A temple for St. George was announc

A temple for St. George was announced on 9 November 1871 by Brigham Young and was dedicated on 6 April 1877. Even though the Salt Lake Temple had been announced and commenced years earlier (1847 and 1853), construction on that temple was not completed until 1893. The St. George Temple was built to satisfy the church's immediate need for an appropriate place for temple ceremonies and ordinances. Because of the pressing need, the building's groundbreaking ceremony was held on the day the temple was announced. It was the third to be completed by the church and the first one in Utah.[1]

Brigham Young chose a 6-acre (24,000 m2) plot as the temple site. Builders soon discovered that the chosen site was swampy with numerous underground streams. Young was consulted on moving the site, but he remained firm in the idea that this was the site for the temple. To deal with the swampy site, workers created drains to eliminate as much water as possible. Then they brought lava rock to the site and crushed it into a gravel to create a dry foundation for the temple. This led to a new problem: how to crush the rock. Someone suggested using an old cannon that the city had acquired. After creating a pulley system, the cannon was used as a pile driver to compact the lava rock and earth and create a firm foundation.

The old cannon has an interesting history. It was made in France and used by Napoleon during his siege on Moscow. During Napoleon’s hasty retreat, however, the cannon was left behind. It was later dragged to Siberia, then Alaska, and finally ended up at a fort in California. Members of the Mormon Battalion acquired the cannon, had it mounted on wheels, and brought it to Utah. Today, the old cannon is displayed on the St. George temple grounds.

After stabilizing the foundation, work began on the structure. The walls of the temple were built of the red sandstone common to the area and then plastered for a white finish. Local church members worked for over five and a half years to complete the temple. Historians James Allen and Glen Leonard made note of the dedication shown by the pioneers in Southern Utah. The workers opened new rock quarries, cut, hauled and planed timber, and donated one day in ten as tithing labor. Some members donated half their wages to the temple, while others gave food, clothing and other goods to aid those who were working full-time on the building. Women decorated the hallways with handmade rag carpets and produced fringe for the altars and pulpits from Utah-produced silk. At its completion, it contained 1,000,000 board feet (2,000 m3) of lumber, which had been hand-chopped and hauled between 40 and 80 miles (60 and 100 km). They also used 17,000 tons of volcanic rock and sandstone, hand-cut and hauled by mule teams.

In honor of the temple, the church's April 1877 General Conference was held there. The temple dedication ceremony took place on 6 April 1877. Young presided and Daniel H. Wells, his second counselor, gave the dedicatory prayer. The St. George Temple was the only temple completed while Brigham Young was president. Shortly after the dedication and the conference, Young returned to Salt Lake and died on 29 August 1877, at age 76.

After remodeling of the interior, the temple was rededicated on 11 November 1975.[2]

Results (Thai) 1:

