Mexican Americans are the largest s

Mexican Americans are the largest segment of Hispanics in the United States of America (U.S.). Hispanics and Mexican Americans are more likely to have higher rates of type 2 diabetes (T2D) and its risk factors such as obesity, physical inactivity, low socioeconomic status (SES), and food insecurity compared to non-Hispanic Whites (NHW). However, the research looking into the associations between these risk factors and T2D, and the potential racial/ethnic differences is limited. This study examined whether food insecurity was related to T2D independently of low SES and a wide range of T2D risk factors among Mexican Americans and non-Hispanic Whites (NHW) in a nationally representative sample in the U.S. About 12,944 adults, including 2,955 Mexican Americans and 6,363 non-Hispanic Whites, 20-84yr, from the National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES) 1999-2004 were included in the analyses. Multivariate logistic regression analyses indicated that participants with marginal or very low food security (vs. high food security) at the household level were more likely to have T2D after adjusting for education, employment, poverty, race/ethnicity, age, gender, and country of birth (p

Results (Thai) 1:

อเมริกันเม็กซิกันเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ Hispanics ในสหรัฐอเมริกา (สหรัฐ) Hispanics และเม็กซิกันอเมริกันมีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้นของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (T2D) และเป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นโรคอ้วน สาเหตุทางกายภาพ สถานะประชากรต่ำ (SES), และความไม่มั่นคงอาหารเปรียบเทียบกับไม่ - Hispanic ขาว NHW อย่างไรก็ตาม การวิจัยที่ค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ T2D และความแตกต่างของเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์อาจจะจำกัด การศึกษานี้ตรวจสอบว่าความไม่มั่นคงของอาหารเกี่ยวข้องกับ T2D อิสระ SES ต่ำและเป็นปัจจัยเสี่ยงช่วงกว้าง T2D เม็กซิกันอเมริกันและไม่ใช่ - Hispanic ขาว NHW ในตัวอย่างผลงานพนักงานในสหรัฐอเมริกา 12,944 เกี่ยวกับผู้ใหญ่ รวมถึง 2955 เม็กซิกันอเมริกัน และการ 6,363 ขาว Hispanic, 20-84 ปี สุขภาพแห่งชาติและโภชนาการตรวจสอบสำรวจ (NHANES) 1999-2004 รวมอยู่ในการวิเคราะห์ วิเคราะห์ตัวแปรพหุการถดถอยโลจิสติกระบุว่า ร่วมกับความปลอดภัยอาหารกำไร หรือต่ำมาก (เทียบกับความปลอดภัยอาหารสูง) ในระดับครัวเรือนมีแนวโน้มที่จะมี T2D หลังปรับปรุงเพื่อการศึกษา งาน ความยากจน การแข่งขัน/เชื้อชาติ อายุ เพศ และประเทศเกิด (p < 0.05) ต่อไปนี้เพิ่มเติมปรับปรุงประวัติครอบครัวของโรคเบาหวาน และ comorbidities โรคอ้วน สาเหตุ (กิจกรรมทางกายภาพ การสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารภาค) ร่วมกับความปลอดภัยอาหาร (ครัวเรือน) ต่ำมากยังคงมีแนวโน้มที่จะมี T2D (หรือ 1.84, CI 1.02 3.31) เมื่อตรวจสอบเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์สองกลุ่มแยกต่างหาก กินต่ำมากเป็น ดีเทอร์มิแนนต์ที่แข็งแกร่งของ T2D ระหว่าง NHWs (หรือ 3.53, CI 1.58 7.87), แต่สมาคมนี้มีไฟฟ้าเคร...ระหว่างอเมริกันเม็กซิกัน SES ต่ำ เป็นไปตามการศึกษาและระดับการจ้างงาน ดีเกี่ยวข้องกับ T2D ระหว่างอเมริกันเม็กซิกันมีโอกาสสูงขึ้น (p = 0.050) แต่ ใน NHWs ไม่ ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า ความสัมพันธ์ของความไม่มั่นคงของอาหารและ SES กับ T2D แตกต่างกันระหว่างผู้ใหญ่ NHW และเม็กซิกันอเมริกัน นี้อาจต้องใช้วิธีอื่นสำหรับความพยายามกับความต้องการของแต่ละกลุ่มเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์

Results (Thai) 2:

