Transactional vs. transformational

Transactional vs. transformational leadership 2 5

A principal component factor analysis of the MLQ data was done to determine whether the factors as found by Bass would also be found in our data set. Again Cronbach's a and inter-item correlations were calculated. The aggregate measures for transformational, transactional and laissez-faire leadership as defined by Bass were correlated with each other and with the scales derived from factor analysis.

To assess the reliability and internal consistency of the scales several criteria were used. Items that did not meet the criteria were left out of subsequent analyses. This was done to increase the homogeneity of the scales. The criteria used in this study are those more often used in research and literature. The first criterion used is that the Cronbach Cf of the scale should be >.7O (Nunally, 1967). This seems to reflect the general idea in literature of what an acceptable Ct is. The criterion used for average inter-item correlations is that they should be >.3O. The criterion used in this study for item-rest correlations is that they should be >.20 (Kline, 1986). Criteria used for the factor loadings are: factor loadings should be >.3O and the difference between factor loadings of an item on two factors shold be >.2O. If items in the scales yielded by the factor analysis did not meet the criteria they were removed from the scales. Therefore rhe scales that were found and adapted in this study have fewer items than the scales as developed by Bass.

Results

The aggregate measures for transformational, transactional and laissez-faire leadership

The scale statistics for the dimensions of transformational, transactional and laissez-faire leadership as defined by Bass & Avolio (1989) are reported in Table 1. Transformational leadership was a high Cfof .93. Ho'wever, transformational leadership also has most items. The OS for the transactional (.60) and laissez-faire scale (.49) are below the .70 criterion.

The reason for the low a of the transactional measure is that passive management-by-exception is in Bass' transactional scale, even though the findings of the present study show that correlations between passive management-by-exception and the other transac-tional dimensions are negative. When passive management-by-exception is left out of the transactional scale, the a of transactional leadership increases to .79 (this scale would have eight items).

Table 1. Scale statistics for Bass' theoretical scales

I Transformational leadership:

lA items a = .95

Mean = 3.03

SD = .33

average inter-item correlation .44 (variance = .02) range ofitem—total correlation .32 to .77 II Transactional leadership:

12 items a= -60

Mean = 2.48

SD = .62

average inter-item correlation .12 (variance = .06) range of item-total correlations —.07 to .46 III Laissez-faire leadership:

4 Items a = -49

Mean = 2.34

SD = .59

average inter-item correlation .21 (variance = .04) range of item-total correlations .09 to .44

26 Deanne N, Den Hartog, JaapJ, Van Muifen and Paul L, Koopman

Results (Thai) 1:

ทรานแซคชันเทียบกับภาวะผู้นำ 2 5การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนประกอบหลักของข้อมูล MLQ เสร็จเพื่อตรวจสอบว่า ชุดข้อมูลของเราจะยังพบปัจจัยเป็นพบโดยเบส อีก Cronbach ของ a และสินค้าระหว่างความสัมพันธ์ที่คำนวณ มาตรการรวมภาวะ ทรานแซคชัน และ laissez-faire นำตามที่กำหนด โดยเบสถูก correlated กัน และ มีเครื่องชั่งที่ได้รับจากการวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความสอดคล้องภายในของเครื่องชั่งที่ใช้เงื่อนไขต่าง ๆ สินค้าที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขถูกปล่อยจากวิเคราะห์ตามมา นี้สำเร็จ homogeneity ของเครื่องชั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้น เกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษานี้จะใช้บ่อยในงานวิจัยและวรรณกรรม เกณฑ์แรกที่ใช้คือ Cf Cronbach สเกลควรเป็น > .7O (Nunally, 1967) นี้ดูเหมือนว่าจะสะท้อนความคิดทั่วไปในวรรณกรรมของ Ct ใดยอมรับการเป็น เกณฑ์ที่ใช้สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่พวกเขาควร > .3O เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษานี้สำหรับสินค้าอื่น ๆ ความสัมพันธ์ที่พวกเขาควร > .20 (ไคลน์ 1986) เงื่อนไขที่ใช้สำหรับ loadings ปัจจัย: ปัจจัย loadings ควร > .3O และความแตกต่างระหว่างปัจจัย loadings สินค้ากับปัจจัยสองควร > .2O ถ้ารายการในระดับที่ให้ผล โดยวิเคราะห์ปัจจัยไม่เป็นไปตามเงื่อนไข จะถูกเอาออกจากเครื่องชั่งน้ำหนัก ดังนั้น สมดุล rhe ที่ถูกพบ และถูกดัดแปลงในการศึกษานี้มีสินค้าน้อยกว่าระดับที่พัฒนา โดยเบสผลลัพธ์มาตรการรวมนำภาวะ ทรานแซคชัน และ laissez-faireสถิติระดับสำหรับมิติของภาวะ ทรานแซคชัน และ laissez-faire เป็นผู้นำตามที่กำหนดไว้ โดยเบส & Avolio (1989) รายงานในตารางที่ 1 ภาวะผู้นำมี Cfof สูง.93 Ho'wever ภาวะผู้นำยังได้สินค้ามากที่สุด ระบบปฏิบัติการสำหรับธุรกรรมการ (60) และขนาด laissez-faire (. 49) ต่ำกว่าเกณฑ์.70เหตุผลที่ต่ำสุดที่วัดมูลคือแฝงบริหารโดยข้อยกเว้นในมาตราส่วนทรานแซคชันของเบส แม้ว่าผลการวิจัยของการศึกษาปัจจุบันแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง passive บริหารโดยยกเว้นและ transac tional ขนาดลบ เมื่อแฝงบริหารโดยข้อยกเว้นคือจากระดับตา เป็นของผู้นำธุรกรรมเพิ่มขึ้น.79 (ขนาดนี้จะมีแปด)ตารางที่ 1 มาตราส่วนสถิติในระดับทฤษฎีของเบสฉันภาวะผู้นำ:สินค้าลาเป็น =.95หมายความว่า = 3.03SD =.33เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างสินค้า.44 (ผลต่าง =.02) ช่วง ofitem – รวมความสัมพันธ์.32-.77 นำทรานแซคชัน II:รายการที่ 12 เป็น = -60หมายความว่า = 2.48SD =.62เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างสินค้า.12 (ผลต่าง =.06) ของความสัมพันธ์รวมสินค้า — .07-.46 III Laissez-faire นำ:สินค้า 4 ตัว =-49หมายความว่า = 2.34SD =.59เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างสินค้า.21 (ผลต่าง =.04) ของความสัมพันธ์รวมสินค้า.09-.4426 Deanne N, Hartog เดน JaapJ, Muifen และ Paul L, Koopman แวน

