Feeling stressed? You’re not alone.

Feeling stressed? You’re not alone. A 2013 survey by the APA found that stress is extremely common among teenagers. Teenagers who responded to the survey report they’re experiencing what they think are unhealthy levels of stress, especially during the school year.
In fact, school is the top source of stress for teens. Getting into a good college or deciding what to do after high school is the second-biggest source of tension.
The mind and body are closely connected, and stress can affect the body from head to toe. And in fact, the survey found teens experience both emotional and physical symptoms of stress. Common symptoms include feeling nervous or anxious, feeling tired, procrastinating or neglecting responsibilities, feeling overwhelmed, having negative thoughts and experiencing changes in sleeping habits. Problems with concentrating and changes in eating habits (eating too much or too little) are also linked to stress.
It’s normal to have some stress in life. But if stress persists at high levels for a long time, it can have lasting negative effects on health. Chronic (long-term) stress can cause anxiety, high blood pressure and a weakened immune system, and can contribute to diseases such as depression, obesity and heart disease.
Everyone is affected by stress at one time or another, and it can feel overwhelming. With the right tools, though, you can learn to manage stress before it takes a toll on your health. Managing daily stress can also lead to a more overall positive outlook on your life and well-being.
Move your body.
Physical activity is one of the most effective stress busters. That doesn’t mean you have to go for a jog if you hate running. Find activities you enjoy and build them into your routine such as yoga, hiking, biking, skateboarding or walking. The best types of physical activities are those that have a social component. Whether you’re into team sports, or prefer kayaking or rollerblading with a friend or two, you’re more likely to have fun — and keep at it — if you’re being active with friends.
Get enough shut-eye.
Between homework, activities and hanging with friends, it can be hard to get enough sleep, especially during the school week. Ideally, adolescents should get nine hours a night. Most teens, though, are getting less. According to APA’s Stress in America Survey, teens say they sleep an average of just 7.4 hours on a school night. That’s unfortunate, since sleep is key for both physical and emotional well-being. To maximize your chance of sleeping soundly, cut back on watching TV or engaging in a lot of screen time in the late evening hours. Don’t drink caffeine late in the day and try not to do stimulating activities too close to bedtime.
Strike a balance.
School is important, but it’s not everything. When you plan your week, schedule time to get schoolwork done, but also schedule time to have fun. When it’s time to enjoy yourself, try not to worry about school or homework. Focus on having fun.
Enjoy yourself.
Besides physical activities, find other hobbies or activities that bring you joy. That might be listening to music, going to the movies or drawing. Make a point to keep doing these things even when you’re stressed and busy.
Let yourself shine.
Spend some time really thinking about the things you’re good at, and find ways to do more of those things. If you’re a math ace, you might tutor a younger neighbor who’s having trouble with the subject. If you are a spiritual person, you might volunteer at your church. If you’re artistic, take a photography class. Focusing on your strengths will help you keep your stresses in perspective.
Talk through it.
It’s so much easier to manage stress when you let others lend a hand. Talk to a parent, teacher or other trusted adult. They may be able to help you find new ways to manage stress. Or they may help put you in touch with a psychologist who is trained in helping people make healthy choices and manage stress.

