What distinguishes scientific think

What distinguishes scientific thinking from ordinary thinking is only that scientists do it in a more rigorous way. Scientists are practiced in constructing packages of evidence to support their claims. Other people admire that.Almost everyone has heard of the scientific method and understands it has something to do with setting up hypotheses and then running experiments to test these hypotheses. This is essentially correct, and not difficult to understand. What seems to cause most of the problems is lack of understanding of the "scientific approach," without which the scientific method would be useless.The scientific approach is a set of fundamental principles to which all scientists should adhere. These fundamental principles are the intellectual raw materials from which the scientific method was fashioned.There are 16 of these principles or "character traits" of the scientific approach. Don't be put off by this apparently unwieldy number. Many of the traits are closely interrelated—and all of them are just common sense. So remembering and using them should present little difficulty.

Results (Thai) 1:

สิ่งที่แตกต่างความคิดทางวิทยาศาสตร์จากการคิดเป็นเพียงสามัญที่นักวิทยาศาสตร์จะทำมันในทางที่เข้มงวดมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์มีความชำนาญในการสร้างแพคเกจของหลักฐานที่จะสนับสนุนการเรียกร้องของพวกเขา คนอื่นชื่นชมว่า

เกือบทุกคนมีได้ยินวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเข้าใจมันมีบางอย่างจะทำอย่างไรกับการตั้งค่าสมมติฐานแล้ววิ่งทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ นี้เป็นหลักที่ถูกต้องและไม่ยากที่จะเข้าใจ สิ่งที่น่าจะก่อให้เกิดส่วนใหญ่ของปัญหาคือการขาดความเข้าใจของ "วิธีการทางวิทยาศาสตร์" โดยที่วิธีการทางวิทยาศาสตร์จะไร้ประโยชน์

วิธีการทางวิทยาศาสตร์คือชุดของหลักการพื้นฐานที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนควรปฏิบัติตาม หลักการพื้นฐานเหล่านี้เป็นวัตถุดิบทางปัญญาจากการที่วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูก fashioned

มี 16 หลักการเหล่านี้หรือ "ลักษณะนิสัย" ของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ต้องนำออกจากจำนวนเทอะทะเห็นได้ชัดนี้ หลายลักษณะที่มีอย่างใกล้ชิดinterrelated ?? และทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงสามัญสำนึก ดังนั้นการจดจำและใช้พวกเขาควรนำเสนอปัญหาเล็กน้อย

Results (Thai) 2:

สิ่งที่แตกต่างความคิดทางวิทยาศาสตร์จากการคิดทั่วไปเป็นเพียงว่านักวิทยาศาสตร์ทำมันในทางที่เข้มงวดมากขึ้น. นักวิทยาศาสตร์ได้รับการฝึกฝนในการสร้างแพคเกจของหลักฐานที่จะสนับสนุนการเรียกร้องของพวกเขา. คนอื่นๆชื่นชมว่า

เกือบทุกคนได้ยินวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเข้าใจว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องทำกับการตั้งค่าสมมติฐานและจากนั้นทำการทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้. นี้เป็นหลักที่ถูกต้องและไม่ยากที่จะเข้าใจ สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดปัญหามากที่สุดคือการขาดความเข้าใจของ "วิธีการทางวิทยาศาสตร์, " โดยที่วิธีการทางวิทยาศาสตร์จะไม่มีประโยชน์.

วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นชุดของหลักการพื้นฐานที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนควรปฏิบัติตาม หลักการพื้นฐานเหล่านี้เป็นวัตถุดิบทางปัญญาซึ่งวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ล้าสมัย

มี16ของหลักการเหล่านี้หรือ "ลักษณะตัวละคร " ของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ต้องนำออกโดยหมายเลขที่ไม่มีที่เห็นได้ชัด หลายลักษณะมี interrelatedÂand ชิดและทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงความรู้สึกร่วมกัน. ดังนั้นการจดจำและการใช้พวกเขาควรนำเสนอความยากลำบากเล็กน้อย

Results (Thai) 3:

ความแตกต่างระหว่างการคิดทางวิทยาศาสตร์และความคิดทั่วไปเป็นเพียงวิธีที่นักวิทยาศาสตร์คิดอย่างเข้มงวดมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์มีประสบการณ์ในการสร้างชุดของหลักฐานเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องของพวกเขา คนอื่นชอบมันมาก
เกือบทุกคนเคยได้ยินของวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกับการสร้างสมมติฐานและวิ่งทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ มันเป็นหลักที่ถูกต้องและไม่ยากที่จะเข้าใจ ดูเหมือนว่าสาเหตุของปัญหามากที่สุดคือการขาดความเข้าใจวิธีการทางวิทยาศาสตร์และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ไร้ประโยชน์โดยไม่มีความเข้าใจนี้
วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นชุดของหลักการพื้นฐานที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนควรปฏิบัติตาม หลักการพื้นฐานเหล่านี้เป็นวัตถุดิบทางปัญญาที่สร้างวิธีการทางวิทยาศาสตร์
วิธีการทางวิทยาศาสตร์มีหลักการหรือลักษณะบุคลิกภาพ อย่าชักช้าโดยตัวเลขที่ซุ่มซ่ามอย่างเห็นได้ชัด หลายคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและทั้งหมดนี้เป็นสามัญสำนึก ดังนั้นจึงไม่ควรมีปัญหาในการจดจำและใช้พวกเขา