Particle leachingHighly porous scaf

Particle leaching

Highly porous scaffolds can be fabricated by particle leaching using sodium chloride (NaCl) particles as a porogen (51). Sun et al.

(51) demonstrated that the porosity of scaffolds is almost independent of the porogen size, but instead is dependent on the amount of porogen.


The maximum porosity of scaffolds can reach about 85%, when the weight ratio of porogen to polymers is 9:1.

The fabrication process began with dissolving 2 g PHBHHx powder in 20 mL chloroform in a 50-mL conical flask and then 0.04 g NaCl crystals was suspended in the PHBHHxchloroform solution and mixed by shaking.

Tube construction was carried out using a 2.5-mm diameter stainless steel mandrill, which was dipped into the homogenized PHBHHx/NaCl solution for 1 s, followed by solvent evaporation in a flow hood for 2 min.

This process was repeated five times, after which the mandrill was fixed vertically for 60 min to allow the solvent to fully evaporate and the polymer to become rigid.

The polymer tube was carefully removed by hand and immersed in deionized H2O overnight to introduce porosity through NaCl crystal dissolution.

Results (Thai) 1:

ละลายอนุภาคScaffolds porous สูงสามารถหลังสร้าง โดยละลายโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) อนุภาคโดยใช้ porogen (51) ของอนุภาค ซัน et al (51) แสดงว่า porosity ของ scaffolds เกือบอิสระขนาด porogen แต่แทน ขึ้นอยู่กับจำนวน porogenPorosity สูงสุดของ scaffolds สามารถถึงประมาณ 85% เมื่ออัตราส่วนน้ำหนักของ porogen กับโพลิเมอร์คือ 9:1 กระบวนการผลิตเริ่มต้น ด้วยการยุบ 2 g PHBHHx ผงในคลอโรฟอร์ม 20 mL ใน 50 mL ทรงกรวยหนาว แล้วผลึก NaCl 0.04 g ถูกหยุดชั่วคราวในการแก้ปัญหา PHBHHxchloroform และผสม โดยการสั่น ก่อสร้างท่อทำออกใช้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 มม.สแตนเลส mandrill ซึ่งถูกจุ่มลงในโซลูชัน PHBHHx/NaCl homogenized เป็นกลุ่ม 1 s ตาม ด้วยการระเหยตัวทำละลายในควันไหลใน 2 นาที กระบวนการนี้ถูกซ้ำห้าครั้ง หลังจาก mandrill ที่กำหนดแนวตั้ง 60 นาทีเพื่อให้ตัวทำละลายจะระเหยทั้งหมดและพอลิเมอร์จะกลายเป็นแข็ง ท่อพอลิเมอร์ถูกเอาออกด้วยมืออย่างระมัดระวัง และสัมผัส H2O ที่ deionized ค้างคืนแนะนำ porosity ผ่านยุบผลึก NaCl

Results (Thai) 2:

ชะล้างอนุภาคโครงที่มีรูพรุนสูงสามารถประดิษฐ์โดยการชะล้างอนุภาคโดยใช้โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) อนุภาคเป็น porogen (51) อาทิตย์ et al. (51) แสดงให้เห็นว่าพรุนของโครงที่เกือบจะเป็นอิสระจากขนาด porogen แต่แทนที่จะขึ้นอยู่กับปริมาณของ porogen ได้. พรุนสูงสุดของโครงสามารถเข้าถึงประมาณ 85% เมื่ออัตราส่วนน้ำหนักของ porogen เพื่อโพลิเมอร์ 9: 1. ขั้นตอนการผลิตเริ่มต้นด้วยการละลาย 2 กรัมผง PHBHHx ในคลอโรฟอร์มมิลลิลิตรที่ 20 ในขวดรูปกรวย 50 มิลลิลิตรแล้ว 0.04 กรัมผลึกโซเดียมคลอไรด์ถูกระงับในการแก้ปัญหา PHBHHxchloroform และผสมด้วยการเขย่า. ก่อสร้างท่อได้ดำเนินการโดยใช้ 2.5 มมลิงแมนดริสแตนเลสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางซึ่งถูกจุ่มลงไปปั่น PHBHHx / แก้ปัญหาโซเดียมคลอไรด์ 1 s ตามด้วยการระเหยตัวทำละลายในเครื่องดูดควันไหลเป็นเวลา 2 นาที. กระบวนการนี้ซ้ำห้าครั้งหลังจากที่ mandrill ถูกคงที่ในแนวตั้ง 60 นาทีที่จะอนุญาตให้ตัวทำละลายจะระเหยได้อย่างเต็มที่และพอลิเมอที่จะกลายเป็นแข็ง. หลอดลิเมอร์ที่ถูกลบออกอย่างระมัดระวังด้วยมือและแช่อยู่ในปราศจากไอออน H2O ค้างคืนที่จะแนะนำพรุนผ่านการสลายตัวของผลึกโซเดียมคลอไรด์

Results (Thai) 3:

อนุภาคละลาย

ขอ porous นั่งร้านสามารถประดิษฐ์โดยอนุภาคแร่โดยใช้โซเดียมคลอไรด์ ( NaCl ) อนุภาคเป็น porogen ( 51 ) ซัน et al .

( 51 ) พบว่า มีความพรุนของนั่งร้านเกือบจะเป็นอิสระของ porogen ขนาด แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณของ porogen


สูงสุดความพรุนของนั่งร้านสามารถเข้าถึงประมาณ 85 %เมื่ออัตราส่วนโดยน้ำหนักของ porogen กับพอลิเมอร์คือ 09 : 01

กระบวนการผลิตเริ่มด้วยการละลายผง 2 กรัม phbhhx 20 ml คลอโรฟอร์มใน 50 มล. ขวดรูปกรวยและ 0.04 กรัมเกลือผลึกแขวนลอยในสารละลายผสม phbhhxchloroform เขย่า

ท่อก่อสร้างมีการใช้ 2.5-mm ลิงแมนดริลเส้นผ่านศูนย์กลางสแตนเลส ,ที่ถูกจุ่มลงในสารละลายโซเดียมคลอไรด์บด phbhhx / 1 ตามด้วยตัวทำละลายระเหยในกระแสเครื่องดูดควัน 2 นาที

กระบวนการนี้ซ้ำห้าครั้ง หลังจากที่ลิงแมนดริลคงที่ในแนวตั้งสำหรับ 60 นาทีเพื่อให้ตัวทำละลายจะระเหยและพอลิเมอร์เต็มที่

กลายเป็นแข็งชนิดหลอดถูกลบออกอย่างระมัดระวังด้วยมือและแช่ในรูพรุนคล้ายเนื้อเยื่อประสาน H2O ค้างคืนแนะนำเกลือคริสตัลจากการสลายตัว