Medical decision-making at the end

Medical decision-making at the end of life is increasingly becoming a matter of public policy, especially in developed countries with aging populations and rising incidence of chronic diseases.1 The progress and proliferation of medical technology in critical care allows physicians to provide more options to their patients in the resolution of these cases. At the same time, the growing emphasis on human rights and quality of life allows patients to take a greater role in deciding how their cases will be resolved. While such life-or-death decisions are not easily made under any circumstances, the situation is
further complicated when a patient is not capable of participating directly in the decision-making process. A properly executed advance health care directive (AD) by the patient would, in theory, alleviate much of the uncertainty that often paralyzes physicians and family members (or other surrogate decision-makers) and facilitate the resolution that best reflects the patient’s true wishes.2 Accordingly, policy-makers have a compelling interest in encouraging the use of ADs in clinical settings.

Results (Thai) 1:

แพทย์ตัดสินใจที่ส่วนท้ายของชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องของการกำหนดนโยบายสาธารณะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีประชากรอายุและอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของ diseases.1 เรื้อรังความคืบหน้าและการแพร่กระจายของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการดูแลที่สำคัญช่วยให้แพทย์เพื่อให้ตัวเลือกมากขึ้นในการ ผู้ป่วยของพวกเขาในความละเอียดของกรณีเหล่านี้ ในเวลาเดียวกันเน้นการเติบโตในสิทธิมนุษยชนและมีคุณภาพชีวิตที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่จะมีบทบาทที่มากขึ้นในการตัดสินใจเลือกวิธีกรณีของพวกเขาจะได้รับการแก้ไข ในขณะที่การตัดสินใจชีวิตหรือตายดังกล่าวจะไม่ได้ทำอย่างง่ายดายภายใต้สถานการณ์ใดสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
เมื่อผู้ป่วยจะไม่สามารถมีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการตัดสินใจสั่งการดูแลสุขภาพล่วงหน้าดำเนินการอย่างถูก (โฆษณา) โดยผู้ป่วยจะในทางทฤษฎีบรรเทามากของความไม่แน่นอนที่มักจะเป็นอัมพาตแพทย์และสมาชิกในครอบครัว (หรืออื่น ๆ ตัวแทนผู้มีอำนาจตัดสินใจ) และอำนวยความสะดวกความละเอียดที่ดีที่สุดสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาที่แท้จริงของผู้ป่วย 2 ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายมีความสนใจที่น่าสนใจในการส่งเสริมการใช้โฆษณาในการตั้งค่าทางคลินิก

Results (Thai) 2:

แพทย์ตัดสินใจจบชีวิตมากขึ้นเป็น เรื่องของนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศพัฒนาแล้วกับหน diseases.1 เรื้อรังความคืบหน้าและการแพร่หลายของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการดูแลที่สำคัญช่วยให้แพทย์ให้ตัวเลือกเพิ่มเติมให้แก่ผู้ป่วยของพวกเขาในการแก้ปัญหากรณีนี้เกิดขึ้น ในเวลาเดียวกัน เน้นคุณภาพชีวิตและสิทธิมนุษยชนมากขึ้นผู้ป่วยจะมีบทบาทมากขึ้นในการตัดสินใจว่า จะสามารถแก้ไขกรณีของพวกเขาได้ ขณะนั้น life-or-death ไม่ได้ตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ใด ๆ สถานการณ์เป็น
เพิ่มเติม ซับซ้อนเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถมีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการตัดสินใจ ต่อการดำเนินการถูกต้องล่วงหน้าดูแลสุขภาพสั่ง (AD) โดยผู้ป่วยจะ ทฤษฎี บรรเทามากของความไม่แน่นอนที่มัก paralyzes แพทย์ และสมาชิกในครอบครัว (หรืออื่น ๆ ตัวแทนผู้ผลิตตัดสินใจ) และช่วยในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด reflects wishes.2 จริงของผู้ป่วยตาม policy-makers มีความสนใจที่น่าสนใจในการส่งเสริมการใช้สื่อโฆษณาในการตั้งค่าทางคลินิก

Results (Thai) 3:

ทางการแพทย์การตัดสินใจในช่วงปลายของชีวิตกำลังจะกลายเป็นเรื่องของนโยบายสาธารณะโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วกับการเกิดขึ้นและประชากรอายุของโรคเรื้อรัง diseases. 1 ความคืบหน้าและการขยายตัวของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความสำคัญในการดูแลช่วยให้แพทย์ในการจัดให้บริการทางเลือกให้มากขึ้นในการรักษาผู้ป่วยในความละเอียดที่มากขึ้นในกรณีนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่การให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ที่เพิ่มขึ้นและสิทธิมนุษยชนของชีวิตช่วยให้ผู้ป่วยจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจว่าพวกเขาจะได้รับการแก้ไข ในขณะที่การตัดสินใจใช้ชีวิตหรือความตายดังกล่าวจะไม่ได้ทำตามสถานการณ์ใดๆได้อย่างง่ายดายสถานการณ์ที่มี
ซึ่งจะช่วยเพิ่มเติมความซับซ้อนเมื่อผู้ป่วยที่ไม่มีความสามารถในการเข้าร่วมแข่งขันโดยตรงในการขั้นตอนการตัดสินใจทำให้การดูแล สุขภาพ อย่างถูกต้องดำเนินการล่วงหน้า directive (เฉพาะกิจ)โดยผู้ป่วยจะอยู่ในทฤษฎีความเดือดร้อนของความไม่แน่นอนที่มักจะ paralyzes แพทย์และสมาชิกในครอบครัว(หรือตัวแทนผู้ที่มีหน้าที่ทำการตัดสินใจ)และการอำนวยความสะดวกความละเอียดที่ reflects ความปรารถนาดีและความจริงของผู้ป่วยที่ 2 จึงเรียนมาเพื่อวางนโยบายมีส่วนได้เสียที่กระตุ้นความสนใจในการส่งเสริมให้ใช้ที่ของโฆษณาทางการแพทย์ในการตั้งค่า