Fibre-reinforced concrete (FRC) is

Fibre-reinforced concrete (FRC) is a cement-based

composite material reinforced with discrete, usually randomly distributed, fibres. Fibres of various shapes and sizes produced from steel, synthetics, glass, and natural materials can be used. However, for most structural purposes, steel fibres are the most used of all fibre materials, whereas synthetic fibres (e.g. polypropylene and nylon) are mainly used to control the early cracking (plastic-shrinkage cracks) in slabs [1]. Fibre reinforcement mainly enhances the post-cracking properties of concrete and leads to a more ductile material behavior. The increased ductility is due to the ability of the fibres to transfer tensile stresses across a cracked section, potentially leading to a reduction in crack widths. The extent of the crack-width reduction depends on the amount of fibres added as well as their

Results (Thai) 1:

คอนกรีตเสริมใยไฟเบอร์ (FRC) เป็นปูนซีเมนต์ตาม วัสดุคอมโพสิตเสริมเส้นใยเดี่ยว ๆ มักจะ สุ่ม เส้นใยของรูปร่างและขนาดต่าง ๆ ผลิตจากเหล็ก ซินธิติกส์ แก้ว และสามารถใช้วัสดุธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ประสงค์ส่วนใหญ่โครงสร้าง เหล็กเส้นใยจะมีส่วนของวัสดุไฟเบอร์ทั้งหมด ในขณะที่เส้นใยสังเคราะห์ (เช่นโพรพิลีนและไนล่อน) ใช้เป็นหลักในการควบคุมการแตกร้าว (รอยแตกหดตัวพลาสติก) ต้นในแผ่น [1] เสริมแรงไฟเบอร์ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของคอนกรีตหลังกรอบส่วนใหญ่ และนำไปสู่ลักษณะวัสดุเหนียวมาก ความเหนียวเพิ่มขึ้นเนื่องจากความสามารถของเส้นใยการโอนความเครียดแรงดึงผ่านส่วนแตก อาจนำไปสู่การลดความกว้างของรอยแตกได้ ขอบเขตของการลดความกว้างของรอยแตกขึ้นกับปริมาณของเส้นใยเพิ่ม เป็นของพวกเขา

Results (Thai) 2:

ไฟเบอร์คอนกรีตเสริมเหล็ก (FRC) เป็นซีเมนต์ที่ใช้วัสดุคอมโพสิตเสริมด้วยไม่ต่อเนื่องมักจะกระจายสุ่มเส้นใย Fibres ของรูปทรงและขนาดต่าง ๆ ที่ผลิตจากเหล็กสังเคราะห์แก้วและวัสดุธรรมชาติสามารถนำมาใช้ อย่างไรก็ตามสำหรับวัตถุประสงค์โครงสร้างส่วนใหญ่เส้นใยเหล็กที่ใช้มากที่สุดของวัสดุไฟเบอร์ทั้งหมดในขณะที่เส้นใยสังเคราะห์ (เช่นโพรพิลีนและไนล่อน) ส่วนใหญ่จะใช้ในการควบคุมการแตกต้น (รอยแตกพลาสติกหดตัว) ในแผ่น [1] ไฟเบอร์เสริมแรงส่วนใหญ่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการโพสต์การแตกร้าวของคอนกรีตและนำไปสู่พฤติกรรมของวัสดุที่เหนียวมากขึ้น เหนียวเพิ่มขึ้นเป็นเพราะความสามารถของเส้นใยในการถ่ายโอนความเครียดแรงดึงข้ามส่วนที่แตกอาจนำไปสู่การลดความกว้างของรอยแตก ขอบเขตของการลดรอยแตกกว้างขึ้นอยู่กับปริมาณของเส้นใยเพิ่มเช่นเดียวกับพวกเขา