The Revenue Act of 1909 mirrored an

The Revenue Act of 1909 mirrored and expanded
the language from the 1894 act. Under this statute,
tax exemption was granted to "any corporation or association organized and operated exclusively for religious, charitable, or educational purposes, no part of the net income of which inures to the benefit of any private stockholder or individual." This important
addition set forth the idea that tax-exempt charitable
organizations should be free of private inurement—in other words, nonprofit.

Results (Thai) 1:

ทำรายได้ของ 1909 สะท้อน และขยาย
ภาษาจากพระราชบัญญัติ 1894 ภายใต้กฎหมายนี้,
ยกเว้นภาษีได้รับการ "จัดระเบียบบริษัทหรือสมาคมใด ๆ และดำเนินการโดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ทางศาสนา กุศล หรือศึกษา ส่วนหนึ่งของกำไรสุทธิที่ inures เพื่อประโยชน์ของส่วนตัว stockholder หรือบุคคลใดๆ" สำคัญนี้
นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ความคิดที่ยกเว้นภาษีกุศล
องค์กรควรจะฟรีของ inurement ส่วนตัว — ในคำอื่น ๆ ผลกำไร

Results (Thai) 2:

รายได้จากการกระทำของ 1909 สะท้อนและขยาย
ภาษาจาก 1894 การกระทำ ภายใต้กฎหมายนี้
ได้รับการยกเว้นภาษีได้รับอนุญาตให้ "บริษัท หรือสมาคมจัดและดำเนินการเฉพาะสำหรับศาสนาการกุศลหรือเพื่อการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของรายได้สุทธิที่ inures เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเอกชนหรือบุคคลใด." นี้ที่สำคัญ
นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ความคิดที่ว่าได้รับการยกเว้นภาษีการกุศล
องค์กรควรจะเป็นอิสระจากภาคเอกชน inurement ในคำอื่น ๆ ที่ไม่แสวงหาผลกำไร

Results (Thai) 3:

บริษัทกฎหมาย 1909 มิเรอร์และขยาย
ภาษาจาก 1894 แสดง ภายใต้ประมวลกฎหมายนี้
การยกเว้นภาษีให้กับ " บริษัท ใด ๆหรือสมาคมที่จัดและดำเนินการโดยเฉพาะศาสนา การกุศล หรือเพื่อการศึกษา ไม่มีส่วนของรายได้สุทธิ ซึ่ง inures เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นส่วน หรือแต่ละ "
ที่สำคัญนี้นอกจากที่กำหนดไว้ว่ายกเว้นภาษีการกุศล
องค์กรควรจะฟรีของเอกชน inurement ในคำอื่น ๆ , องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร