาวปาเลสไตน์และนอกปาเลสไตน์ ชิ และ ซุน มุสลิมและคริสต์ . " [ 18 ]