Results (Thai) 1:

รู้สึกเครียด คุณไม่เพียงอย่างเดียว การสำรวจปี 2013 โดยอาป้าจะพบว่าความเครียดทั่วไปมากในหมู่วัยรุ่น วัยรุ่นที่ตอบแบบสำรวจรายงานพวกเขากำลังประสบกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่า จะไม่แข็งแรงระดับความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างปีโรงเรียนในความเป็นจริง โรงเรียนเป็นแหล่งที่มาของความเครียดวัยรุ่นด้านบน การเป็นวิทยาลัยที่ดี หรือการตัดสินใจที่จะทำอย่างไรหลังจากมัธยม ต้นที่สองที่ใหญ่ที่สุดของความตึงเครียดจิตใจและร่างกายได้เชื่อมต่ออย่างใกล้ชิด และความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า และในความเป็นจริง การสำรวจพบวัยรุ่นประสบการณ์อาการความเครียดทางอารมณ์ และทางกายภาพ อาการที่พบบ่อยได้แก่ความรู้สึกประสาท หรือวิตก กังวล รู้สึกเหนื่อย procrastinating หรือ neglecting รับผิดชอบ รู้สึกจม มีความคิดลบ และพบการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการนอนหลับ ปัญหา concentrating และเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหารนิสัย (กินมากเกินไป หรือน้อยเกินไป) ยังเชื่อมโยงกับความเครียดเป็นเรื่องปกติที่มีความเครียดบางอย่างในชีวิต แต่ถ้าความเครียดยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน มันจะมีผลลบยั่งยืนสุขภาพ เครียดเรื้อรัง (ระยะยาว) อาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ความดันโลหิตสูง และระบบภูมิคุ้มกันอย่างไร และสามารถนำไปสู่โรคซึมเศร้า โรคอ้วน และโรคหัวใจทุกคนได้รับผลจากความเครียดครั้งเดียวหรืออื่น และรู้สึกครอบงำ ด้วยเครื่องมือขวา แม้ คุณสามารถเรียนรู้การจัดการความเครียดก่อนใช้โทรในสุขภาพของคุณ การจัดการความเครียดทุกวันยังสามารถนำไปเพิ่มเติมโดยรวมบวกในชีวิตและสุขภาพของคุณย้ายร่างกายของคุณ กิจกรรมทางกายภาพเป็นหนึ่งในผู้ช่วยทำลายความเครียดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ได้หมายความ คุณต้องไปแซมถ้าคุณเกลียดการทำงาน ค้นหากิจกรรมที่คุณเพลิดเพลิน และสร้างเป็นงานประจำของคุณเช่นโยคะ เดินป่า ขี่จักรยาน สเก็ตบอร์ด หรือเดิน ชนิดของกิจกรรมทางกายภาพดีที่สุดคือผู้ที่มีส่วนประกอบทางสังคม ไม่ว่าคุณกำลังเป็นทีมกีฬา หรือต้องการพายเรือคายัคหรือเล่นโรลเลอร์เบลดกับเพื่อนหรือสอง คุณยิ่งสนุก — และเก็บได้ — ถ้าคุณต้องการเข้ากับเพื่อนShut-eye พอได้ ระหว่างบ้าน กิจกรรม และแขวนกับเพื่อน จะสามารถยากที่จะได้นอนหลับเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์โรงเรียน ดาว วัยรุ่นควรได้รับคืนเก้าชั่วโมง วัยรุ่นส่วนใหญ่ แต่ ได้รับน้อย ตามความเครียดของอาป้าในอเมริกาสำรวจ วัยรุ่นว่า พวกเขานอนหลับโดยเฉลี่ยเพียง 7.4 ชั่วโมงในคืนโรงเรียน นั่นคือโชคร้าย เนื่องจากการนอนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกาย และอารมณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสของคุณนอนหลับสนิท ตัดกลับมาดูทีวี หรือในหน้าจอเวลาในเวลาเย็น ไม่ดื่มคาเฟอีนในวัน และพยายามที่ไม่ทำกิจกรรมที่กระตุ้นใกล้เวลาเข้านอนความสมดุลโรงเรียนเป็นสำคัญ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง เมื่อคุณวางแผนของสัปดาห์ จัดกำหนดการเวลารับ schoolwork ทำ แต่ยัง กำหนดเวลาสนุก เมื่อถึงเวลาสนุกกับตัวเอง พยายามไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโรงเรียนหรือการบ้าน เน้นสนุกสนานสนุกกับตัวเอง นอกจากกิจกรรมทางกายภาพ ค้นหาอื่น ๆ งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ทำให้คุณสุข ที่อาจจะฟังเพลง ไปภาพยนตร์ หรือรูปวาด ทำให้จุดให้ทำสิ่งเหล่านี้แม้เมื่อคุณกำลังเครียด และวุ่นวายปล่อยตัวขัด ใช้เวลาจริง ๆ ความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังที่ดี และหาวิธีที่จะทำสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น ถ้าคุณเอคณิตศาสตร์ คุณอาจกวดวิชาเพื่อนบ้านคนที่มีปัญหาในเรื่อง ถ้าคุณเป็นคนที่จิตวิญญาณ คุณอาจอาสาที่คริสตจักรของคุณ ถ้าคุณศิลปะ ใช้เรียนถ่ายภาพ เน้นจุดแข็งของคุณจะช่วยให้ความเครียดในมุมมองพูดคุยผ่านมัน เป็นมากง่ายต่อการจัดการความเครียดเมื่อคุณให้ผู้อื่นยืมมือ พูดคุยกับหลัก ครูหรืออื่น ๆ ไว้ใจผู้ใหญ่ พวกเขาอาจสามารถช่วยคุณค้นหาวิธีใหม่ในการจัดการความเครียด หรืออาจช่วยทำให้คุณติดต่อกับจิตวิทยาผู้ฝึกอบรมในการช่วยให้คนที่เลือกเพื่อสุขภาพ และจัดการความเครียด

Results (Thai) 2:

รู้สึกเครียด? คุณไม่ได้โดดเดี่ยว. การสำรวจ 2013 โดยเอแอนด์พบว่าความเครียดเป็นเรื่องธรรมดามากในหมู่วัยรุ่น วัยรุ่นที่ตอบสนองต่อรายงานการสำรวจที่พวกเขากำลังประสบกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นระดับที่ไม่แข็งแรงของความเครียดโดยเฉพาะในช่วงปีที่โรงเรียน.
