The first kind of loneliness is tem

The first kind of loneliness is temporary. This is the most common type. It usually disappears quickly and does not require any special attention. The second kind, situational loneliness, is a natural result of a particular situation, for cxample, the death of a loved one, or moving to a new place. Although this kind of loneliness can cause physical problems, such as headaches and sleeplessness, it usually does not last for more than a year. Situational loneliness is easy to understand and to predict.The third kind of loneliness is the most severe. Unlike the second type, chronic loneliness usually lasts more than two years and has no specific case People who experience habitual loneliness have problems socializing and becoming close to others Unfortunately, many chronically lonely people think there is little or nothing they can do to improve their condition.Psychologists agree that one important factor in loneliness is a person's social contacts, i.e. friends, family members, coworkers, etc. We depend on various people for different reasons. For instance, our families give us emotional support, our parents and teachers give us guidance, and our friends share similar interests and activities. However, psychologists have found that the number of social contacts we have is not the only reason for loneliness. It is more important how many social contacts we think or expect we should have. In other words, though lonely people may have many social contacts, they sometime feel they should have more. They question their own popularity.

Results (Thai) 1:

ชนิดแรกของความเหงาเป็นแบบชั่วคราว นี้เป็นชนิดที่พบมากที่สุด มันมักจะหายไปอย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องมีความสนใจเป็นพิเศษใด ๆ ประเภทที่สองเหงาสถานการณ์เป็นผลตามธรรมชาติของสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ cxample, การตายของคนที่คุณรักหรือย้ายไปยังสถานที่ใหม่ แม้ว่าชนิดของความเหงานี้อาจทำให้เกิดปัญหาทางกายภาพเช่นอาการปวดหัวและนอนไม่หลับก็มักจะไม่ได้ผ่านมานานกว่าหนึ่งปี ความเหงาสถานการณ์เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจและจะคาดการณ์
ชนิดที่สามของความเหงาเป็นที่รุนแรงที่สุด ซึ่งแตกต่างจากชนิดที่สองเหงาเรื้อรังมักจะเป็นเวลากว่าสองปีและไม่เคยมีใครคนเฉพาะกรณีที่มีประสบการณ์ความเหงาเป็นนิสัยมีปัญหาสังคมและกลายเป็นใกล้กับคนอื่น ๆ แต่น่าเสียดายที่หลาย ๆ คนเหงาเรื้อรังคิดว่าจะมีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือพวกเขาสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงสภาพของพวกเขา .
นักจิตวิทยายอมรับว่าปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งในความเหงาเป็นรายชื่อของบุคคลที่สังคมเพื่อนเช่นสมาชิกในครอบครัว, เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ เราขึ้นอยู่กับผู้คนต่างๆสำหรับเหตุผลที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่นครอบครัวของเราให้เรามีการสนับสนุนทางอารมณ์ผู้ปกครองและครูของเราให้เรามีคำแนะนำและเพื่อนของเรามีความสนใจที่คล้ายกันและกิจกรรม อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาได้พบว่าจำนวนของการติดต่อทางสังคมที่เรามีไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่เหงา มันเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นหลายวิธีการติดต่อทางสังคมที่เราคิดหรือคาดหวังว่าเราควรจะมี ในคำอื่น ๆ แม้ว่าคนเหงาอาจจะมีการติดต่อทางสังคมจำนวนมากบางครั้งรู้สึกว่าพวกเขาควรจะมีมากขึ้น พวกเขาจะถามความนิยมของตัวเอง

Results (Thai) 2:

ชนิดแรกของความเหงาเป็นแบบถาวร นี่เป็นชนิดที่พบมากที่สุด มันมักจะหายไปอย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องมีความสนใจเป็นพิเศษ ชนิดที่สองสถานการณ์ความเหงาเป็นผลมาจากธรรมชาติของสถานการณ์เฉพาะสำหรับ cxample การตายของคนที่คุณรักหรือย้ายไปยังสถานที่ใหม่ แม้ว่าความเหงาชนิดนี้อาจทำให้เกิดปัญหาทางกายภาพ, เช่นอาการปวดหัวและนอนไม่หลับ, มันมักจะไม่มีอายุมากกว่าหนึ่งปี. ความเหงาของสถานการณ์เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจและคาดการณ์
ชนิดที่สามของความเหงาเป็นที่รุนแรงที่สุด ซึ่งแตกต่างจากชนิดที่สองความเหงาเรื้อรังมักจะมีเวลามากกว่าสองปีและไม่มีกรณีที่เฉพาะเจาะจงคนที่มีประสบการณ์ความเหงาเป็นนิสัยมีปัญหาในการพบปะและกลายเป็นใกล้ชิดกับคนอื่นๆที่น่าเสียดาย, หลายคนเหงาเรื้อรังคิดว่ามี เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงสภาพของพวกเขา
นักจิตวิทยายอมรับว่าปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในความเหงาคือการติดต่อทางสังคมของบุคคลเช่นเพื่อนสมาชิกในครอบครัวเพื่อนร่วมงานฯลฯ เราขึ้นอยู่กับหลายคนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นครอบครัวของเราให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่เราพ่อแม่และครูของเราให้คำแนะนำแก่เราและเพื่อนของเราแบ่งปันความสนใจและกิจกรรมที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาได้พบว่าจำนวนของการติดต่อทางสังคมที่เรามีไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวสำหรับความเหงา มันเป็นสิ่งสำคัญมากว่าการติดต่อทางสังคมที่เราคิดว่าหรือคาดหวังว่าเราควรจะมี. กล่าวอีกนัยหนึ่ง, แม้ว่าคนเหงาอาจมีหลายติดต่อทางสังคม, พวกเขาบางครั้งรู้สึกว่าพวกเขาควรจะมีมากขึ้น. พวกเขาถามความนิยมของตัวเอง

Results (Thai) 3:

ชนิดแรกของความเหงาชั่วคราว นี้เป็นชนิดที่พบมากที่สุด มันมักจะหายไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ประการที่สองสถานการณ์ความเหงาเป็นผลตามธรรมชาติของสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงเช่นความตายของคนรักหรือย้ายไปยังสถานที่ใหม่ แม้ว่าความรู้สึกของความเหงานี้สามารถนำไปสู่ปัญหาทางร่างกายเช่นปวดศีรษะและนอนไม่หลับมันมักจะไม่สุดท้ายมากกว่าหนึ่งปี ความเหงาเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจและคาดการณ์
ชนิดที่สามของความเหงาที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งแตกต่างจากที่สองความเหงาเรื้อรังมักจะล่าสุดมากกว่าสองปีและไม่มีกรณีเฉพาะผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากความเหงาเป็นนิสัยมีปัญหาทางสังคมและความใกล้ชิดกับคนอื่นๆ
นักจิตวิทยายอมรับว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการอยู่คนเดียวคือการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของบุคคลเช่นเพื่อนครอบครัวเพื่อนร่วมงานฯลฯ ตัวอย่างเช่นครอบครัวของเราให้การสนับสนุนทางอารมณ์พ่อแม่และครูของเราให้คำแนะนำและเพื่อนของเรามีความสนใจและกิจกรรมที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาพบว่าจำนวนของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเราไม่ใช่เหตุผลเดียวที่จะอยู่คนเดียว ที่สำคัญเราคิดว่าหรือคาดหวังว่าเราควรจะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมาก ในคำอื่นๆแม้ว่าผู้คนเหงาอาจจะมีความสัมพันธ์ทางสังคมมากบางครั้งพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาควรจะมีมากขึ้น พวกเขาถามความนิยมของพวกเขา