Home schooling, i.e., parent-led ho

Home schooling, i.e., parent-led home-based education, is superior academically to classroom instruction because of the one-on-one tutorial approach used.
Home schooled children receive individualized instruction tailored to fit their learning styles as well as their distinctive needs and gifts, or strengths and weaknesses.
Homeschoolers can move through their course work at their own pace– a child who struggles can go more slowly, a very bright child can cover the material as quickly as he or she can master the content.
Parents can teach their Christian values to their home schooled students and can choose academic materials written from their own philosophical and religious viewpoint.
Home schooling allows for more flexibility in a student’s schedule, in the teaching methods used, in the time spent with individual courses, with the materials used for course work, and for students to be involved in real life activities.
Home schooling can cut out unnecessary time-wasting activities (e.g., standing in line) and students generally can get all of their work done within several hours each day.
Since there is less wasted time, homeschoolers have time left over in the day to explore other interests or pursue the development of special talents or skills.
Because schooling at home is more flexible, more relaxed, the educational experience is less stressful for the student.
Home schooling strengthens family relationships because it gives parents more time with their children.
Parents know their children on a personal level and can devote more quality AND quantity time to their children individually.
Family life revolves around the priorities and needs of the family rather than the schedule and demands of a school.
Parents have the freedom to work on the child’s character development.
Homeschoolers have a community-based socialization, rather than a classroom-based socialization.
Most home school students are regularly involved in at least 2 outside activities such as fine arts classes, co-op classes, support groups, hobbies/hobby clubs, scouting, 4-H clubs, church ministries, sports teams, and community volunteer work.
A homeschooler’s social experience tends to be richer because he or she has the opportunity to spend time with children and adults of all ages, rather than just thirty or more same-age peers.
Home schooled children do not have as much exposure to the harmful influences of peer pressure, such as the bad language, bad attitudes, violence, etc. usually present in an institutional public school.
Individuality is encouraged; homeschoolers learn how to think for themselves, and how to think critically
Home schooled students tend to adjust more quickly to the college setting, because they are used to an independent study atmosphere and to asking questions of adults.

Results (Thai) 1:

บ้านอก เช่น นำแม่บ้านใช้ศึกษา เป็นห้องเดิมไปห้องเรียน เพราะวิธีบทสอนแพ็คเกจที่ใช้บ้าน schooled เด็กรับสอนเป็นรายบุคคลให้เหมาะสมกับลักษณะการเรียนรู้ตลอดจนการความโดดเด่น และของ ขวัญ หรือจุดแข็ง และจุดอ่อนHomeschoolers สามารถเลื่อนงานหลักสูตรที่ก้าวของตนเอง – เด็กย่างสามารถไปช้า เด็กสว่างมากสามารถครอบคลุมวัสดุเป็นอย่างที่เขาหรือเธอสามารถหลักเนื้อหาผู้ปกครองสามารถสอนค่าของคริสเตียนเพื่อบ้าน schooled นักเรียน และสามารถเลือกวัสดุวิชาการเขียนจากมุมมองของตนเองปรัชญา และศาสนาบ้านอกมีความยืดหยุ่นเพิ่มเติมในกำหนดการของนักศึกษา ในวิธีการสอนที่ใช้ เวลาที่ใช้กับแต่ละหลักสูตร วัสดุที่ใช้ สำหรับทำงาน และนักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมในชีวิตจริงได้บ้านอกสามารถตัดออกจากกิจกรรมที่ไม่จำเป็นเสียเวลา (เช่น ยืนในบรรทัด) และนักเรียนโดยทั่วไปจะได้รับทั้งหมดของงานที่ทำในแต่ละวันหลายชั่วโมงเนื่องจากมีน้อยเสียเวลา homeschoolers มีเวลาที่เหลืออยู่ในวันที่ ไปสำรวจอื่น ๆ สนใจติดตามการพัฒนาของทักษะหรือความสามารถพิเศษเนื่องจากบ้าน schooling คือความยืดหยุ่น ผ่อนคลาย ประสบการณ์ศึกษาได้เครียดน้อยลงสำหรับนักเรียนบ้านประถมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวเนื่องจากจะช่วยให้พ่อแม่เวลา มีเด็กผู้ปกครองทราบว่าบุตรในระดับส่วนบุคคล และสามารถอุทิศเพิ่มเติมคุณภาพปริมาณและเวลาของตนแต่ละครอบครัว revolves รอบระดับความสำคัญและความต้องการของครอบครัว มากกว่าการกำหนดเวลาและความต้องการของโรงเรียนผู้ปกครองมีอิสระในการทำงานในการพัฒนาของเด็กอักขระHomeschoolers มีการขัดเกลาทางสังคมที่ชุมชน แทนการขัดเกลาทางสังคมที่ใช้ห้องเรียนนักเรียนโรงเรียนบ้านมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอในกิจกรรมภายนอกน้อย 2 เรียนศิลปะ co-op เรียน กลุ่มสนับสนุน ชมรมงานอดิเรก/งานอดิเรก เนตรนารี สโมสร 4 H ทบวงกรมคริสตจักร ทีมกีฬา และงานอาสาสมัครชุมชนประสบการณ์ทางสังคมของ homeschooler มีแนวโน้มจะดีขึ้น เพราะเขาหรือเธอมีโอกาสที่จะใช้เวลากับเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย ดีกว่าเพื่อนเหมือนกันอายุเพียงสามสิบ หรือมากกว่าSchooled เด็กบ้านมีอิทธิพลอันตรายของความดันเพียร์ ภาษาไม่ดี ทัศนคติที่ดี ความรุนแรง ฯลฯ มักจะอยู่ในโรงเรียนสถาบันการสัมผัสมากที่สุดบุคลิกลักษณะเป็นกำลังใจ homeschoolers ได้เรียนรู้วิธีการคิดด้วยตนเอง คิดถึงนักเรียน schooled บ้านมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วให้ตั้งวิทยาลัย เนื่องจากพวกเขาจะใช้บรรยากาศศึกษาด้วยตนเอง และถามคำถามของผู้ใหญ่