ในความเป็นจริงโรงเรียนเป็นแหล่งที่ด้านบนของความเครียดสำหรับวัยรุ่น การเดินทางเข้าวิทยาลัยที่ดีหรือการตัดสินใจว่าจะทำหลังจากที่โรงเรียนมัธยมเป็นแหล่งใหญ่อันดับที่สองของความตึงเครียด.
จิตใจและร่างกายที่มีการเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดและความเครียดจะมีผลต่อร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า และในความเป็นจริงการสำรวจพบวัยรุ่นสัมผัสทั้งอาการทางอารมณ์และร่างกายของความเครียด อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ความรู้สึกประสาทหรือวิตกกังวลรู้สึกเหนื่อย procrastinating หรือละเลยความรับผิดชอบรู้สึกจมมีความคิดเชิงลบและประสบการเปลี่ยนแปลงในนิสัยการนอน ปัญหาเกี่ยวกับการมุ่งเน้นและการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการกิน (กินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป) นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับความเครียด.
เป็นเรื่องปกติที่จะมีความเครียดในชีวิตของบางคน แต่ถ้ายังคงมีความเครียดอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานก็สามารถได้ยาวนานผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพ เรื้อรัง (ระยะยาว) ความเครียดสามารถทำให้เกิดความวิตกกังวลความดันโลหิตสูงและระบบภูมิคุ้มกันลดลงและสามารถนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่นโรคซึมเศร้าโรคอ้วนและโรคหัวใจ.
ทุกคนได้รับผลกระทบจากความเครียดในครั้งเดียวหรืออื่นและจะสามารถรู้สึกครอบงำ . ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม แต่คุณสามารถเรียนรู้ในการจัดการความเครียดก่อนที่จะโทรต่อสุขภาพของคุณ การจัดการความเครียดในชีวิตประจำวันนอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่มุมมองเชิงบวกโดยรวมมากขึ้นในชีวิตของคุณและความเป็นอยู่.
ย้ายร่างกายของคุณ.
การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในความเครียดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดบัสเตอร์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องไปสำหรับการเขย่าเบา ๆ ถ้าคุณเกลียดการทำงาน หากิจกรรมที่คุณชอบและสร้างให้เป็นกิจวัตรประจำวันของคุณเช่นโยคะ, เดินป่า, จักรยาน, สเก็ตบอร์ดหรือเดิน ชนิดที่ดีที่สุดของกิจกรรมการออกกำลังกายเป็นคนที่มีองค์ประกอบทางสังคม ไม่ว่าคุณจะเป็นกีฬาทีมเรือคายัคหรือชอบหรือโรลเลอร์กับเพื่อนหรือสองคุณมีแนวโน้มที่จะมีความสนุกสนาน - และเก็บที่มัน - ถ้าคุณกำลังถูกใช้งานกับเพื่อน ๆ .
รับพอปิดตา.
ระหว่างบ้าน กิจกรรมและแขวนอยู่กับเพื่อนก็ยากที่จะได้รับการนอนหลับเพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่โรงเรียน จะเป็นการดีที่วัยรุ่นควรจะได้รับเก้าชั่วโมงต่อคืน วัยรุ่นส่วนใหญ่แม้ว่าจะได้รับน้อย ตามที่ APA ความเครียดในการสำรวจอเมริกาวัยรุ่นกล่าวว่าพวกเขานอนหลับเฉลี่ยเพียง 7.4 ชั่วโมงในคืนโรงเรียน ที่โชคร้ายเนื่องจากการนอนหลับเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทั้งทางร่างกายและอารมณ์เป็นอยู่ที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสของการนอนหลับอุตุตัดกลับดูทีวีหรือมีส่วนร่วมในจำนวนมากเวลาหน้าจอในเวลาค่ำ ไม่ดื่มคาเฟอีนสายในวันและพยายามที่จะไม่ทำกิจกรรมกระตุ้นใกล้เกินไปนอน.
