Organizational ResistanceOrganizati

Organizational Resistance
Organizational resistance means that the change is resisted at the level of the organization itself.
Managing Planned Change
A planned change is a change planned by the organization, it does not happen by itself. It is affected by the organization with the purpose of achieving something that might otherwise by unattainable or attainable with great difficulty. Through planned change, an organization can achieve its goals rapidly. The basic reasons for planned change are:
–To improve the means for satisfying economic needs of members.
–To increase profitability.
–To promote human work for human beings.
–To contribute to individual satisfaction and social well being.
In introducing planned change, the basic problem before management is to handle it in such a way that there would be necessary adjustment in various forces. For this purpose, the manager who has to act as the change agent, has to go through a particular process. The planned change process may comprise, basically the following three steps :
1.Planning for change
2.Assessing change forces
3.Implementing change.
1. Planning for Change
The first step in the process of change is to identify the need for change and the area of change as to whether it is a strategic change, process oriented change or employee oriented change. This need for change can be identified either through internal factors or through external factors. Once this needs is identified, the following general steps can be taken :
(i) Develop New Goals and Objectives : The manager must identify as to what new outcomes they wish to achieve. This may be a modification of previous goals due to changed internal and external environment or it may be a new set of goals and objectives.
(ii) Select an Agent of Change : The next step is that the management must decide as to who will initiate and oversee this change. One of the existing managers may be assigned this duty or even sometimes specialists and consultants can be brought in from outside to suggest the various methods to bring in the change and monitor the change process.
(iii) Diagnose the Problem : The person who is appointed as the agent of change will then gather all relevant data regarding the area or the problem where the change is needed. This data should be critically analysed to pinpoint the key issues. Then the solutions can be focussed on those key issues.
(iv) Select Methodology : The next important step is select a methodology for change which would be commonly acceptable and correct. As the human tendency is to resist the change, employees’ emotions must be taken into consideration when devising such methodology.
(v) Develop a Plan : After devising the methodology, the next step will be to put together a plans as to what is to be done. For example, if the management wants to change the promotion policy, it must decide as to what type of employees will be affected by it, whether to change the policy for all the departments at once or to try on a few selected departments first.
(vi) Strategy for Implementation of the Plan : In this stage, the management must decide on the ‘when’, ‘where’ and ‘how’ of the plan. This includes the right time of putting the plan to work, how the plan. This includes the right time of putting the plan to work, how the plan will be communicated to the employees’ in order to have the least resistance and how the implementation will be monitored.

Results (Thai) 1:

