Chemistry alone, however, will not

Chemistry alone, however, will not make good concrete. The ancients mixed their cement, (cement, ash, and rock) with as little water as possible to give a stiff, "no-slump" concrete; and spread it on their cisterns and walls. After this it was pounded in the rock layer. Vitruvius, the noted Roman architect (20 BC) mentioned this process in his history of architecture. He also mentioned that special tamping tools were used to build a cistern wall.
This tamping process was very important. The close packing of the molecular structure by tamping reduced the need of excess water, which is a source of voids and weakness. Also close packing produces more bonding gel than might be normally expected.

Results (Thai) 1:

เคมีคนเดียว อย่างไรก็ตาม จะไม่ทำให้คอนกรีตที่ดี ฟดิแอนเชียนส์ผสมของปูนซีเมนต์, (ซีเมนต์ เถ้า และร็อค) น้ำน้อยที่สุดเพื่อให้คอนกรีตแข็ง "ไม่ตกต่ำ" และแพร่กระจายของ cisterns และผนัง หลังจากนี้ จะถูกลบหลู่ในชั้นหิน วิทรูเวียส สถาปนิกโรมันตาม (20 BC) กล่าวถึงกระบวนการนี้ในประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรม เขายังกล่าวว่า เครื่องมือ tamping พิเศษใช้ในการสร้างกำแพงฝน
กระบวนการ tamping นี้มีความสำคัญมากขึ้น บันทึกปิดของโครงสร้างโมเลกุลโดยการ tamping ลดความต้องการของน้ำส่วนเกิน ซึ่งเป็นแหล่งของ voids และอ่อนแอ บันทึกนอกสร้างเจลงานเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติคาดหวังอาจ

Results (Thai) 2:

เคมีเพียงอย่างเดียว แต่จะไม่ทำให้คอนกรีตที่ดี โบราณผสมปูนซีเมนต์ของพวกเขา (ซีเมนต์เถ้าและร็อค) ที่มีน้ำน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ที่จะให้แข็ง "ไม่ตกต่ำ" คอนกรีต และกระจายไปในอ่างและผนังของพวกเขา หลังจากนี้มันถูกทุบในชั้นหิน Vitruvius, โรมันสถาปนิกตั้งข้อสังเกต (20 BC) กล่าวถึงขั้นตอนนี้ในประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรม นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าเครื่องมือ tamping พิเศษถูกนำมาใช้ในการสร้างผนังบ่อ
tamping กระบวนการนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บรรจุสนิทของโครงสร้างโมเลกุลโดย tamping ลดลงความต้องการของน้ำส่วนเกินซึ่งเป็นแหล่งที่มาของช่องว่างและความอ่อนแอ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ที่ปิดการผลิตเจลพันธะมากกว่าอาจจะคาดหวังได้ตามปกติ

Results (Thai) 3:

เคมีคนเดียว อย่างไรก็ตาม จะไม่ทำให้คอนกรีตที่ดี คนโบราณผสมปูนซีเมนต์ของพวกเขา ( ปูนซีเมนต์ , เถ้า , และหิน ) กับน้ำเล็กน้อยเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้แข็ง ไม่ยุบตัว " คอนกรีต และแพร่กระจายในอ่างเก็บน้ำและผนัง หลังจากนี้ก็โขลกในหินชั้น วิทรูเวียส , สังเกตโรมันสถาปนิก ( พ.ศ. 20 ) ได้กล่าวถึงกระบวนการนี้ในประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมเขายังกล่าวถึงพิเศษ tamping เครื่องมือถูกใช้ในการสร้างถังน้ำผนัง
tamping กระบวนการนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ปิดการบรรจุโครงสร้างโมเลกุลโดยท้ายน้ำลดลงความต้องการของน้ำส่วนเกิน ซึ่งเป็นแหล่งรวมช่องว่างและจุดอ่อน ยังปิดการบรรจุผลิตมากขึ้นกว่าปกติ อาจเป็นแบบเจล
คาดว่า .