Thailand achieved steady growth due

Thailand achieved steady growth due largely to industrial and agriculture.

Unemployment, at less than 1% of the labor force.

The Thai government is implementing a nation-wide 300 baht ($10) per day minimum wage policy and deploying new tax reforms designed to lower rates on middle-income earners. The Thai economy has weathered internal and external economic shocks in recent years. The global economic crisis severely cut Thailand's exports, with most sectors experiencing double-digit drops. In 2009, the economy contracted 2.3%. However, in 2010, Thailand's economy expanded 7.8%, its fastest pace since 1995, as exports rebounded. In late 2011 growth was interrupted by historic flooding in the industrial areas in Bangkok and its five surrounding provinces, crippling the manufacturing sector. Industry recovered from the second quarter of 2012 onward with GDP growth at 5.5% in 2012. The government has approved flood mitigation projects worth $11.7 billion, which were started in 2012, to prevent similar economic damage, and an additional $75 billion for infrastructure over the next seven years with a plan to start in 2013.

Results (Thai) 1:

ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเจริญเติบโตอย่างมหาศาลเพราะอุตสาหกรรมและการเกษตร.
ว่างงาน
ที่น้อยกว่า 1% ของแรงงาน.

รัฐบาลไทยจะดำเนินการทั่วประเทศ 300 บาท (10 $) ต่อนโยบายค่าจ้างวันขั้นต่ำและการปรับภาษีใหม่ ออกแบบมาเพื่อการปฏิรูปอัตราที่ลดลงเมื่อรายได้จุนเจือครอบครัวมีรายได้ปานกลาง เศรษฐกิจไทยมีการตากแดดตากฝนกระแทกทางเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศในปีที่ผ่านมาวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรงตัดการส่งออกของไทยกับภาคส่วนใหญ่ประสบหยดสองหลัก ในปี 2009 เศรษฐกิจหดตัว 2.3% แต่ในปี 2010 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 7.8%, ก้าวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 ในขณะที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้น ในช่วงปลายปี 2011 การเจริญเติบโตถูกขัดจังหวะจากน้ำท่วมประวัติศาสตร์ในพื้นที่อุตสาหกรรมในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดห้ารอบทำให้หมดอำนาจภาคการผลิต อุตสาหกรรมฟื้นตัวจากไตรมาสที่สองของปี 2012 เป็นต้นไปกับการเติบโตของ GDP ที่ 5.5% ในปี 2012 รัฐบาลได้อนุมัติโครงการบรรเทาอุทกภัยมูลค่า $ 11700000000 ซึ่งได้เริ่มต้นในปี 2012 เพื่อป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจที่คล้ายกันและอีก $ 75000000000 สำหรับโครงสร้างพื้นฐานในช่วงต่อไปอีกเจ็ดปีกับแผนการที่จะเริ่มต้นในปี 2013

Results (Thai) 2:

ไทยสำเร็จ steady เติบโตเอมกับอุตสาหกรรมและเกษตร

ว่างงาน น้อยกว่า 1% ของแรงงานบังคับ

รัฐบาลไทยจะดำเนินการทั่วประเทศ 300 บาท ($10) นโยบายค่าจ้างขั้นต่ำวัน และปรับปฏิรูปภาษีใหม่ออกแบบเพื่อลดอัตรา earners คอร์รัปชั่น เศรษฐกิจไทยมี weathered แรงกระแทกเศรษฐกิจภายนอก และภายในปีที่ผ่านมา วิกฤตเศรษฐกิจโลกรุนแรงตัดส่งออกของไทย กับภาคส่วนใหญ่ประสบหยอดตัวเลขสองหลัก ในปี 2552 เศรษฐกิจสัญญา 2.3% อย่างไรก็ตาม ใน 2010 เศรษฐกิจไทยขยาย 7.8% การก้าวที่เร็วที่สุดตั้งแต่ 1995 ส่งออกฟื้นตัว ในปลายปี 2554 เติบโตถูกขัดจังหวะ โดยน้ำท่วมในพื้นที่อุตสาหกรรมในกรุงเทพฯ และจังหวัดโดยรอบ 5 ประวัติศาสตร์ ชื่อภาคการผลิต อุตสาหกรรมกู้จากไตรมาสสองของปี 2012 เป็นต้นไปมี GDP เติบโต 5.5% ในปี 2012 รัฐบาลได้อนุมัติโครงการลดปัญหาน้ำท่วมมูลค่า 11.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเริ่มใน 2012 การป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจที่คล้ายกัน การเพิ่ม $75 ล้านสำหรับโครงสร้างพื้นฐานกว่าเจ็ดปีถัดไปมีแผนที่จะเริ่มในปี 2013

Results (Thai) 3:

ประเทศไทยได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากใน ภาค เกษตรและอุตสาหกรรม.

การว่างงานน้อยกว่า 1% ของกำลังแรงงาน.

รัฐบาลไทยที่มีการนำนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท( 10 )ต่อวันชาติ - กว้างและการปรับใช้การปฏิรูประบบ ภาษี ใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง - รายได้ เศรษฐกิจไทยที่มี สภาพ อากาศไม่เหมาะสมช็อคทางเศรษฐกิจ ภายใน และ ภายนอก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาวิกฤติเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรงที่ตัดการส่งออกของประเทศไทยกับ ภาค รัฐมากที่สุดพบลดลงต่ำกว่าแบบ Double - หลัก ในปี 2009 เศรษฐกิจหดตัว 2.3% อย่างไรก็ตามในปี 2010 เศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัว 7.8% การวิ่งที่เร็วที่สุดตั้งแต่ปี 1995 เป็นการส่งออกเงินเยน ในช่วงปลาย 2011 การขยายตัวจะถูกขัดขวางโดยน้ำท่วมขังทางประวัติศาสตร์ในบริเวณพื้นที่อุตสาหกรรมที่อยู่ในกรุงเทพฯและ 5 จังหวัดโดยรอบพื้นที่ความพิกลพิการ ภาค การผลิต อุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาสที่สองของปี 2012 เป็นต้นไปโดยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ 5.5% ในปี 2012 รัฐบาลได้มีโครงการได้รับความเห็นชอบจากการลดระดับความรุนแรงน้ำท่วมมีมูลค่าถึง 11.7 ล้านบาทซึ่งได้เริ่มขึ้นในปี 2012 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจความเหมือนและเพิ่มเติม$ 75 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าเจ็ดปีถัดไปมีแผนที่จะเริ่มในปี 2013