องค์กรต่อต้านองค์กรต้านทานหมายความ ว่า การเปลี่ยนแปลงคือ resisted ระดับองค์กรตัวเองการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้การเปลี่ยนแปลงแผนการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้ โดยองค์กร ที่เกิดขึ้น ด้วยตัวเองได้ มันเป็นผลจากองค์กรโดยมีวัตถุประสงค์ให้บรรลุบางสิ่งบางอย่างที่อาจเป็นอย่างอื่นนั้น หรือตาม ด้วยความยากลำบากมาก โดยเปลี่ยนแปลงตามแผน องค์กรสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เหตุผลพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้คือ:-เพื่อปรับปรุงวิธีการในการตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจของสมาชิก-เพื่อเพิ่มผลกำไร-เพื่อส่งเสริมงานมนุษย์มนุษย์-การมีส่วนร่วมกับความพึงพอใจที่แต่ละสังคมความเป็นอยู่ในการแนะนำแผนการเปลี่ยนแปลง ปัญหาพื้นฐานก่อนที่จะจัดการจะจัดการในลักษณะที่จะมีการปรับปรุงที่จำเป็นในกองทัพต่าง ๆ สำหรับวัตถุประสงค์นี้ ผู้จัดการที่ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลง ได้ไปผ่านกระบวนการ การเปลี่ยนแปลงแผนอาจประกอบด้วย โดยทั่วไปต่อไปนี้สามขั้นตอน:1.วางแผนการเปลี่ยนแปลง2.ประเมินเปลี่ยนแปลงบังคับ3.ดำเนินการเปลี่ยนแปลง1. การวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนแรกในกระบวนการเปลี่ยนแปลงคือการ ระบุต้องการเปลี่ยนแปลงและพื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ กระบวนการที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนพนักงานที่มุ่งเน้น ต้องการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถระบุได้ทั้งปัจจัยภายใน หรือปัจจัยภายนอก เมื่อมีระบุความต้องการนี้ สามารถนำขั้นตอนทั่วไปต่อไปนี้:(i) พัฒนาใหม่เป้าหมายและวัตถุประสงค์: ผู้จัดการจะต้องระบุเป็นผลสิ่งใหม่ที่ต้องการบรรลุ นี้อาจมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายก่อนหน้านี้เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายใน และภายนอกที่เปลี่ยนแปลง หรืออาจจะเป็นชุดใหม่ของเป้าหมายและวัตถุประสงค์(ii) เลือกเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง: ขั้นตอนต่อไปคือการ ที่ผู้บริหารต้องตัดสินใจว่า เป็นการที่จะเริ่มต้น และดูแลการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้จัดการที่มีอยู่อย่างใดอย่างหนึ่งอาจกำหนดหน้าที่หรือนี้แม้บางครั้งผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาสามารถถูกนำเข้าจากภายนอกเพื่อแนะนำวิธีการต่าง ๆ ที่จะนำในการเปลี่ยนแปลง และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง(iii) วิเคราะห์ปัญหา: ผู้แต่งตั้งเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงจะแล้วรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับพื้นที่หรือปัญหาที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลนี้ควรถูก analysed เพื่อระบุประเด็นสำคัญเหลือ แล้ว โซลูชั่นสามารถ focussed ในประเด็นที่สำคัญ(iv) เลือกวิธีการ: เป็นขั้นตอนสำคัญต่อไปคือเลือกวิธีการสำหรับการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะโดยทั่วไปยอมรับ และถูกต้อง เป็นแนวโน้มมนุษย์เพื่อ ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง อารมณ์ของพนักงานต้องนำมาพิจารณาเมื่อทบทวนวิธีการดังกล่าว(v) แผนพัฒนา: ทบทวนวิธีการ ขั้นตอนถัดไปจะได้ร่วมกันวางแผนเป็นสิ่งจะทำ ตัวอย่าง ถ้าต้องการบริหารการเปลี่ยนแปลงนโยบายส่งเสริม มันกันเป็นชนิดของพนักงานจะได้รับผลกระทบจากมัน ไม่ว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายสำหรับแผนกทั้งหมดในครั้งเดียว หรือกี่ลองเลือกแผนกก่อน(vi) กลยุทธ์การดำเนินงานของแผน: ในระยะนี้ ผู้บริหารต้องตัดสินใจในการ 'เมื่อ' 'ที่' และ 'วิธี' ของแผน รวมถึงเวลาเหมาะสมของการวางแผนการทำงาน วิธีแผนการ ซึ่งรวมถึงเวลาเหมาะสมของการวางแผนการทำงาน วิธีแผนจะสามารถสื่อสารกับพนักงานเพื่อให้มีความต้านทานน้อยที่สุดและวิธีตรวจสอบการดำเนินงาน

Results (Thai) 2:

