Speaking about the harmony between

Speaking about the harmony between man and nature is hackneyed but it evidently does describe a specific condition: where the work of human beings takes care of nature, of the soil, the plants, the animals, l get a sense of how human beings depend on the earth and at the same time
I begin to realize that this must be the source of the impression of beauty that I associate with my experience of landscape. In addition to traditional cultural landscapes, there are other more recent ones in which l see no beauty at all.

l think that is often related to the fact that the built objects of these modern cultural landscapes are not invested with an intrinsic value of their own and do not enter into a relationship with the landscape. Structures of this kind just seem to mushroom, to cover the landscape until it disappears.

And it is extremely difficult for me to bear that loss. Urban sprawl for me is an expression of loss, the loss of landscape.
At this point, of course, l would theoretically have to argue: This is where a city emerges. lt is simply about the first generation of build-

Results (Thai) 1:

พูดเกี่ยวกับความกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติเป็น hackneyed แต่มันอย่างเห็นได้ชัดอธิบายเงื่อนไขเฉพาะ: ที่จะดูแลการทำงานของมนุษย์ของธรรมชาติ ดิน พืช สัตว์ l ได้รับความรู้สึกอย่างไรขึ้นอยู่กับมนุษย์ บนโลก และ ในเวลาเดียวกันผมเริ่มตระหนักว่า นี้ต้องเป็นแหล่งที่มาของความประทับใจของฉันเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของภูมิทัศน์สวยงาม นอกจากภูมิประเทศวัฒนธรรมดั้งเดิม ได้อีกคนล่าสุดใน l ที่ดูไม่งามเลย l คิดที่มักจะเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงว่า วัตถุสร้างขึ้นของภูมิประเทศวัฒนธรรมทันสมัยเหล่านี้ไม่ได้ลงทุนกับค่า intrinsic ของตนเอง และสามารถเข้ามีความสัมพันธ์กับภูมิทัศน์ โครงสร้างชนิดนี้เพียงดูเหมือน เห็ด ครอบคลุมภูมิทัศน์จนกว่ามันหายไป และมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับฉันต้องแบกขาดทุนนั้น Urban นั่นสำหรับฉันคือ ค่าการสูญเสีย สูญเสียภูมิทัศน์จุดนี้ แน่นอน l ครั้งแรกราคาต้องเถียง: นี้คือที่เมืองขึ้น lt คือเพียงรุ่นแรกสร้าง-

Results (Thai) 2:

พูดเกี่ยวกับความสามัคคีระหว่างมนุษย์และธรรมชาติเป็นอยู่เสมอ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่อธิบายสภาพที่เฉพาะเจาะจง: ที่ทำงานของมนุษย์ดูแลธรรมชาติของดินพืชสัตว์, L ได้รับความรู้สึกของวิธีการที่มนุษย์ขึ้นอยู่กับ
โลกและในเวลาเดียวกันผมเริ่มตระหนักว่านี้จะต้องเป็นแหล่งที่มาของการแสดงผลของความงามที่ผมเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของฉันของภูมิทัศน์ นอกเหนือไปจากภูมิทัศน์วัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่มีคนอื่น ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ลิตรเห็นความงามที่ทุกคน. ลิตรคิดว่ามักจะเกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าสร้างวัตถุของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่ทันสมัยเหล่านี้จะไม่ได้ลงทุนด้วยมูลค่าที่แท้จริงของพวกเขาเอง และไม่ได้เข้าสู่ความสัมพันธ์กับสภาพภูมิทัศน์ที่ โครงสร้างแบบนี้ก็ดูเหมือนจะเห็ดเพื่อให้ครอบคลุมแนวนอนจนกว่าจะหาย. และมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผมที่จะแบกรับความสูญเสียที่ แผ่กิ่งก้านสาขาสำหรับฉันคือการแสดงออกของการสูญเสียการสูญเสียของภูมิทัศน์. ณ จุดนี้แน่นอนลิตรในทางทฤษฎีจะต้องเถียง: นี่คือที่เมืองโผล่ออกมา ลิตรเป็นเพียงเกี่ยวกับรุ่นแรกของ ณ อาคาร

Results (Thai) 3:

urban sprawl สำหรับฉันคือการแสดงออกของการสูญเสีย , การสูญเสียของภูมิทัศน์ .
ที่จุดนี้ แน่นอนฉันในทางทฤษฎีจะต้องเถียง : ที่นี่เมืองโผล่ออกมา มันเป็นเพียงเกี่ยวกับรุ่นแรกของการสร้าง -

ผมเริ่มตระหนักว่า นี่จะเป็นแหล่งที่มาของความประทับใจในความงามที่ฉันเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของฉันของภูมิทัศน์ นอกจากภูมิทัศน์วัฒนธรรมดั้งเดิม มีอื่น ๆล่าสุดมากกว่า ซึ่งผมดูไม่มีความสวยงามเลย .

พูดเกี่ยวกับความสามัคคีระหว่างมนุษย์และธรรมชาติธรรมดา แต่มันคือไม่อธิบายเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงที่งานของมนุษย์ดูแลธรรมชาติของดิน พืช สัตว์ ฉันได้รับความรู้สึกของมนุษย์ขึ้นอยู่กับโลกและที่
เวลาเดียวกันฉันคิดว่านั่นคือมักจะเกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่า การสร้างวัตถุของวัฒนธรรมที่ทันสมัย เหล่านี้ไม่ได้ลงทุนที่มีคุณค่าของตนเอง และไม่เข้าไปในความสัมพันธ์กับภูมิทัศน์ โครงสร้างชนิดนี้ดูเหมือนเห็ด ครอบคลุมภูมิจนมันหาย

และมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผมที่จะแบกขาดทุนurban sprawl สำหรับฉันคือการแสดงออกของการสูญเสีย , การสูญเสียของภูมิทัศน์ .
ที่จุดนี้ แน่นอนฉันในทางทฤษฎีจะต้องเถียง : ที่นี่เมืองโผล่ออกมา มันเป็นเพียงเกี่ยวกับรุ่นแรกของการสร้าง -