fter Patterson's and Torres's careers had ended, D'Amato worked in relative obscurity. He eventually moved to Catskill, New York, where he opened a gym.
It was there that he met and began to work with the future heavyweight champion, Mike Tyson, who was in a nearby reform school.[2] He took Tyson under his wing and adopted him after Tyson's mother died. D'Amato trained him over the next few years, encouraging Tyson to use the peek-a-boo approach style of boxing, where the hands are placed in front of the boxers face for more protection. D'Amato was assisted by Teddy Atlas, who later became a respected trainer himself, and later Kevin Rooney, a protégé of D'Amato, who emphasized elusiveness of movement and would guide Tyson to the heavyweight championship sixteen months after D'Amato's death. It is unclear at exactly what age (11 or 12) Tyson first became seriously interested in becoming a professional boxer. Bobby Stewart, a former Golden Gloves Champion, was approached by Tyson while working as a counselor at the Tryon School For Boys. Tyson knew of Stewart's former boxing glory and specifically asked to speak with Stewart who immediately took on a gruff attitude of the subject after witnessing Tyson's terrible behavior in his first days at the school. Again, the timeline is unclear, but Bobby Stewart took Mike Tyson to meet D'Amato some time between Tyson's 12-13th year of age. Stewart was clear on the fact that he had taught Mike all he could about boxing technique & skill at that point.[7][8] D'Amato died shortly before Tyson became the youngest world heavyweight titleholder in history at the age of 20 years 4 months, thus supplanting Patterson's record.[4]
Footage of D'Amato can be seen in Tyson, a documentary film released in 2008. Tyson credits D'Amato with building his confidence, turning his life around, and being the only father figure in his life.
Results (
Thai) 3:
[Copy]Copied!
fter แพตเตอร์สัน และ ตอร์เรส เป็นอาชีพได้จบลง ดามาโตทำงานในความสับสนญาติ ในที่สุดเขาก็ย้ายไปยัง Catskill นิวยอร์ก ที่ซึ่งเขาได้เปิดค่ายมวย
มันมีว่า เขาได้พบและเริ่มทำงานกับ แชมป์ ในรุ่นอนาคต ไมค์ ไทสัน ที่ในโรงเรียนปฏิรูปใกล้เคียง . [ 2 ] เขาไทสัน ภายใต้ปีกของเขาและรับเขามาเลี้ยง หลังจากที่ ไทสัน แม่เสียชีวิตD ' Amato ฝึกมันกว่าไม่กี่ปีถัดไป , นิมิต ไทสัน เพื่อใช้กักวิธีการรูปแบบของมวยที่มือจะอยู่ในด้านหน้าของนักมวยหน้าสำหรับการป้องกันเพิ่มเติม D ' Amato ได้รับการช่วยเหลือโดยเท็ดดี้ แอตลาส ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่เคารพครูฝึกเองและต่อมาเควิน รูนีย์ , เมซุท เอิทซิลของ D ' Amato ,ที่เน้น elusiveness ของการเคลื่อนไหวและจะแนะนำไทสันกับแชมป์รุ่น D ' Amato สิบหกเดือนหลังจากการตายของ มันไม่ชัดเจนว่าอะไร ( ที่อายุ 11 หรือ 12 ) ไทสัน เริ่มสนใจอย่างจริงจังในการเป็นนักมวยมืออาชีพ บ๊อบบี้ สจ๊วต , แชมป์นวมทอง อดีตที่ถูกทาบทามโดย ไทสัน และทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาในไทรอันโรงเรียนสำหรับเด็กชายไทสัน รู้จัก สจ๊วร์ต อดีตมวยสง่าราศีและขอพูดกับสจ๊วตที่ทันทีเอาทัศนคติหยาบคายของเรื่อง หลังจากเห็น ไทสันก็แย่พฤติกรรมในวันแรกของเขาที่โรงเรียน อีกครั้ง , ระยะเวลาที่ไม่ชัดเจน แต่บ๊อบบี้สจ๊วตเอา ไมค์ ไทสัน พบกับ ดามาโตเวลาระหว่าง Tyson ของ 12-13th ปีของอายุสจ๊วตก็ชัดเจนในความจริงที่ว่าเขาได้สอนไมค์ทุกอย่างที่เขาสามารถเกี่ยวกับมวยเทคนิค&ทักษะที่จุดที่ . [ 7 ] [ 8 ] D ' Amato ตายไม่นาน ไทสัน กลายเป็นคนสุดท้อง เวิลด์ เฮฟวี่เวท ผู้มีตำแหน่งในประวัติศาสตร์ที่อายุ 20 ปี 4 เดือน ดังนั้น ภารต แพตใหม่ [ 4 ]
ภาพ D ' Amato ที่สามารถเห็นได้ในไทสัน , ภาพยนตร์สารคดีที่ออกในปี 2008ไทสันเครดิต ดามาโต กับสร้างความมั่นใจ ที่เปลี่ยนชีวิตของเขารอบ ๆ เป็นรูป พ่อ คนเดียวในชีวิตของเขา
Being translated, please wait..