There are several concerns related

There are several concerns related to the increasing production of palm oil in Southeast Asia, including
pollution, greenhouse gas emissions and land conversion. The RSPO (Roundtable on Sustainable Palm
Oil) certification standard provides an incentive for reducing environmental impacts of palm oil production
but to date, only few producers have been certified and studies on environmental implications of
RSPO certification in Thailand are scarce. The objective of this study is to assess environmental impacts of
palm oil production in Thailand. A case study is conducted in the Tapi River basin, accounting for 60% of
palm oil production in Thailand. We developed a model to quantify effects of different management
practices in plantations and mills producing Crude-Palm-Oil (CPO) e including non-RSPO, potential
RSPO, and RSPO certified producers.
Our study shows that five activities contribute most to environmental impacts of CPO production; 1)
burning fibers in boilers,2) use of fertilizers, 3) wastewater treatment and empty-fruit-bunch disposal, 4)
gasoline use in weed cutters and 5) glyphosate use for weed control. Together these activities cause
environmental impacts associated with global warming, ozone formation, acidification, and human
toxicity problems. RSPO certified producers cause the lowest environmental impacts due to better waste
management such as biogas production from wastewater. We found that environmental performance of
the most environmental friendly mills considerably exceeds the RSPO standards, which may be related to
the interventions of an environmental project in the Tapi basin.
Currently, only 11% of CPO in the Tapi River basin is produced by RSPO certified mills, and non-CPO
certified mills produce around 60% of CPO. Most of environmental impacts of palm oil production in
the basin are therefore caused by non-RSPO certified palm oil mills. We explored two alternative scenarios
illustrating that if more mills in the basin would adopt best-practice CPO production processes in
line with those group named “RSPO certified”, environmental impacts generated in the basin will be
considerably lower

Results (Thai) 1:

มีหลายข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันปาล์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมมลพิษ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแปลงที่ดิน RSPO (ข้อมูลบนปาล์มอย่างยั่งยืนน้ำมัน) รับรองมาตรฐานให้สิ่งจูงใจเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์มแต่ถึงปัจจุบัน เฉพาะผู้ผลิตที่ไม่ได้รับการรับรอง และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของรับรอง RSPO ในประเทศไทยจะขาดแคลน วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศไทย กรณีศึกษาจะดำเนินการในลุ่มน้ำ Tapi บัญชี 60%ผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เราพัฒนาแบบวัดปริมาณผลกระทบของการจัดการที่แตกต่างกันปฏิบัติในสวนและโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อีรวมทั้งไม่ใช่-RSPO เป็นไปได้RSPO และ RSPO ได้รับการรับรองผู้ผลิตการศึกษาของเราแสดงว่า กิจกรรม 5 มีส่วนร่วมมากที่สุดจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผลิต CPO 1)เขียนเส้นใยในหม้อไอน้ำ 2) ใช้ปุ๋ย 3) บำบัดรักษาและว่างเปล่าผลไม้พวงทิ้ง 4)ใช้ไกลโฟเสตน้ำมันใช้ตัดวัชพืชและ 5) สำหรับการควบคุมวัชพืช ร่วมกันทำกิจกรรมเหล่านี้ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อน กำเนิดโอโซน ยู และมนุษย์ปัญหาความเป็นพิษ RSPO ได้รับการรับรองผู้ผลิตทำราคาต่ำสุดด้านสิ่งแวดล้อมผลกระทบต่อเนื่องจากเสียดีกว่าการจัดการเช่นการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย เราพบว่าประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานผลิตที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากที่สุดมากเกินกว่ามาตรฐาน RSPO ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของโครงการสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำ Tapiปัจจุบัน ผลิต CPO ในลุ่มแม่น้ำ Tapi เพียง 11% โดย RSPO ได้รับการรับรองโรงงานผลิต และไม่ใช่ CPOได้รับการรับรองโรงงานผลิต CPO ประมาณ 60% ส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตปาล์มน้ำมันในลุ่มน้ำจึงเกิดขึ้น โดยไม่-RSPO ได้รับการรับรองโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม เราสำรวจสถานการณ์ทางเลือกที่สองแสดงที่ถ้าโรงงานเพิ่มเติมในอ่างจะนำมาใช้ปฏิบัติกระบวนการผลิต CPO ในบรรทัดกลุ่มที่ชื่อ "RSPO ได้รับการรับรอง" ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่สร้างขึ้นในลุ่มจะมีต่ำกว่ามาก

Results (Thai) 2:

มีความกังวลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันปาล์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งมี
มลพิษปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการแปลงที่ดิน RSPO (Roundtable ปาล์มอย่างยั่งยืน
น้ำมัน) ได้รับการรับรองมาตรฐานให้แรงจูงใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์ม
แต่วันที่ผู้ผลิตเพียงไม่กี่ได้รับการรับรองและการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของ
การรับรองมาตรฐาน RSPO ในประเทศไทยจะหายาก วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของ
การผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศไทย กรณีศึกษาจะดำเนินการในลุ่มน้ำตาปีคิดเป็น 60% ของ
การผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศไทย เราได้พัฒนารูปแบบที่จะหาจำนวนผลกระทบของการจัดการที่แตกต่างกัน
วิธีปฏิบัติในการเพาะปลูกและโรงงานผลิตน้ำมันดิบน้ำมันปาล์ม (CPO) จรวมทั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน RSPO ที่มีศักยภาพ
RSPO และได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO ผลิต.
การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ห้ามากที่สุดที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ การผลิตน้ำมันปาล์มดิบ; 1)
เส้นใยเผาไหม้ในหม้อไอน้ำ, 2) การใช้ปุ๋ย 3) การบำบัดน้ำเสียและการกำจัดเปล่าผลไม้พวง 4)
การใช้น้ำมันในใบวัชพืชและ 5) การใช้ glyphosate ในการควบคุมวัชพืช ร่วมกิจกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนก่อตัวโอโซนกรดและมนุษย์
ปัญหาความเป็นพิษ ผู้ผลิตได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำสุดเนื่องจากของเสียที่ดีกว่า
การจัดการเช่นการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย เราพบว่าผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ
โรงงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดมากเกินกว่ามาตรฐาน RSPO ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ
การแทรกแซงของโครงการสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำตาปี.
ขณะนี้มีเพียง 11% ของน้ำมันปาล์มดิบในลุ่มแม่น้ำตาปีที่ผลิตโดยได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO โรงงานและน้ำมันปาล์มดิบที่ไม่
ได้รับการรับรองโรงงานผลิตประมาณ 60% ของน้ำมันปาล์มดิบ ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์มใน
ลุ่มน้ำที่เกิดดังนั้นโดยที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO โรงงานน้ำมันปาล์ม เราสำรวจทางเลือกที่สองสถานการณ์
ที่แสดงว่าถ้าโรงงานเพิ่มเติมในอ่างจะนำมาใช้ในการปฏิบัติที่ดีที่สุดในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบใน
แนวเดียวกันกับกลุ่มผู้ที่มีชื่อว่า "ได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO" ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำจะ
ต่ำ

Results (Thai) 3:

มีความกังวลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันปาล์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง
มลพิษจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแปลงที่ดิน The Empire ( on น้ำมันปาล์ม
ยั่งยืน ) มาตรฐานรับรอง มีแรงจูงใจเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์ม
แต่ไปเดทผู้ผลิตเพียงไม่กี่ที่ได้รับการรับรอง และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของ
รับรอง Empire ในไทยได้ยาก การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมของ
ปาล์มน้ำมันในประเทศไทย กรณีศึกษามีวัตถุประสงค์ในลุ่มน้ำตาปี บัญชีสำหรับ 60% ของ
ปาล์มน้ำมันในประเทศไทย เราได้พัฒนาแบบจำลองเพื่อหาผลของการจัดการที่แตกต่างกันการปฏิบัติในสวนยาง และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ ( CPO ) E รวมทั้งไม่ปรึกษา ศักยภาพ
Empire และ Empire ได้รับการรับรองผู้ผลิต การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่า
ห้ากิจกรรมมีส่วนร่วมมากที่สุดกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ 1 )
เผาเส้นใยในหม้อน้ำ , 2 ) ใช้ปุ๋ย 3 ) การบำบัดน้ำเสียและการกำจัดพวกผลไม้ 4 )
ว่างเปล่าน้ำมันใช้ตัดวัชพืช และ 5 ) การใช้สารควบคุมวัชพืช ด้วยกันกิจกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิด
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน การสร้างโอโซนและปัญหาความเป็นพิษของมนุษย์

Empire ได้รับการรับรองผู้ผลิตให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เนื่องจากการจัดการขยะที่ดี เช่น การผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย เราพบว่า การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ
โรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเกิน Empire มาตรฐาน ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ
การแทรกแซงของโครงการสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำตาปี .
ในปัจจุบัน เพียง 11 % ของน้ำมันปาล์มดิบในลุ่มน้ำตาปีผลิตโดย Empire ได้รับการรับรองโรงงานและไม่ได้รับการรับรองโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ
ประมาณ 60 % ของน้ำมันปาล์มดิบ . ส่วนใหญ่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตน้ำมันปาล์มใน