She met with frustration only in th

She met with frustration only in the late 1960s, when she was told that, being a foreigner, she couldn't "reform oneself in the vast rural areas" by choosing to become a farmer in poverty-stricken areas, as many of her peers did passionately at the call of then Chairman Mao Zedong.

She was compensated in 1971 with a job at a local copper factory one that was envied by many at a time workers were the most respected members of society.

The picture became less rosy as the "cultural revolution" developed. In 1973 a group of teenage Red Guards drove Sara Imas and her family out of the villa.

Sara was wrongly accused of being an Israeli spy, and was put into prison for three years until the "cultural revolution" came to an end in 1976.

Upon release from prison, Sara Imas went back to her job at the factory and was married in 1974 to one of her colleagues. The couple had a son the following year and remained happily married until the 1980s.

Results (Thai) 1:

เธอได้พบกับเสียงเท่านั้นในปลายปี 1960 เมื่อเธอได้บอกว่า ถูกชาวต่างชาติ เธอไม่สามารถ "ปฏิรูปตัวเองในชนบทมากมาย" โดยการเลือกให้เป็น เกษตรกรในพื้นที่ยากจนข้นแค้น เป็นจำนวนมากของเพื่อนของเธอได้ด้วยความรักที่เรียกแล้วประธานเหมาเจ๋อตงได้เธอถูกชดเชยในปี 1971 ด้วยงานที่โรงงานทองแดงเฉพาะที่ถูกอิจฉาหลายคนเวลาที่มีสมาชิกมากที่สุดของสังคมรูปภาพกลายเป็นน้อยโรซี่ที่พัฒนา "ปฏิวัติวัฒนธรรม" 1973 ใน กลุ่มของวัยรุ่นแดงยามขับรถ Imas ซาร่าและครอบครัวของเธอจากวิลล่าซาร่าถูกผิดถูกกล่าวหาว่า เป็นสายลับอิสราเอล และใส่ในคุกสามปีจน "ปฏิวัติวัฒนธรรม" มาสิ้นสุดในปี 1976เมื่อออกจากคุก ซารา Imas กลับไปงานที่โรงงานของเธอ และแต่งงานแล้วใน 1974 วันของเพื่อนร่วมงานของเธอ คู่มีลูกชายปีต่อมา และยังคงแต่งงานอย่างมีความสุขจนถึงไฟต์

Results (Thai) 2:

เธอได้พบกับความยุ่งยากเพียง แต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 เมื่อเธอได้บอกว่าเป็นชาวต่างชาติที่เธอจะได้ไม่ "ปฏิรูปตัวเองในพื้นที่ชนบทที่กว้างใหญ่" โดยการเลือกที่จะเป็นเกษตรกรในพื้นที่ยากจนเป็นจำนวนมากของเพื่อนของเธอ ไม่หลงใหลในการเรียกร้องของจากนั้นประธานเหมาเจ๋อตง. เธอได้รับการชดเชยในปี 1971 กับงานที่โรงงานทองแดงท้องถิ่นที่อิจฉาโดยมากที่คนงานเวลามีสมาชิกยอมรับมากที่สุดของสังคม. ภาพกลายเป็นสีดอกกุหลาบน้อยลง " การปฏิวัติวัฒนธรรม "การพัฒนา ในปี 1973 กลุ่มของวัยรุ่นสีแดงยามขับรถซาร่า Imas และครอบครัวของเธอออกจากวิลล่า. ซาร่าถูกกล่าวหาว่าผิดพลาดของการเป็นสายลับอิสราเอลและถูกใส่ลงไปในคุกเป็นเวลาสามปีจนถึง "การปฏิวัติวัฒนธรรม" มาถึงจุดสิ้นสุดในปี 1976 ได้รับการปล่อยตัวจากคุกซาร่า Imas เดินกลับไปที่งานของเธอที่โรงงานและกำลังจะแต่งงานในปี 1974 ให้เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเธอ ทั้งคู่มีลูกชายคนหนึ่งในปีต่อไปและยังคงแต่งงานอย่างมีความสุขจนถึงปี 1980

Results (Thai) 3:

เธอเจอกับความยุ่งยากในปลายทศวรรษที่ 1960 เมื่อเธอได้บอกว่า เป็นชาวต่างชาติ เธอไม่สามารถจะ " ปฏิรูปตัวเองในเขตชนบทอันกว้างใหญ่ " โดยเลือกที่จะเป็นเกษตรกรในเขตชนบทยากจนเป็นจำนวนมากเพื่อนของเธออย่างดูดดื่มที่เรียกของประธานเหมาเจ๋อตง .

เธอถูกชดเชยในปี 1971 ด้วยงานที่โรงงานท้องถิ่นทองแดงคนที่ถูกอิจฉามากที่คนเวลามีการยอมรับมากที่สุดสมาชิกของสังคม

ภาพกลายเป็นสีดอกกุหลาบน้อยเป็นวัฒนธรรม " ปฏิวัติ " พัฒนา ในปี 1973 กลุ่มวัยรุ่นสีแดงยามขับรถ ซาร่า อิมมัส และครอบครัวของเธอออกจากวิลล่า

ซาร่าถูกกล่าวหาว่า เป็นชาวอิสราเอลสายลับและถูกใส่ลงในคุกเป็นเวลา 3 ปี จน " การปฏิวัติทางวัฒนธรรม " มาสิ้นสุดใน 1976 .

เมื่อปล่อยจากคุก ซาราสกลับไปทำงานที่โรงงาน และแต่งงานในปี 1974 กับเพื่อนร่วมงานของเธอ คู่มีบุตรในปีต่อไปและยังคงแต่งงานอย่างมีความสุข จนกระทั่งปี 1980