Results (Thai) 2:

การทำธุรกรรมกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง 2 5 การวิเคราะห์ปัจจัยองค์ประกอบหลักของข้อมูล MLQ ได้ทำเพื่อตรวจสอบว่าเป็นปัจจัยที่พบได้โดยเบสก็จะพบได้ในชุดข้อมูลของเรา อีกครั้งของครอนบาคและความสัมพันธ์ระหว่างรายการนี้จะถูกคำนวณ มาตรการรวมสำหรับการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมและไม่รู้ไม่ชี้ตามที่กำหนดโดยเบสมีความสัมพันธ์กับแต่ละอื่น ๆ และมีเกล็ดที่ได้มาจากการวิเคราะห์ปัจจัย. เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความสอดคล้องภายในของเครื่องชั่งเกณฑ์หลายถูกนำมาใช้ รายการที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ถูกปล่อยออกมาจากการวิเคราะห์ที่ตามมา นี้ทำเพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอของเครื่องชั่งที่ เกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ที่มักจะนำมาใช้ในการวิจัยและวรรณกรรม เกณฑ์แรกที่ใช้คือการที่ครอนบาค Cf ของขนาดที่ควรจะ> .7O (Nunally, 1967) นี้ดูเหมือนว่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความคิดทั่วไปในวรรณคดีของสิ่งที่ได้รับการยอมรับเป็นกะรัต เกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรายการเฉลี่ยอยู่ที่ว่าพวกเขาควรจะ> .3O เกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์สำหรับรายการที่เหลือนี้คือการที่พวกเขาควรจะ> 0.20 (Kline, 1986) เกณฑ์ที่ใช้ในการเติมปัจจัยคือปัจจัยที่เติมควรจะ> .3O และความแตกต่างระหว่าง loadings ปัจจัยของรายการกับสองปัจจัย shold จะ> .2O ถ้ารายการในเครื่องชั่งน้ำหนักผลโดยการวิเคราะห์ปัจจัยที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่พวกเขาจะถูกลบออกจากเครื่องชั่งน้ำหนัก ดังนั้น rhe เครื่องชั่งที่พบและปรับตัวในการศึกษานี้มีรายการน้อยกว่าตาชั่งเป็นที่พัฒนาโดยเบส. ผลมาตรการรวมสำหรับการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมและไม่รู้ไม่ชี้สถิติขนาดสำหรับขนาดของการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมและไม่รู้ไม่ชี้ตามที่กำหนดโดย Bass & Avolio (1989) จะมีการรายงานในตารางที่ 1 ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็น Cfof สูง 0.93 Ho'wever ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงนอกจากนี้ยังมีรายการมากที่สุด OS สำหรับการทำธุรกรรมที่ (0.60) และขนาดไม่รู้ไม่ชี้ (0.49) จะต่ำกว่า 0.70 เกณฑ์. เหตุผลที่ต่ำของการวัดการทำธุรกรรมก็คือการจัดการโดยยกเว้นเรื่อย ๆ อยู่ในเบส 'ขนาดการทำธุรกรรม แม้ว่าผลการวิจัยของการแสดงการศึกษาปัจจุบันที่ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการเรื่อย ๆ โดยข้อยกเว้นและมิติอื่น ๆ transac-tional เป็นเชิงลบ เมื่อเรื่อย ๆ จัดการโดยยกเว้นจะปล่อยออกมาจากระดับการทำธุรกรรมของการเป็นผู้นำในการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นไป 0.79 (ขนาดนี้จะมีแปดรายการ). ตารางที่ 1 สถิติชั่งสำหรับเบส 'เกล็ดทฤษฎีฉันภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง: รายการลา = 0.95 ค่าเฉลี่ย = 3.03 SD = 0.33 เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างรายการ 0.44 (แปรปรวน = 0.02) ช่วงความสัมพันธ์ ofitem-รวม 0.32-0.77 ครั้งที่สองเป็นผู้นำการทำธุรกรรม: 12 รายการ = -60 ค่าเฉลี่ย = 2.48 SD = 0.62 เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างรายการ 0.12 (แปรปรวน = 0.06) ช่วงของความสัมพันธ์รายการรวม -.07 ที่จะเป็นผู้นำที่สาม 0.46 ไม่รู้ไม่ชี้: 4 รายการใหม่ = -49 ค่าเฉลี่ย = 2.34 SD = 0.59 เฉลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างรายการ 21 (แปรปรวน = 0.04) ช่วงของความสัมพันธ์รายการรวม 0.09-0.44 26 Deanne N, Den ฮาร์ทอค, JaapJ แวน Muifen และพอล L, คูปแมน

