Rationale for Qualitative Research

Rationale for Qualitative Research Design
Although a few instruments have been developed to study servant leadership quantitatively (Brown, 2010; Laub, 1999; Page & Wong, 2000, 2003), most dissertations and articles have approached servant leadership study using some type of qualitative methodology, as discovered in the literature review of chapter 2. The rationale for this decision becomes clear through a brief review of qualitative research.
66
Definitions of qualitative research are as diverse as the researchers who use the method. Denzin and Lincoln (2005) offered an oft-quoted definition:
Qualitative research is a situated activity that locates the observer in the world. It consists of a set of interpretive, material practices that make the world visible. These practices transform the world. They turn the world into a series of representations, including fieldnotes, interviews, conversations, photographs, recordings, and memos to the self. At this level, qualitative research involves an interpretive, naturalistic approach to the world. This means that qualitative researchers study things in their natural settings, attempting to make sense of, or interpret, phenomena in terms of the meanings people bring to them. (p. 3)
Yet, as attractive and all-encompassing as qualitative research might sound in Denzin and Lincoln’s (2005) definition, qualitative research is not the right methodology for every situation. Creswell (2007) noted that qualitative research is the right tool when the researcher needs “a complex, detailed understanding of the issue” (p. 40). Qualitative research is appropriate when a thorough understanding can only be obtained by talking directly with people, visiting them in their homes or places of work, and allowing them to tell their own stories in their own words with a minimum of structure and constraint. Qualitative research is used, Creswell maintained, “when quantitative measures and the statistical analyses simply do not fit the problem” (p. 40). Marshall and Rossman (2011) and Bloomberg and Volpe (2008) echoed many of Denzin and Lincoln’s observations about the application of qualitative methods to research in fields such as education and the social sciences.
Qualitative research was selected as the methodology for this study because of the need to achieve a “complex, detailed understanding” (Creswell, 2007, p. 40) of the application of servant leadership principles to community college instructional administration. As cited in the literature review, other researchers have applied quantitative methods to the task, and a few have used qualitative methods to explore servant leadership principles in the behaviors of public school principals and college or university presidents, but a search for qualitative, detailed descriptions of the application of servant leadership principles to community college instructional administrators has proven fruitless. This qualitative study was a first effort toward filling that gap.

Results (Thai) 1:

เหตุผลสำหรับการออกแบบการวิจัยเชิงคุณภาพแม้ว่าเครื่องมือไม่กี่ได้รับการพัฒนาเพื่อศึกษาเป็นผู้นำข้าราชการ quantitatively (สีน้ำตาล 2010 Laub, 1999 หน้าและวง 2000, 2003), dissertations และบทความส่วนใหญ่มีเวลาศึกษานำข้าราชการที่ใช้บางชนิดของวิธีการเชิงคุณภาพ ที่พบในการทบทวนวรรณกรรมของบทที่ 2 เหตุผลในการตัดสินใจนี้กลายเป็นชัดเจน โดยสรุปย่อของการวิจัยเชิงคุณภาพ66คำนิยามของการวิจัยเชิงคุณภาพมีความหลากหลายที่นักวิจัยที่ใช้วิธีการ Denzin และลินคอล์น (2005) นำเสนอข้อกำหนดของ oft เสนอราคา:การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นกิจกรรมแห่งที่ตั้งอยู่ที่แหล่งในโลก มันประกอบด้วยชุดปฏิบัติ interpretive วัสดุที่ทำให้โลกมองเห็น แนวทางปฏิบัติเหล่านี้เปลี่ยนโลก พวกเขาเปิดโลกเป็นชุดนำเสนอ รวมทั้ง fieldnotes สัมภาษณ์ สนทนา ถ่ายภาพ บันทึก และบันทึกเพื่อตนเอง ในระดับนี้ การวิจัยเชิงคุณภาพเกี่ยวข้องกับวิธีการ interpretive, naturalistic ไปทั่วโลก ซึ่งหมายความ ว่า นักวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาสิ่งต่าง ๆ ในการตั้งค่าของธรรมชาติ พยายามทำความเข้าใจการ หรือ แปล ปรากฏการณ์ในแง่ของความหมายที่คนนำไป (p. 3)ยัง น่าสนใจ และท่านเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพอาจเสียงของลินคอล์นและ Denzin (2005) การกำหนด การวิจัยเชิงคุณภาพไม่ได้วิธีที่เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ Creswell (2007) กล่าวว่า การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นมือขวาเมื่อนักวิจัยต้องการ "ความซับซ้อน รายละเอียดเข้าใจปัญหา" (p. 40) การวิจัยเชิงคุณภาพเหมาะสมเมื่อเท่านั้นได้รับความเข้าใจอย่างละเอียด โดยพูดคุยโดยตรงกับคน เข้าเยี่ยมชมในบ้านหรือสถานทำงานของพวกเขา และอนุญาตให้บอกเรื่องราวของตนเองในคำของตนเองกับต่ำสุดของโครงสร้างและข้อจำกัด การวิจัยเชิงคุณภาพใช้ รักษา Creswell, "วัดเชิงปริมาณและการวิเคราะห์ทางสถิติเพียงพอดีกับปัญหา" (p. 40) มาร์แชลล์ และ Rossman (2011) และอาร์ซี และ Volpe (2008) ได้พูดย้ำหลายของลินคอล์นและ Denzin สังเกตเกี่ยวกับการใช้วิธีการเชิงคุณภาพการวิจัยในการศึกษาและสังคมศาสตร์การวิจัยเชิงคุณภาพได้รับคัดเลือกวิธีการสำหรับการศึกษานี้เนื่องจากต้องการให้มีความ "ซับซ้อน รายละเอียดเข้าใจ" (Creswell, 2007, p. 40) ของโปรแกรมประยุกต์ของหลักการเป็นผู้นำของข้าราชการวิทยาลัยจัดการเรียนการสอน อ้างในการทบทวนวรรณกรรม เป็นนักวิจัยอื่น ๆ ได้ประยุกต์ใช้วิธีการเชิงปริมาณงาน และกี่ได้ใช้วิธีการเชิงคุณภาพเพื่อสำรวจข้าราชการนำหลักในลักษณะการทำงานแบบโรงเรียนและวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยประธานาธิบดี แต่การค้นหาคำอธิบายเชิงคุณภาพ รายละเอียดของโปรแกรมประยุกต์ของหลักการเป็นผู้นำของข้าราชการผู้ดูแลจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยชุมชนได้พิสูจน์ fruitless การศึกษาเชิงคุณภาพนี้เป็นความพยายามแรกต่อเติมช่องว่างนั้น

Results (Thai) 2:

เหตุผลสำหรับการออกแบบการวิจัยเชิงคุณภาพแม้ว่าเครื่องดนตรีไม่กี่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาความเป็นผู้นำคนรับใช้ในเชิงปริมาณ (บราวน์ 2010; Laub 1999; หน้าและวงศ์, 2000, 2003) สาธยายมากที่สุดและบทความที่ได้เดินเข้ามาศึกษาความเป็นผู้นำผู้รับใช้ที่ใช้ประเภทของวิธีการเชิงคุณภาพบาง ขณะที่ค้นพบในการทบทวนวรรณกรรมในบทที่ 2 เหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้กลายเป็นที่ชัดเจนผ่านการทบทวนการวิจัยเชิงคุณภาพ. 66 ความหมายของการวิจัยเชิงคุณภาพที่มีความหลากหลายเป็นนักวิจัยที่ใช้วิธีการ Denzin และลิงคอล์น (2005) นำเสนอความหมายผู้ทรงยกมา: การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นกิจกรรมที่ตั้งอยู่ที่ตั้งอยู่สังเกตการณ์ในโลก มันประกอบด้วยชุดของสื่อความหมายการปฏิบัติวัสดุที่ทำให้โลกที่มองเห็น วิธีการเหล่านี้เปลี่ยนแปลงโลก พวกเขาหันโลกเป็นชุดของการแสดงรวมถึงการบันทึกภาคสนามสัมภาษณ์การสนทนา, รูปถ่าย, บันทึกและบันทึกช่วยจำเพื่อตัวเอง ในระดับนี้การวิจัยเชิงคุณภาพเกี่ยวข้องกับการสื่อความหมายวิธีธรรมชาติไปทั่วโลก ซึ่งหมายความว่านักวิจัยเชิงคุณภาพการศึกษาสิ่งที่อยู่ในการตั้งค่าธรรมชาติของพวกเขาพยายามที่จะทำให้ความรู้สึกของความหรือตีความปรากฏการณ์ในแง่ของความหมายที่คนนำมาให้กับพวกเขา (น. 3) แต่เป็นที่น่าสนใจและครอบคลุมทุกการวิจัยเชิงคุณภาพอาจจะฟังใน Denzin และลิงคอล์น (2005) นิยามการวิจัยเชิงคุณภาพไม่ได้เป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์ Creswell (2007) ตั้งข้อสังเกตว่าการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมเมื่อนักวิจัยความต้องการ "ที่ซับซ้อนเข้าใจรายละเอียดของปัญหา" (พี. 40) การวิจัยเชิงคุณภาพมีความเหมาะสมเมื่อมีความเข้าใจอย่างละเอียดเท่านั้นที่สามารถรับได้โดยการพูดคุยโดยตรงกับคนที่เข้ามาเยี่ยมชมพวกเขาในบ้านหรือสถานที่ของการทำงานของพวกเขาและช่วยให้พวกเขาที่จะบอกเรื่องราวของตัวเองในคำพูดของตัวเองที่มีขั้นต่ำของโครงสร้างและข้อ จำกัด การวิจัยเชิงคุณภาพคือการใช้การบำรุงรักษา Creswell "เมื่อมาตรการเชิงปริมาณและการวิเคราะห์ทางสถิติก็ไม่พอดีกับปัญหาที่เกิดขึ้น" (พี. 40) มาร์แชลล์และรอสส์แมน (2011) และบลูมเบิร์กและโวลเป (2008) สะท้อนหลาย Denzin และลินคอล์นข้อสังเกตเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วิธีเชิงคุณภาพเพื่อการวิจัยในสาขาเช่นการศึกษาและสังคมศาสตร์. การวิจัยเชิงคุณภาพได้รับเลือกเป็นวิธีการที่ใช้ในการศึกษานี้เพราะ ความต้องการที่จะประสบความสำเร็จ "ที่ซับซ้อนเข้าใจรายละเอียด" (Creswell, 2007, น. 40) ของการประยุกต์ใช้หลักการเป็นผู้นำคนรับใช้วิทยาลัยชุมชนการบริหารการเรียนการสอน ในฐานะที่อ้างถึงในการทบทวนวรรณกรรมที่นักวิจัยอื่น ๆ ได้นำมาใช้วิธีการเชิงปริมาณกับงานและไม่กี่ได้ใช้วิธีการเชิงคุณภาพในการสำรวจหลักการเป็นผู้นำคนรับใช้ในพฤติกรรมของผู้บริหารโรงเรียนของประชาชนและวิทยาลัยหรืออธิการบดีมหาวิทยาลัย แต่การค้นหาที่มีคุณภาพ, คำอธิบายโดยละเอียด ของการประยุกต์ใช้หลักการเป็นผู้นำคนรับใช้ผู้บริหารวิทยาลัยชุมชนการเรียนการสอนได้รับการพิสูจน์ไร้ผล การศึกษาเชิงคุณภาพนี้เป็นความพยายามแรกในการเติมช่องว่างที่

Results (Thai) 3:

เหตุผลสำหรับ
การออกแบบงานวิจัยเชิงคุณภาพแม้ว่าไม่กี่เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาภาวะผู้นำเชิงปริมาณ ( สีน้ำตาล , 2010 ; laub , 1999 ; หน้า&วงศ์ , 2000 , 2003 ) , วิทยานิพนธ์และบทความส่วนใหญ่ได้เข้าหาการศึกษาภาวะผู้นำที่ใช้บางชนิดของวิธีการเชิงคุณภาพ เช่น ค้นพบในการทบทวนวรรณกรรม บทที่ 2เหตุผลในการตัดสินใจ นี้จะกลายเป็นชัดเจน ผ่านรีวิวสั้น ๆของวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ .
66
ความหมายของการวิจัยเชิงคุณภาพมีความหลากหลายเป็นนักวิจัยที่ใช้วิธี denzin ลินคอล์น ( 2005 ) เสนอๆยกมาคำนิยาม :
การวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นกิจกรรมที่ ตั้งอยู่ ตั้งอยู่ในการสังเกตการณ์โลก ประกอบด้วยชุดของวิธีการตีความวัสดุการปฏิบัติที่ทำให้โลกที่มองเห็น แนวทางปฏิบัติเหล่านี้เปลี่ยนโลก พวกเขาเปลี่ยนโลกให้เป็นชุดการแสดง รวมทั้ง การ สัมภาษณ์ บทสนทนา ภาพถ่าย บันทึก และบันทึกเพื่อตนเอง ในระดับนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการอธิบายวิธีการทางธรรมชาติในโลกนี่หมายความว่า นักวิจัยศึกษาสิ่งต่าง ๆในการตั้งค่าตามธรรมชาติของพวกเขาและพยายามที่จะเข้าใจ หรือตีความปรากฏการณ์ในแง่ของความหมายคนพาพวกเขา ( หน้า 3 )
ยังเป็นที่น่าสนใจและครอบคลุมทั้งหมด เช่น การวิจัยเชิงคุณภาพอาจเสียงใน denzin ลินคอล์น ( 2005 ) ความหมายของการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์เคร วล ( 2550 ) กล่าวว่า การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมเมื่อนักวิจัยต้องการ " ซับซ้อน เข้าใจในรายละเอียดของปัญหา " ( หน้า 40 ) การวิจัยเชิงคุณภาพมีความเหมาะสมเมื่อความเข้าใจเท่านั้นที่สามารถได้รับโดยการพูดคุยโดยตรงด้วยคน เยี่ยมชมพวกเขาในบ้านหรือสถานที่ของการทำงานและช่วยให้พวกเขาที่จะบอกเรื่องราวของพวกเขาเองในคำพูดของตัวเองที่มีขั้นต่ำของโครงสร้างและการจำกัด การวิจัยเชิงคุณภาพใช้เคร วล , รักษา , " เมื่อมาตรการเชิงปริมาณ และการวิเคราะห์ทางสถิติก็ไม่เหมาะกับปัญหา " ( หน้า 40 )มาร์แชล รอสเมิ่น ( 2011 ) และ บลูมเบิร์ก และสิ่งอำนวยความสะดวก ( 2008 ) สะท้อนหลาย denzin ลินคอล์นก็สังเกตเกี่ยวกับการประยุกต์วิธีการเชิงคุณภาพในการวิจัยในด้านต่างๆเช่นการศึกษาและสังคมศาสตร์ .
การวิจัยเชิงคุณภาพได้ถูกเลือกเป็น วิธีการศึกษาครั้งนี้เนื่องจากต้องการบรรลุ " ซับซ้อน เข้าใจรายละเอียด” เคร วล , 2550 , หน้า40 ) ของการประยุกต์หลักการภาวะผู้นำเพื่อการบริหารงานวิทยาลัยการสอนในชุมชน เมื่อกล่าวถึงในวรรณกรรม นักวิจัยอื่น ๆ ได้ใช้วิธีเชิงปริมาณเพื่องาน และไม่ได้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อศึกษาหลักการภาวะผู้นำในพฤติกรรมของประชาชน ผู้บริหารโรงเรียนและวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยประธานาธิบดีแต่การค้นหาคุณภาพรายละเอียดของหลักการความเป็นผู้นำผู้รับใช้ชุมชนวิทยาลัยการสอนผู้บริหารได้พิสูจน์แล้วว่าไร้ผล . การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีความพยายามอุดช่องว่างนั้น