วัดสำหรับเซนต์จอร์จถูกประกาศณวันที่ 9 1871 พฤศจิกายน โดย Brigham Young และมีเฉพาะใน 6 1877 เมษายน แม้มีการประกาศ และเริ่มดำเนินการปีก่อนหน้า (1847 1853) วัดทะเลสาบเกลือ งานก่อสร้างในวัดที่ไม่เสร็จสมบูรณ์จน 1893 วัดเซนต์จอร์จถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องของคริสตจักรทันทีเหมาะสำหรับพิธีวัดและกฤษฎีกา เพราะต้องกด ตึกใหม่เอี่ยมพิธีถูกจัดขึ้นในวันที่มีประกาศวัด ก็ที่สามให้แล้วเสร็จ โดยคริสตจักรและหนึ่งในยูทาห์[1]Brigham Young เลือกแผน 6 เอเคอร์ (24000 m2) เป็นเว็บไซต์วัด สร้างเร็ว ๆ นี้พบว่า เว็บไซต์ท่านได้เป็นหนอง มีลำธารใต้ดินมากมาย ยังได้รับคำแนะนำในการย้ายไซต์ แต่เขายังคงยืนยันในความคิดที่ว่า นี้เป็นไซต์สำหรับวัด การจัดการกับไซต์เป็นหนอง แรงงานสร้างท่อระบายน้ำการกำจัดน้ำที่มากที่สุด จาก นั้นจะนำหินลาวาไปยังไซต์ และบดเป็นกรวดเพื่อสร้างรากฐานแห้งวัด นี้นำไปสู่ปัญหาใหม่: วิธีการบดร็อค มีคนแนะนำใช้เป็นปืนใหญ่เก่าที่ได้มาเมือง หลังจากสร้างระบบรอก ปืนใหญ่ที่ใช้เป็นโปรแกรมควบคุมกองกระชับหินลาวาและดิน และสร้างพื้นฐานของบริษัทปืนใหญ่เก่ามีประวัติน่าสนใจ มันถูกทำในฝรั่งเศส และนโปเลียนใช้ระหว่างเขาล้อมในมอสโก ในระหว่างการพักผ่อนนำของนโปเลียน ไร ปืนใหญ่ถูกทิ้ง มันถูกลากไปไซบีเรีย แล้วอลาสก้าในภายหลัง และสุดท้าย สิ้นสุดที่ป้อมในแคลิฟอร์เนีย สมาชิกของกลุ่มมอรมอนมาปืนใหญ่ จะติดตั้งบนล้อ และมาจากยูทาห์ วันนี้ ปืนใหญ่เดิมอยู่ในบริเวณวัดเซนต์จอร์จหลัง stabilizing มูลนิธิ เริ่มทำงานบนโครงสร้าง ผนังของวัดถูกสร้างด้วยหินทรายสีแดงทั่วไปในพื้นที่ และปูนแล้ว สำหรับชัยขาว สมาชิกในคริสตจักรท้องถิ่นทำงานห้าครึ่งปีการวัด นักประวัติศาสตร์ James อัลเลนและ Leonard เกล็นทำหมายเหตุของแสดง โดยผู้บุกเบิกในยูทาห์ใต้สะพาน ผู้ปฏิบัติงานที่เปิดใหม่ร็อค quarries ตัด ลาก planed ไม้ และบริจาควันหนึ่งในสิบเป็น tithing แรงงาน สมาชิกบางคนบริจาคค่าจ้างครึ่งหนึ่งของวัด ในขณะที่คนอื่นให้อาหาร เสื้อผ้า และสินค้าอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังทำงานแบบเต็มเวลาในอาคาร ผู้หญิงตกแต่ง hallways กับพรมผ้าขี้ริ้วทำด้วยมือ และผลิตเพิ่มเติมสำหรับแท่นบูชาและ pulpits จากยูทาห์ผลิตไหม ที่เสร็จ มันประกอบด้วยเท้าคณะ 1000000 (2000 m3) ของไม้ ซึ่งได้ สับมือ และลากระหว่าง 40 และ 80 ไมล์ (60 และ 100 km) พวกเขายังใช้หินภูเขาไฟและหินทราย ตัดมือ และลาก โดยทีมล่อ 17,000 ตันในเกียรติของวัด คริสตจักรของ 1877 เมษายนการประชุมจัดขึ้นมีการ พิธีอุทิศวัดเอาสถานที่ใน 6 1877 เมษายน หนุ่ม presided และ Daniel H. บ่อ ของเขาสองที่ปรึกษา ให้คำอธิษฐาน dedicatory เซนต์จอร์จวัดเป็นวัดเดียวที่เสร็จสมบูรณ์ในขณะ Brigham Young ประธาน หลังจากการทุ่มเทและการประชุม หนุ่มกลับไปทะเลสาบเกลือ และตายบน 29 1877 สิงหาคม ที่อายุ 76หลังจากการเปลี่ยนแปลงของภายใน วัดถูก rededicated ใน 11 1975 พฤศจิกายน[2]

Results (Thai) 2:

สำหรับวัดเซนต์จอร์จได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 1871 โดยบริกแฮมและได้รับการทุ่มเทที่ 6 เมษายน 1877 แม้ว่าทะเลสาบวิหารซอลท์ได้รับการประกาศและเริ่มปีก่อน (1847 และ 1853), การก่อสร้างในวัดที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่า 1893 เซนต์จอร์จวัดถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคริสตจักรได้ทันทีสำหรับสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพิธีวัดและศาสนพิธี เพราะความจำเป็นเร่งด่วน, พิธีของอาคารถูกจัดขึ้นในวันที่วัดได้มีการประกาศ มันเป็นครั้งที่สามจะแล้วเสร็จในคริสตจักรและคนแรกในยูทาห์. [1] บริกแฮมยังเลือก 6 เอเคอร์ (24,000 m2) พล็อตเป็นที่ตั้งวัด ผู้สร้างเร็ว ๆ นี้พบว่าเว็บไซต์ได้รับการแต่งตั้งเป็นแอ่งน้ำที่มีลำธารใต้ดินจำนวนมาก หนุ่มกำลังปรึกษาเกี่ยวกับการย้ายเว็บไซต์ แต่เขาก็ยังคงมั่นคงในความคิดที่ว่านี้เป็นที่ตั้งวัด เพื่อจัดการกับเว็บไซต์แอ่งน้ำคนงานสร้างท่อระบายน้ำเพื่อกำจัดน้ำมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จากนั้นพวกเขานำหินลาวาที่เว็บไซต์และบดมันกลายเป็นกรวดเพื่อสร้างรากฐานที่แห้งพระวิหาร นี้นำไปสู่ปัญหาใหม่: วิธีการบดหิน มีคนแนะนำให้ใช้ปืนเก่าที่เมืองได้กลายเป็น หลังจากที่สร้างระบบลูกรอก, ปืนใหญ่ถูกนำมาใช้เป็นคนขับรถกองกระชับหินลาวาและแผ่นดินและสร้างรากฐานที่มั่นคง. ปืนใหญ่เก่ามีประวัติที่น่าสนใจ มันถูกสร้างขึ้นในประเทศฝรั่งเศสและนำมาใช้โดยนโปเลียนในระหว่างการล้อมของเขาในกรุงมอสโก ในระหว่างการถอยของนโปเลียน แต่ปืนใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง มันถูกลากต่อมาไปยังไซบีเรียแล้วอลาสก้าและในที่สุดก็จบลงด้วยการที่ฟอร์ตในรัฐแคลิฟอร์เนีย สมาชิกของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ได้มามอร์มอนที่มีมันติดตั้งอยู่บนล้อและนำมันไปยูทาห์ วันนี้ปืนใหญ่เก่าจะปรากฏในเซนต์จอร์จบริเวณวัด. หลังจากเสถียรภาพรากฐานเริ่มทำงานเกี่ยวกับโครงสร้าง ผนังของวัดถูกสร้างขึ้นจากหินทรายสีแดงที่พบในพื้นที่และฉาบแล้วสำหรับสีขาว สมาชิกคริสตจักรท้องถิ่นทำงานมานานกว่าห้าปีครึ่งที่จะเสร็จสมบูรณ์วัด ประวัติศาสตร์เจมส์อัลเลนและเกลนลีโอนาร์ทำบันทึกความทุ่มเทที่แสดงโดยผู้บุกเบิกในภาคใต้ของยูทาห์ คนงานเหมืองหินเปิดใหม่, ตัด, ลากและวางแผนไม้และบริจาควันหนึ่งในสิบแรงงานอากร สมาชิกบางคนบริจาคค่าจ้างครึ่งหนึ่งของพวกเขาไปที่วัดขณะที่คนอื่นให้อาหารเสื้อผ้าและสินค้าอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ที่ได้ทำงานเต็มเวลาในการสร้าง ผู้หญิงตกแต่งทางเดินพรมด้วยเศษผ้าที่ทำด้วยมือและผลิตขอบสำหรับแท่นบูชาและแท่นพูดจากผ้าไหมยูทาห์ผลิต ที่เสร็จสิ้นของมันก็มีอยู่ 1,000,000 บอร์ดฟุต (2,000 m3) ไม้ซึ่งเป็นมือสับและลากระหว่าง 40 และ 80 ไมล์ (60 และ 100 กิโลเมตร) พวกเขายังใช้ 17,000 ตันของหินภูเขาไฟและหินทรายมือตัดและลากทีมล่อ. ในเกียรติของพระวิหารคริสตจักรเมษายน 1877 การประชุมสมัชชาครั้งนี้จัดขึ้นที่นั่น พิธีอุทิศพระวิหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน 1877 หนุ่มเป็นประธานและแดเนียลเอชเวลส์ผู้ให้คำปรึกษาที่สองของเขาให้สวดมนต์อุทิศ เซนต์จอร์จวัดเป็นวัดเดียวที่เสร็จสมบูรณ์ในขณะที่บริกแฮมยังเป็นประธาน ไม่นานหลังจากที่การอุทิศตนและการประชุมหนุ่มกลับไปที่ซอลท์เลคและเสียชีวิตในวันที่ 29 สิงหาคม 1877 ที่อายุ 76. หลังจากที่การเปลี่ยนแปลงของการตกแต่งภายในวัดถูก rededicated วันที่ 11 พฤศจิกายน 1975 [2]

Results (Thai) 3:

วัดสำหรับนักบุญจอร์จถูกประกาศเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 1871 โดย Bringham Young และทุ่มเทในวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1877 . แม้ว่าทะเลสาบเกลือวัดได้รับการประกาศและเริ่มปีก่อนหน้านี้ ( 1847 ) และ 1850 ) , การก่อสร้างในวัดนั้นไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่า 1893 . เซนต์ จอร์จ เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการได้ทันทีสำหรับคริสตจักรเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพิธีวัดและกฎหมาย .เพราะต้องกด , สร้าง groundbreaking พิธีจัดขึ้นในวันวัดได้ประกาศ มันเป็นครั้งที่สามจะแล้วเสร็จโดยคริสตจักรและคนแรกในยูทาห์ [ 1 ]