Results (Thai) 3:

การแลกเปลี่ยนและภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง 2 5

ปัจจัยองค์ประกอบหลักของการวิเคราะห์ข้อมูล mlq ทำเพื่อตรวจสอบว่าองค์ประกอบที่พบโดยเบสจะยังสามารถพบได้ในข้อมูลชุดของเรา อีกครั้งของครอนบาค และความสัมพันธ์ระหว่างรายการได้ มาตรการสำหรับการรวม ,นโยบายการไม่แทรกเซงภาวะผู้นำการแลกเปลี่ยนและตามที่กำหนดโดยเบสมีความสัมพันธ์กับแต่ละอื่น ๆและมีเครื่องชั่งที่ได้จากการวิเคราะห์ปัจจัย

เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความสอดคล้องภายในของเครื่องชั่งหลายเงื่อนไขการใช้ รายการที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ถูกซ้ายออกของการวิเคราะห์ที่ตามมา นี้ได้เพิ่มค่าของระดับเกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษานี้เป็นผู้ที่ใช้บ่อยในงานวิจัยและวรรณกรรม ครั้งแรกที่ใช้เป็นเกณฑ์คำนวณ CF ขนาดควร > 7o ( นูนาลลี , 1967 ) นี้ดูเหมือนว่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความคิดทั่วไปในวรรณกรรมที่ CT ที่ยอมรับได้คือ เกณฑ์ที่ใช้โดยเฉลี่ยระหว่างรายการความสัมพันธ์ที่พวกเขาควรจะ > 30 .เกณฑ์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ สำหรับรายการเหลือความสัมพันธ์ที่พวกเขาควรจะ > 20 ( ไคลน์ , 1986 ) เกณฑ์ที่ใช้สำหรับองค์ประกอบครอบคลุม : ครอบคลุมปัจจัยที่ควร > 30 และความแตกต่างระหว่างปัจจัยภาระของรายการสองปัจจัยที่ใช้เป็น > เหลือง ถ้ารายการในระดับที่ให้ผลโดยการวิเคราะห์องค์ประกอบไม่ตรงกับเกณฑ์ที่พวกเขาถูกเอาออกจากเครื่องชั่งดังนั้นผู้ถูกเกล็ดที่พบในการศึกษานี้ ได้ปรับรายการน้อยกว่าระดับที่พัฒนาโดยเบส

ผล

โดยรวมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการเป็นผู้นำ , นโยบายการไม่แทรกเซง

ขนาดได้แก่ ขนาดของการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการไม่แทรกเซงภาวะผู้นำ , และตามที่กำหนดโดยเบส& Avolio ( 1989 ) การรายงานในตารางที่ 1ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็น cfof สูง 93 ho'wever ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีรายการมากที่สุด ระบบปฏิบัติการสำหรับธุรกรรม ( 60 ) และขนาด ( Laissez faire . 49 ) ด้านล่าง . 70 .

เหตุผลระดับของมาตรการการมีการจัดการที่เรื่อยๆโดยข้อยกเว้นในเบส ' ด้านขนาด