Figure 2 shows the results of Kapla

Figure 2 shows the results of Kaplan-Meier survival analysis for all respiratory cancer cases survival between high and low air pollutant exposure levels. It suggests that cancer cases exposure to high levels of air pollutants including PM10 and PM2.5 had significantly low survival rate than those exposure to low levels. In addition, cases exposure to high levels of O3 had significantly higher overall and cancer-specific mortality rate than those with low exposure levels (p < 0.0001).

Results (Thai) 1:

รูปที่ 2 แสดงผลวิเคราะห์มุนเช่น Kaplan อยู่รอดเพื่อความอยู่รอดกรณีโรคมะเร็งทางเดินหายใจทั้งหมดระหว่างสูงต่ำอากาศมลพิษระดับแสง แนะนำว่า มะเร็งกรณีสัมผัสกับระดับสูงของสารมลพิษอากาศรวม PM10 และ PM2.5 มีอัตราอยู่รอดอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่าแสงที่ระดับต่ำ นอกจากนี้ กรณีสัมผัสกับระดับสูงของ O3 มีอัตราตาย เฉพาะโรคมะเร็งทั้งหมด และอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าผู้ที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ (p < มาก 0.0001)

Results (Thai) 2:

รูปที่ 2 แสดงให้เห็นถึงผลของการ Kaplan-Meier วิเคราะห์การอยู่รอดสำหรับทุกผู้ป่วยโรคมะเร็งทางเดินหายใจอยู่รอดระหว่างสูงและระดับแสงของสารมลพิษอากาศต่ำ มันแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งสัมผัสกับระดับสูงของมลพิษทางอากาศรวมทั้ง PM10 และ PM2.5 มีอัตราการรอดตายต่ำกว่าการสัมผัสกับผู้ที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ในกรณีที่สัมผัสกับระดับสูงของ O3 มีโดยรวมที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและอัตราการตายของมะเร็งที่เฉพาะเจาะจงกว่าผู้ที่มีระดับแสงของภาพต่ำ (p <0.0001)

Results (Thai) 3:

รูปที่ 2 แสดงผลของ Kaplan Meier การวิเคราะห์การอยู่รอดสำหรับระบบทางเดินหายใจโรคมะเร็งการอยู่รอดระหว่างสูงและระดับการเปิดรับอากาศมลพิษต่ำ มันแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งการระดับสูงของมลพิษในอากาศ รวมทั้งพบว่ามีอัตราการรอดต่ำมาก และ pm2.5 สูงกว่าแสงระดับต่ำ นอกจากนี้กรณีสัมผัสกับระดับสูงของ O3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยรวมสูงกว่า และมะเร็งที่เฉพาะเจาะจงมีอัตราการตายมากกว่าผู้ที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ ( P < 0.0001 )