I would describe the distinction be

I would describe the distinction between city and landscape like this:
Cities tend to excite and agitate me; they make me feel big or small,
Self-confident, proud, curious, excited, tense, annoyed … or they intimidate me.

But the landscape, if l give it the chance, offers me freedom and serenity. Nature has a different sense of time.


Time is big in the landscape while in the city it is condensed, just like the city's space.




ln connection with landscape I think of the term beauty as well, because of my Romantic gaze. | have no agricultural access to the landscape; l do not see it as a means of production but experience
it above all in sensual and aesthetic terms. And my perception of it changes depending on whether it is a natural landscape or a cultural landscape. To me, a purely natural landscape high up in the mountains, for example, is basically always beautiful. Even when nature's landscapes are harsh, rugged, aloof or barren and even when they frighten me

Results (Thai) 1:

ผมจะอธิบายความแตกต่างระหว่างเมืองและภูมิทัศน์เช่นนี้:เมืองที่มีแนวโน้ม การกระตุ้นปลุกปั่นฉัน พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าใหญ่ หรือ เล็กตัวของตัวเอง ความภูมิใจ อยาก รู้ ตื่นเต้น ตึงเครียด รำคาญ...หรือพวกเขาข่มขู่ผมด้วย แต่ภูมิทัศน์ ถ้า l ให้โอกาส มีฉันเป็นอิสระและความสงบ ธรรมชาติมีความแตกต่างของเวลา เวลามีค่ามากในขณะที่ในเมืองมันจะบีบ เช่นเดียวกับพื้นที่ของเมืองเชื่อมต่อ ln กับแนวคิดคำงามดี เพราะฉันสายตาที่แสนโรแมนติก | มีไม่ถึงภูมิทัศน์ เกษตร l เห็นว่าผลิตได้ แต่ประสบการณ์ดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดในการกระตุ้นความรู้สึก และความงาม และฉันรับรู้มันเปลี่ยนตามไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติหรือภูมิทัศน์วัฒนธรรม ฉัน ธรรมชาติหมดจดแนวนอนสูงค่าในภูเขา เช่น เป็นพื้นเสมอสวยงาม แม้เมื่อภูมิทัศน์ของธรรมชาติจะรุนแรง ทน ทาน aloof หรือเป็นหมัน และแม้เมื่อพวกเขาขู่ฉัน

Results (Thai) 2:

ฉันจะอธิบายความแตกต่างระหว่างเมืองและภูมิทัศน์เช่นนี้เมืองมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นและรณรงค์ฉัน; พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกเล็กหรือใหญ่มั่นใจตัวเอง, ความภาคภูมิใจ, ขี้สงสัย, ตื่นเต้นเครียดรำคาญ ... หรือพวกเขาข่มขู่ฉัน. แต่ภูมิทัศน์ถ้าลิตรให้มันมีโอกาสที่มีให้ฉันเสรีภาพและความสงบสุข ธรรมชาติมีความรู้สึกที่แตกต่างกันของเวลา. เวลาที่มีขนาดใหญ่ในแนวนอนในขณะที่อยู่ในเมืองมันจะข้นเช่นเดียวกับพื้นที่ของเมือง. LN การเชื่อมต่อกับภูมิทัศน์ที่ผมคิดว่าระยะของความงามได้เป็นอย่างดีเพราะการจ้องมองโรแมนติกของฉัน | ไม่มีการเข้าถึงการเกษตรเพื่อภูมิทัศน์; ลิตรไม่เห็นมันเป็นวิธีการของการผลิต แต่สัมผัสมันเหนือสิ่งอื่นใดในแง่ศีลธรรมและความงาม และการรับรู้ของฉันมันเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติหรือภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม ให้ฉันภูมิทัศน์ธรรมชาติสูงขึ้นไปในภูเขาเช่นนั้นเป็นที่สวยงามเสมอ แม้ในขณะที่ภูมิทัศน์ธรรมชาติที่มีความรุนแรงขรุขระห่างหรือเป็นหมันและแม้กระทั่งเมื่อพวกเขาขู่ฉัน

Results (Thai) 3:

ผมจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างเมืองและภูมิทัศน์แบบนี้ :
เมืองมีแนวโน้มที่จะตื่นเต้นและก่อกวนฉัน พวกเขาทำให้ผมรู้สึกว่า ใหญ่หรือเล็ก
เองมั่นใจ ภูมิใจ สงสัย ตื่นเต้น เครียด รำคาญ . . . . . . . หรือเขาขู่ฉัน

แต่แนวนอน ถ้าผมให้มันมีโอกาสให้ฉันเสรีภาพและความสงบ ธรรมชาติได้มีความรู้สึกที่แตกต่างกันของเวลา


ครั้งใหญ่ในแนวนอนในขณะที่ในเมืองมันย่อเหมือนของเมือง พื้นที่




ในการเชื่อมต่อกับภูมิทัศน์ที่ฉันคิดว่าสวยดี เพราะสายตาโรแมนติกของฉัน | ไม่มีเกษตรเข้าถึงภูมิ ฉันไม่เห็นมันเป็นวิธีการผลิต แต่ประสบการณ์
ข้างบนทั้งหมดในราคะและความงามคำและการรับรู้ของฉันของการเปลี่ยนแปลงมันขึ้นอยู่กับว่าเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติหรือสภาพภูมิทัศน์วัฒนธรรม ฉัน , ภูมิทัศน์ธรรมชาติหมดจดขึ้นสูงในภูเขา , ตัวอย่างเช่นเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ แม้ว่าธรรมชาติของภูมิประเทศที่เป็นรุนแรง , ขรุขระ , ห่าง หรือเป็นหมัน และแม้ว่าพวกเขาขู่ฉัน