Mexican Americans are the largest segment of Hispanics in the United States of America (U.S.). Hispanics and Mexican Americans are more likely to have higher rates of type 2 diabetes (T2D) and its risk factors such as obesity, physical inactivity, low socioeconomic status (SES), and food insecurity compared to non-Hispanic Whites (NHW). However, the research looking into the associations between these risk factors and T2D, and the potential racial/ethnic differences is limited. This study examined whether food insecurity was related to T2D independently of low SES and a wide range of T2D risk factors among Mexican Americans and non-Hispanic Whites (NHW) in a nationally representative sample in the U.S. About 12,944 adults, including 2,955 Mexican Americans and 6,363 non-Hispanic Whites, 20-84yr, from the National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES) 1999-2004 were included in the analyses. Multivariate logistic regression analyses indicated that participants with marginal or very low food security (vs. high food security) at the household level were more likely to have T2D after adjusting for education, employment, poverty, race/ethnicity, age, gender, and country of birth (p<0.05). Following further adjustment for obesity, lifestyle factors (physical activity, cigarette smoking, alcohol and dietary intakes), family history of diabetes, and comorbidities, participants with very low (household) food security remained more likely to have T2D (OR 1.84, CI 1.02-3.31). When the two racial/ethnic groups were examined separately, very low food security became a stronger determinant of T2D among NHWs (OR 3.53, CI 1.58-7.87), but this association was attenuated among Mexican Americans. Low SES, as determined by education and employment levels, were marginally related to higher likelihood of having T2D among Mexican Americans (p=0.050) but not among NHWs. These results suggest that associations of food insecurity and SES with T2D vary between Mexican American and NHW adults. This may require different approaches for prevention efforts tailored to the needs of each racial/ethnic group.

Results (Thai) 3:

เม็กซิกันอเมริกันเป็นส่วนของละตินอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ( สหรัฐอเมริกา ) คนเชื้อสายสเปนและเม็กซิกันอเมริกันมีแนวโน้มที่จะมีอัตราที่สูงขึ้นของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ( t2d ) และปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคอ้วน ไม่มีการใช้งานทางกายภาพ สถานภาพเศรษฐกิจและสังคม ( SES ) ต่ำ และอาหารปลอดภัย เมื่อเทียบกับที่ไม่ใช่สเปนสีขาว ( nhw ) อย่างไรก็ตามและมองเข้าไปในสมาคมระหว่างปัจจัยเสี่ยงและ t2d และศักยภาพเชื้อชาติ / ชาติพันธุ์แตกต่างจำกัด การศึกษานี้ตรวจสอบว่าอาหารปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ t2d เป็นอิสระจากต่ำ SES และช่วงกว้างของปัจจัยความเสี่ยง t2d ระหว่างเม็กซิกันอเมริกันและไม่ใช่ Hispanic สีขาว ( nhw ) ในประเทศตัวอย่างที่เป็นตัวแทนในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับ 12944 ผู้ใหญ่ รวมทั้ง 2955 เม็กซิกันอเมริกันและสเปน 6363 ไม่ใช่สีขาว 20-84yr จากสุขภาพแห่งชาติการตรวจสอบโภชนาการและ ( หรือ ) 2542-2547 ถูกรวมอยู่ในองค์ประกอบ การวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกพหุตัวแปร พบว่า ผู้ที่มีขอบหรือความมั่นคงทางอาหารน้อยมาก ( เทียบกับความมั่นคงทางอาหารสูง ) ระดับครัวเรือนมีแนวโน้มที่จะมี t2d หลังจากปรับสำหรับการศึกษา การจ้างงานความยากจน , การแข่งขัน / เชื้อชาติ อายุ เพศ และสถานที่เกิด ( P < 0.05 ) ต่อไปนี้การปรับเพิ่มเติมสำหรับโรคอ้วนปัจจัยวิถีชีวิต ( กิจกรรม การสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารบริโภคและทางกายภาพ ประวัติครอบครัวของโรคเบาหวาน และโรคร่วมที่เข้าร่วมกับน้อยมาก ( ครัวเรือน ) ความมั่นคงทางอาหารยังคงมีแนวโน้มที่จะมี t2d ( หรือ 1.84 , CI 1.02-3.31 )เมื่อสองเชื้อชาติ / ชาติพันธุ์กลุ่มตรวจสอบแยก , ความมั่นคงทางอาหารต่ำมาก เป็นปัจจัยที่แข็งแกร่งของ t2d ในหมู่ nhws ( หรือ 3.53 , CI 1.58-7.87 ) แต่นี้เป็นสมาคมของเม็กซิกันอเมริกัน ต่ำ SES , ตามที่กำหนดโดยการศึกษาและระดับการจ้างงาน จำนวนเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องกับโอกาสของการมีขึ้น t2d ระหว่างเม็กซิกันอเมริกัน ( P = 0.050 ) แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม nhws .ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าสมาคมของความไม่ปลอดภัยอาหารและ SES ด้วย t2d แตกต่างกันระหว่างผู้ใหญ่อเมริกันและ nhw เม็กซิกัน นี้อาจจะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อป้องกันความพยายามในการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละเชื้อชาติ / ชาติพันธุ์กลุ่ม