ความต้านทานองค์กรต้านทานองค์กรหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงจะต่อต้านในระดับขององค์กรตัวเอง. ผู้จัดการวางแผนเปลี่ยนวางแผนการเปลี่ยนแปลงคือการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้โดยองค์กรจะไม่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง มันเป็นผลมาจากองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ในการบรรลุสิ่งที่อาจจะเป็นอย่างอื่นโดยไม่สามารถบรรลุได้หรือบรรลุได้ด้วยความยากลำบากที่ดี ผ่านการเปลี่ยนแปลงการวางแผนองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เหตุผลพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้คือหากต้องการปรับปรุงวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจของสมาชิก. หากต้องการเพิ่มผลกำไร. หากต้องการส่งเสริมการทำงานของมนุษย์สำหรับมนุษย์. หากต้องการนำไปสู่ความพึงพอใจของแต่ละบุคคลและสังคมเป็นอย่างดี. ในการแนะนำการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้ ปัญหาพื้นฐานก่อนที่จะบริหารจัดการกับมันในลักษณะที่ว่าจะมีการปรับตัวที่จำเป็นในกองกำลังต่างๆ เพื่อจุดประสงค์นี้ผู้จัดการที่มีการทำหน้าที่เป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงที่ได้ไปผ่านกระบวนการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้อาจประกอบด้วยโดยทั่วไปดังต่อไปนี้ขั้นตอนที่สาม: 1.Planning สำหรับการเปลี่ยนแปลงกองกำลังเปลี่ยนแปลง 2.Assessing 3.Implementing เปลี่ยนแปลง. 1 การวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนแรกในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงคือการระบุความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและพื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ว่ามันคือการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นกระบวนการการเปลี่ยนแปลงหรือการเปลี่ยนแปลงการทำงานของพนักงานที่มุ่งเน้น ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถระบุได้ทั้งผ่านปัจจัยภายในหรือผ่านปัจจัยภายนอก เมื่อความต้องการนี้จะถูกระบุขั้นตอนทั่วไปต่อไปนี้สามารถนำมา: (i) การพัฒนาเป้าหมายและวัตถุประสงค์: ผู้จัดการจะต้องระบุเป็นสิ่งที่ผลลัพธ์ใหม่ที่พวกเขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จ นี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายก่อนหน้านี้เนื่องจากสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมันอาจจะเป็นชุดใหม่ของเป้าหมายและวัตถุประสงค์. (ii) เลือกเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง: ขั้นตอนต่อไปคือการที่ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจว่าใครจะเริ่มต้น และกำกับดูแลการเปลี่ยนแปลงนี้ หนึ่งในผู้บริหารที่มีอยู่อาจจะได้รับมอบหมายหน้าที่นี้หรือแม้กระทั่งบางครั้งผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาที่สามารถนำเข้ามาจากภายนอกที่จะแนะนำวิธีการต่าง ๆ เพื่อนำมาในการเปลี่ยนแปลงและตรวจสอบกระบวนการการเปลี่ยนแปลง. (iii) วินิจฉัยปัญหา: บุคคลที่มีการแต่งตั้ง เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับพื้นที่หรือปัญหาที่การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็น ข้อมูลนี้ควรจะวิเคราะห์อย่างยิ่งที่จะระบุประเด็นสำคัญ แล้วแก้ปัญหาที่สามารถเพ่งความสนใจไปในประเด็นที่สำคัญเหล่านั้น. (iv) เลือกวิธีการ: ขั้นตอนที่สำคัญต่อไปคือการเลือกวิธีการสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปและถูกต้อง ในฐานะที่เป็นแนวโน้มของมนุษย์คือการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของพนักงานจะต้องนำมาพิจารณาเมื่อการณ์วิธีการดังกล่าว. (V) พัฒนาแผน: หลังจากการณ์วิธีการขั้นตอนต่อไปจะเป็นที่จะใส่กันแผนเป็นสิ่งที่เป็นไป ทำได้ ตัวอย่างเช่นถ้าผู้บริหารต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการส่งเสริมการขายนั้นจะต้องตัดสินใจว่าจะเป็นสิ่งที่ประเภทของพนักงานจะได้รับผลกระทบจากมันไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายสำหรับหน่วยงานทั้งหมดในครั้งเดียวหรือจะลองไม่กี่หน่วยงานที่เลือกครั้งแรก. ( vi) กลยุทธ์สำหรับการดำเนินการตามแผนในขั้นตอนนี้ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับ 'เมื่อ' 'ที่' และ 'วิธีการ' ของแผน ซึ่งรวมถึงเวลาที่เหมาะสมของการวางแผนในการทำงานวิธีการแผน ซึ่งรวมถึงเวลาที่เหมาะสมของการวางแผนในการทำงานวิธีการที่จะได้รับการวางแผนการสื่อสารกับพนักงานเพื่อให้มีความต้านทานน้อยและวิธีการดำเนินการจะถูกตรวจสอบ

Results (Thai) 3:

องค์การต่อต้าน
องค์การต้านทานหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงมี resisted ระดับองค์กร การจัดการวางแผนเปลี่ยน

วางแผนเปลี่ยนคือ เปลี่ยนแผนโดยองค์กร มันไม่ได้เกิดขึ้นเอง มันเป็นผลกระทบจากองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ในการบรรลุบางสิ่งบางอย่างที่อาจเป็นอย่างอื่น หรือโดยไม่สามารถบรรลุได้ด้วยความยากลำบากผ่านแผนการเปลี่ยนแปลงองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เหตุผลพื้นฐานสำหรับการวางแผนการเปลี่ยนแปลง :
) เพื่อปรับปรุงวิธีการให้ความพึงพอใจของความต้องการทางเศรษฐกิจของสมาชิก และเพิ่มอัตรา
.
) เพื่อส่งเสริมการทำงานของมนุษย์เพื่อมนุษย์ .
- สนับสนุนความพึงพอใจส่วนบุคคลและสังคมเป็นอย่างดี
ในการวางแผนเปลี่ยนพื้นฐานการจัดการปัญหาก่อนที่จะจัดการกับมันในทางที่มันจะต้องปรับทัพต่างๆ สำหรับวัตถุประสงค์นี้ ผู้จัดการที่ต้องทำในฐานะตัวแทนการเปลี่ยนแปลง ต้องไปผ่านกระบวนการที่เฉพาะเจาะจง แผนเปลี่ยนกระบวนการอาจจะประกอบด้วยโดยทั่วไปสามขั้นตอนต่อไปนี้ :

2.assessing 1.planning เปลี่ยนเปลี่ยนเปลี่ยน 3.implementing กองกำลัง
.
1การวางแผนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนแรกในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง เพื่อระบุความต้องการสำหรับการเปลี่ยนแปลงและพื้นที่ของการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ , การเปลี่ยนแปลงหรือการเปลี่ยนแปลงเชิงพนักงานเชิงกระบวนการ นี้ต้องการเปลี่ยนสามารถระบุได้ทั้งปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอก เมื่อต้องการระบุต่อไปนี้ได้ :
ขั้นตอนทั่วไป( 1 ) พัฒนาเป้าหมายใหม่และวัตถุประสงค์ : ผู้จัดการต้องระบุเป็นสิ่งที่ใหม่ผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการเพื่อให้บรรลุ นี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายเดิม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก หรืออาจเป็นชุดใหม่ของเป้าหมายและวัตถุประสงค์ .
( 2 ) เลือกตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง : ขั้นตอนต่อไปคือการบริหารที่ต้องตัดสินใจว่า จะเริ่มต้นและดำเนินการเปลี่ยนแปลงหนึ่งในผู้จัดการที่มีอยู่อาจจะได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ หรือแม้แต่บางครั้งผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาสามารถนำมาจากนอก เพื่อแนะนำวิธีการต่าง ๆเพื่อนำมาในการเปลี่ยนแปลงและตรวจสอบกระบวนการเปลี่ยนแปลง .
( 3 ) วินิจฉัยปัญหา : คนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับ พื้นที่ หรือปัญหาที่การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นข้อมูลนี้จะถูกประมวล วิเคราะห์ ระบุ ปัญหาที่สำคัญ แล้วโซลูชั่นที่สามารถเน้นไปที่ประเด็นสําคัญ .
( IV ) เลือกวิธีการ : ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญคือการเลือกวิธีการเปลี่ยนซึ่งจะเป็นโดยทั่วไปยอมรับได้ และถูกต้อง เป็นแนวโน้มของมนุษย์คือการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของพนักงาน อารมณ์ที่ควรพิจารณาเมื่อการวิธีการเช่น .
( 5 ) พัฒนาแผน : หลังจากการใช้วิธีการ ขั้นตอนต่อไปจะต้องใส่กันแผนเป็นสิ่งที่ต้องทำ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้บริหารต้องการเปลี่ยนนโยบายส่งเสริม จึงต้องตัดสินใจว่าสิ่งที่ประเภทของพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากมัน ไม่ว่าจะเปลี่ยนนโยบายสำหรับหน่วยงานทั้งหมดในครั้งเดียวหรือจะลองไม่เลือกฝ่ายก่อน
.