Bringham Young เลือก 6 เอเคอร์ ( 24 , 000 m2 ) แปลงเป็นวัดที่เว็บไซต์ สร้างเร็ว ๆนี้พบว่าไซต์ที่เลือกคือ เฉอะแฉะ ด้วยกระแสใต้ดินมากมาย ยังเคยปรึกษาในการย้ายเว็บไซต์แต่เขาก็ยังคงมั่นคงในความคิดที่ว่านี้เป็นเว็บไซต์สำหรับวัด จัดการกับเว็บไซต์ที่เป็นแรงงานสร้างท่อระบายน้ำ กำจัดน้ำมากที่สุด แล้วเขาก็นำหินลาวาไปยังเว็บไซต์และบดมันเป็นกรวดเพื่อสร้างรากฐานแห้งสำหรับวัด นี้นำไปสู่ปัญหาใหม่ : วิธีการทำลายหิน บางคนแนะนำให้ใช้ปืนใหญ่โบราณที่เมืองได้รับ .หลังจากการสร้างระบบรอก ปืนใหญ่ ถูกใช้เป็นเครื่องตอกเสาเข็มขนาดเล็กลาวาหินและดิน และสร้างรากฐาน

ปืนเก่า มีประวัติที่น่าสนใจ มันถูกสร้างในฝรั่งเศสและใช้โดยนโปเลียนในระหว่างการล้อมของเขาในมอสโก ในระหว่างนโปเลียนล่าถอยอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ต่อมาลากไปไซบีเรีย , อลาสก้าและสุดท้ายก็จบลงที่ป้อมในแคลิฟอร์เนีย สมาชิกของมอร์มอนกองพันปืนใหญ่ที่ได้มา มันติดตั้งบนล้อ และนำมันในยูทาห์ วันนี้แคนนอนเก่าที่แสดงใน เซนต์ จอร์จ บริเวณวัด

หลังจากการรักษาเสถียรภาพรากฐาน งานเริ่มขึ้นในโครงสร้าง ผนังของวิหารถูกสร้างขึ้นจากหินทรายสีแดงที่พบในพื้นที่ และฉาบเพื่อผิวขาวสมาชิกคริสตจักรท้องถิ่นที่ทำงานมานานกว่าห้าปีครึ่งเพื่อให้วัด นักประวัติศาสตร์เจมส์อัลเลนกับเกล็นลีโอนาร์ด ทำหมายเหตุของการอุทิศตนที่แสดงโดยผู้บุกเบิกในยูทาห์ใต้ แรงงานเปิด quarries หินใหม่และตัดขนทั้งยางพารา และบริจาคหนึ่งในสิบวันสิบเป็นแรงงาน สมาชิกบางคนบริจาคเงินครึ่งหนึ่งของค่าจ้าง เพื่อวัด ในขณะที่คนอื่นๆ ให้อาหารเสื้อผ้าและสินค้าอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ปฏิบัติงานเต็มเวลาในอาคาร ผู้หญิงตกแต่งทางเดินด้วยพรมผ้าแฮนด์เมดและผลิตพิเศษสำหรับแท่นบูชาและธรรมาสน์จากยูทาห์ที่ผลิตผ้าไหม ที่สำเร็จ มันมี 1000000 คณะกรรมการฟุต ( 2000 m3 ) ของไม้ ซึ่งถูกมือสับและลากระหว่าง 40 และ 80 ไมล์ ( 60 และ 100 กม. ) พวกเขายังใช้ 17000 ตันของหินภูเขาไฟและหินทรายตัดมือและถูกลากโดยทีมล่อ

ในเกียรติของวิหาร , โบสถ์ของเมษายน 1877 ทั่วไปการประชุมถูกจัดขึ้นที่นี่ วัดพิธีอุทิศเอาสถานที่ในวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1877 . และยังเป็นประธานแดเนียลเอชเวลส์ , ที่ปรึกษาที่สองของเขา ให้อธิษฐานเกี่ยวกับการอุทิศ . เซนต์ จอร์จ เป็นวัดเพียงวัดแล้วเสร็จในขณะที่ Bringham Young เป็นประธานาธิบดีหลังจากทุ่มเทและการประชุม , หนุ่มกลับไป Salt Lake และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมค.ศ. 1877 เมื่ออายุ 76 .

หลังจาก remodeling ของกระทรวงมหาดไทย เป็นวัด rededicated วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. [ 2 ]