This method is most widely used all

This method is most widely used all over the world to produce technical grade
Terephthalic acid. This method was developed by Mid –Century Corp. The process
generally uses acetic acid as the solvent and a catalyst to oxidize p-Xylene in liquid phase
by air oxidation. The process is also called as the Amoco process. This uses a catalyst
usually a heavy metal eg. Cobalt. The process may use typically multivalent metals like
manganese as catalyst for oxidation and bromine serves as the renewable source of free
radicals.

Results (Thai) 1:

วิธีนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในการผลิตเทคนิคเกรดTerephthalic กรด วิธีการนี้ได้รับการพัฒนาโดยกลาง – ศตวรรษ คอร์ป กระบวนการโดยทั่วไปใช้กรดอะซิติกเป็นตัวทำละลายและตัวเร่งปฏิกิริยาที่ออกซิไดซ์พาราในเฟสของเหลวโดยอากาศออกซิเดชัน นอกจากนี้ยังมีเรียกกระบวนการเป็นกระบวน Amoco นี้ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยามักจะเป็นโลหะหนักเช่นกัน โคบอลต์ กระบวนการอาจใช้โลหะ multivalent โดยทั่วไปเช่นแมงกานีสเป็นเศษออกซิเดชันและโบรมีนทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานทดแทนของฟรีอนุมูล

Results (Thai) 2:

วิธีนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในการผลิตเกรดทางเทคนิค
กรด Terephthalic วิธีการนี้ได้รับการพัฒนาในช่วงกลางศตวรรษ Corp. กระบวนการ
โดยทั่วไปใช้กรดอะซิติกเป็นตัวทำละลายและตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิไดซ์ P-Xylene ในเฟสของเหลว
โดยการเกิดออกซิเดชันอากาศ กระบวนการนี้เรียกว่าเป็นกระบวนการ Amoco นี้จะใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา
มักจะเป็นเช่นโลหะหนัก โคบอลต์. กระบวนการนี้อาจจะใช้โลหะมักจะ multivalent เช่น
แมงกานีสเป็นตัวเร่งให้เกิดออกซิเดชันและโบรมีนทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานทดแทนของฟรี
อนุมูล

Results (Thai) 3:

วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในการผลิตระดับเทคนิคกรดเท . วิธีนี้ถูกพัฒนาโดยกลางศตวรรษที่คอร์ปและกระบวนการโดยทั่วไปใช้เป็นตัวทำละลายและกรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันพาราไซลีนในเฟสของเหลวโดยอากาศออกซิเดชัน กระบวนการนี้เรียกว่าเป็นกระบวนการ Amoco . นี้ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยามักจะเป็นโลหะหนัก เช่น โคบอลต์ กระบวนการอาจใช้โลหะทั่วไป เช่น มัลติวาเลนต์แมงกานีสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับปฏิกิริยาออกซิเดชันและโบรมีนทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานทดแทนของฟรีอนุมูลอิสระ