สมดุล.
โรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ทุกอย่าง เมื่อคุณวางแผนของสัปดาห์เวลาที่กำหนดจะได้รับการเรียนทำ แต่ยังกำหนดตารางเวลาที่จะมีความสนุกสนาน เมื่อถึงเวลาที่จะสนุกกับตัวเองพยายามที่จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโรงเรียนหรือบ้าน มุ่งเน้นไปที่การมีความสนุกสนาน.
สนุกกับตัวเอง.
นอกจากนี้กิจกรรมการออกกำลังกายหางานอดิเรกหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีความสุข ที่อาจจะฟังเพลงที่จะไปดูหนังหรือภาพวาด ทำให้จุดที่จะให้ทำสิ่งเหล่านี้แม้ในขณะที่คุณกำลังเครียดและวุ่นวาย.
ปล่อยให้ตัวเองส่องแสง.
ใช้เวลาจริงๆคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังดีที่และหาวิธีที่จะทำมากขึ้นในสิ่งเหล่านั้น ถ้าคุณเก่งคณิตศาสตร์, ครูสอนพิเศษที่คุณอาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่อายุน้อยกว่าผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง หากคุณเป็นคนที่จิตวิญญาณของคุณอาจอาสาสมัครที่คริสตจักร หากคุณศิลปะจะเรียนถ่ายภาพ การมุ่งเน้นที่จุดแข็งของคุณจะช่วยให้คุณความเครียดของคุณในมุมมอง.
พูดคุยผ่านมัน.
มันง่ายมากที่จะจัดการกับความเครียดเมื่อคุณปล่อยให้คนอื่นยืมมือ พูดคุยกับผู้ปกครองครูหรือผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ พวกเขาอาจจะสามารถช่วยให้คุณหาวิธีการใหม่ในการจัดการความเครียด หรือพวกเขาอาจจะช่วยทำให้คุณอยู่ในการติดต่อกับนักจิตวิทยาที่ได้รับการฝึกฝนในการช่วยให้ผู้คนให้ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและการจัดการความเครียด

Results (Thai) 3:

รู้สึกเครียด คุณไม่ได้อยู่คนเดียว เป็นปี 2013 โดย APA สำรวจพบว่า ความเครียดเป็นเรื่องธรรมดามากในหมู่วัยรุ่น วัยรุ่นที่ตอบสนองต่อรายงานผลการสำรวจที่พวกเขากำลังประสบกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่แข็งแรงระดับความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีโรงเรียน .
ในความเป็นจริง โรงเรียนอยู่ด้านบนแหล่งที่มาของความเครียดสำหรับวัยรุ่นเข้ามหาลัยที่ดีหรือตัดสินใจทำอะไร หลังจากที่โรงเรียนมัธยมเป็นแหล่งที่สองที่ใหญ่ที่สุดของความตึงเครียด .
จิตใจและร่างกายมีการเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดกับความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า และในความเป็นจริง ผลการสำรวจพบประสบการณ์ทั้งทางกายและอารมณ์ อาการของความเครียดของวัยรุ่น อาการทั่วไป ได้แก่ รู้สึกเครียดหรือกังวล รู้สึกเหนื่อยผัดวันประกันพรุ่ง หรือละเลยหน้าที่ ความรู้สึกตื้นตัน มีความคิดที่เป็นลบ และพบการเปลี่ยนแปลงในนิสัยการนอน . ปัญหากับการมุ่งเน้นและการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการกิน ( กินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ) ยังเชื่อมโยงกับความเครียด .
มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีความเครียดในชีวิต แต่ถ้าความเครียดยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานมันสามารถมีผลกระทบยาวนานเกี่ยวกับสุขภาพ เรื้อรัง ( ระยะยาว ) ความเครียดสามารถก่อให้เกิดความวิตกกังวล ความดันโลหิตสูง และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และสามารถนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า โรคอ้วน และโรคหัวใจ
ทุกคนได้รับผลกระทบจากความเครียดที่หนึ่งครั้งหรืออื่นและอาจรู้สึกยุ่งยาก ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม แม้ว่าคุณสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดก่อนใช้โทรในสุขภาพของคุณ การจัดการความเครียดทุกวันยังสามารถนำไปสู่แนวโน้มโดยรวมบวกมากขึ้นในชีวิตของคุณและความเป็นอยู่
ย้ายร่างกายของคุณ
กิจกรรมทางกายเป็นหนึ่งใน Busters ความเครียดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นั่นไม่ได้หมายความว่า เธอต้องออกไปวิ่ง ถ้าคุณเกลียดการวิ่ง หากิจกรรมที่คุณเพลิดเพลิน และสร้างเป็นรูทีนของคุณเช่นโยคะ , เดินป่าจักรยาน สเก็ตบอร์ด หรือเดิน ชนิดที่ดีที่สุดของกิจกรรมทางกายภาพที่มีองค์ประกอบของสังคม ไม่ว่าคุณจะเป็นกีฬาทีมหรือชอบพายเรือ หรือเล่นโรลเลอร์เบลดกับเพื่อนหรือสอง คุณมีโอกาสมากขึ้นที่จะมีความสนุกสนานและเก็บไว้ที่ - ถ้าคุณกำลังใช้งานกับเพื่อน ๆ .
พอปิดตา
ระหว่างบ้าน , กิจกรรมและแขวนกับเพื่อนมันอาจจะยากที่จะได้รับการนอนหลับที่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่โรงเรียน ใจกลาง วัยรุ่นควรได้รับเก้าชั่วโมงต่อคืน วัยรุ่นส่วนใหญ่ แม้ว่า จะได้รับน้อยลง ตาม EPA ของความเครียดในวัยรุ่นอเมริกาสำรวจกล่าวว่าพวกเขานอนหลับเฉลี่ยเพียง 7.4 ชั่วโมงในคืนโรงเรียน น่าเสียดาย เนื่องจากนอนเป็นหลัก ทั้งทางกายภาพและอารมณ์เป็นอยู่ที่ดี .เพื่อเพิ่มโอกาสของหลับสนิท ตัดกลับในการดูทีวี หรือ มีส่วนร่วมใน มากของเวลาที่หน้าจอในช่วงเวลาเย็น อย่าดื่มคาเฟอีนในช่วงสายของวันและพยายามที่จะไม่ทำกิจกรรม stimulating เกินไปใกล้เวลานอน ความสมดุล
.
โรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ทุกอย่าง เมื่อคุณวางแผนสัปดาห์ของคุณ กำหนดเวลาที่จะได้รับการบ้านเสร็จแล้ว แต่ยังกำหนดเวลาที่จะมีความสนุกสนานเมื่อมันถึงเวลาที่จะสนุกกับตัวเอง พยายามไม่กังวลเรื่องเรียน หรือทำการบ้าน เน้นสนุก
สนุกกับตัวเอง
นอกจากกิจกรรมทางกาย หางานอดิเรกอื่น ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุข อาจจะฟังเพลง ไปดูหนัง หรือการวาดภาพ ทำให้จุดที่จะทำสิ่งเหล่านี้เมื่อคุณกำลังเครียดและยุ่ง
ปล่อยให้ตัวเองส่องแสง
ใช้เวลาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณถนัดและหาวิธีที่จะทำสิ่งเหล่านั้น ถ้าคุณเป็นคณิตศาสตร์ Ace , คุณอาจจะ กวดวิชา เป็นคนบ้านเดียวกัน ใครมีปัญหากับเรื่อง หากคุณเป็นคนจิตวิญญาณ คุณอาจเป็นอาสาสมัครที่โบสถ์ของคุณ ถ้าคุณเป็นศิลปิน ไปเรียนวิชาถ่ายภาพ . เน้นจุดแข็งของคุณจะช่วยให้คุณรักษาความเครียดของคุณในมุมมอง
พูดคุยผ่านมัน
มันง่ายมากที่จะจัดการกับความเครียดเมื่อคุณปล่อยให้คนอื่นยืมมือ พูดคุยกับพ่อแม่ ครู หรืออื่น ๆ เชื่อผู้ใหญ่ พวกเขาอาจจะสามารถช่วยให้คุณค้นหาวิธีใหม่ในการจัดการความเครียด หรือพวกเขาอาจช่วยให้คุณในการติดต่อกับนักจิตวิทยาที่มีการฝึกอบรมในการช่วยคนเลือกทางเลือกเพื่อสุขภาพและการจัดการความเครียด