Most war movies use battle as a bac

Most war movies use battle as a backdrop to little human dramas. We learn of the private lives of the soldiers, their loves and fears. Personalities are sketched, weaknesses revealed, rivalries established that will all be settled under fire. Then we get the action scenes. "Gettysburg" avoids all of those war movie cliches. This is a film, pure and simple, about the Battle of Gettysburg in the summer of 1863, about the strategies, calculations, mistakes and heroism that turned the tide of the Civil War decisively against the South.

Results (Thai) 1:

หนังสงครามส่วนใหญ่ใช้ต่อสู้เป็นฉากหลังละครทางมนุษย์เล็กน้อย เราเรียนรู้จากชีวิตส่วนตัวของทหาร ความรัก และความกลัว บุคคลที่มีร่างแผน เปิดเผย อ่อน rivalries ก่อตั้งว่า จะทั้งหมดตัดสินภายใต้ไฟ แล้ว เราได้รับฉากการกระทำ "เกตตีสเบิร์ก" หลีกเลี่ยง cliches ภาพยนตร์สงครามเหล่านั้นทั้งหมด นี่คือภาพยนตร์ บริสุทธิ์และเรียบง่าย เกี่ยวกับการต่อสู้ของเกตตีสเบิร์กในฤดูร้อนวันที่ 1863 กลยุทธ์ การคำนวณ ความผิดพลาด และวีรบุรุษที่เปิดของสงครามกลางเมืองกับใต้รากฐาน

Results (Thai) 2:

หนังสงครามการต่อสู้ใช้เป็นฉากหลังละครมนุษย์เล็ก ๆ น้อย ๆ เราเรียนรู้จากชีวิตส่วนตัวของทหารที่รักของพวกเขาและความกลัว มีบุคลิกที่มีการร่างจุดอ่อนเปิดเผยว่าการแข่งขันเป็นที่ยอมรับว่าทั้งหมดจะถูกตัดสินไฟใต้ จากนั้นเราก็จะได้รับการดำเนินการที่เกิดเหตุ "เกตตี้" หลีกเลี่ยงการทั้งหมดของหนังสงครามซ้ำซากเหล่านั้น นี่คือภาพยนตร์ที่บริสุทธิ์และเรียบง่ายเกี่ยวกับการรบเกตตี้ในช่วงฤดู​​ร้อน 1863 ที่เกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณผิดพลาดและความกล้าหาญที่เปิดน้ำของสงครามกลางเมืองอย่างเด็ดขาดกับภาคใต้

Results (Thai) 3:

ดูหนังสงครามส่วนใหญ่ใช้ต่อสู้เป็นฉากละครมนุษย์น้อย เราเรียนรู้จากชีวิตส่วนตัวของทหาร ที่ตนรัก และความกลัว บุคลิกภาพเป็นร่าง จุดอ่อน เปิดเผยว่า การแข่งขันขึ้นที่ทั้งหมดจะถูกตัดสินภายใต้ไฟ งั้นเราเอาฉากการกระทํา” ค้นหา " เลี่ยงพวกหนังสงคราม cliches . นี้เป็นภาพยนตร์ที่บริสุทธิ์และเรียบง่ายเกี่ยวกับยุทธการเกตตีสเบิร์กในฤดูร้อนของ 1 , เกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณความผิดพลาด และวีรกรรมที่ทำให้สถานการณ์ของสงครามกลางเมืองและกับทิศใต้