Results (Thai) 2:

หน้าแรกการศึกษาคือการศึกษาตามบ้านผู้ปกครองนำจะดีกว่าด้านวิชาการเพื่อการเรียนการสอนเพราะวิธีการสอนแบบหนึ่งต่อหนึ่งใช้
หน้าเด็กได้รับการศึกษาการเรียนการสอนรายบุคคลปรับแต่งให้เหมาะสมรูปแบบการเรียนรู้ของพวกเขารวมทั้งความต้องการที่โดดเด่นของพวกเขาและ ของขวัญหรือจุดแข็งและจุดอ่อน
Homeschoolers สามารถย้ายผ่านการทำงานของพวกเขาที่แน่นอนของตัวเอง pace- เด็กที่ต่อสู้สามารถไปช้ากว่าเด็กที่สว่างมากสามารถครอบคลุมวัสดุที่เป็นอย่างที่เขาหรือเธอสามารถหลักเนื้อหาที่
ผู้ปกครองสามารถสอน คริสเตียนของพวกเขาไปที่บ้านของนักเรียนการศึกษาของพวกเขาและสามารถเลือกวัสดุที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากทางวิชาการของปรัชญาและศาสนาในมุมมองของพวกเขา
โรงเรียนบ้านช่วยให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในช่วงเวลาของนักเรียนในการเรียนการสอนที่ใช้ในเวลาที่ใช้กับหลักสูตรของแต่ละบุคคลด้วยวัสดุ ใช้สำหรับการทำงานแน่นอนและเพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมในชีวิตจริง
โรงเรียนบ้านสามารถตัดออกจากการจัดกิจกรรมการสูญเสียเวลาที่ไม่จำเป็น (เช่นยืนอยู่ในแถว) และนักศึกษาทั่วไปสามารถได้รับทั้งหมดของการทำงานของพวกเขาทำในเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน
ตั้งแต่ มีการสูญเสียน้อยเวลา homeschoolers มีเวลาที่เหลือในวันที่จะสำรวจผลประโยชน์อื่น ๆ หรือติดตามการพัฒนาความสามารถพิเศษหรือทักษะใน
การศึกษาเพราะที่บ้านเป็นความยืดหยุ่นมากขึ้นผ่อนคลายมากขึ้นประสบการณ์การศึกษาเป็นเครียดน้อยลงสำหรับนักเรียน
หน้าแรก การศึกษาเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวเพราะจะช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีเวลามากขึ้นกับเด็กของพวกเขา
รู้ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กของพวกเขาในระดับส่วนตัวและสามารถอุทิศคุณภาพและปริมาณเวลามากขึ้นกับเด็กของพวกเขาแต่ละ
ชีวิตครอบครัวหมุนรอบจัดลำดับความสำคัญและความต้องการของครอบครัวมากกว่าที่จะกำหนดเวลา และความต้องการของโรงเรียน
ผู้ปกครองมีอิสระในการทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาตัวละครของเด็ก
Homeschoolers มีสังคมชุมชนมากกว่าในห้องเรียนตามสังคม
ส่วนใหญ่นักเรียนโรงเรียนบ้านมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 2 กิจกรรมภายนอกเช่นการปรับ คลาสเรียนสหกรณ์, กลุ่มสนับสนุน, งานอดิเรก / ชมรมงานอดิเรก, หัวเราะเยาะ, 4-H คลับคริสตจักรพันธกิจ, ทีมกีฬาและการทำงานอาสาสมัครชุมชนศิลปะ
ประสบการณ์ทางสังคม homeschooler ของมีแนวโน้มที่จะดียิ่งขึ้นเพราะเขาหรือเธอมีโอกาสที่จะ ใช้เวลากับเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยมากกว่าแค่สามสิบหรือมากกว่าเพื่อนร่วมงานเดียวกันอายุ
schooled บ้านเด็กไม่ได้มีการเปิดรับมากที่สุดเท่าที่จะมีอิทธิพลที่เป็นอันตรายของแรงกดดันเช่นภาษาที่ไม่ดีทัศนคติที่ไม่ดี, ความรุนแรง ฯลฯ . มักจะอยู่ในโรงเรียนของรัฐสถาบัน
ความแตกต่างกันได้รับการสนับสนุน; homeschoolers เรียนรู้วิธีการที่จะคิดว่าสำหรับตัวเองและวิธีการคิดวิเคราะห์
ของนักเรียนการศึกษาแรกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นในการตั้งค่าวิทยาลัยเพราะพวกเขาจะใช้ในการสร้างบรรยากาศการเรียนที่เป็นอิสระและการถามคำถามของผู้ใหญ่

Results (Thai) 3:

บ้านตน เช่น พ่อแม่พาที่บ้านการศึกษา เป็น superior ทางวิชาการมาใช้ในการเรียนการสอน เพราะตัวต่อตัวกวดวิชาแนวทาง .
บ้าน schooled เด็กได้รับการปรับให้พอดีกับรูปแบบการเรียนรู้ของตน รวมทั้งความต้องการที่โดดเด่นของพวกเขาและของขวัญแบบรายบุคคล หรือ จุดแข็งและจุดอ่อน
HOMESCHOOLERS สามารถย้ายผ่านแน่นอนทำงานที่ก้าวของตนเองและเด็กที่ใช้ชีวิตไปอย่างช้าๆและเป็นเด็กฉลาดมากสามารถครอบคลุมวัสดุที่เร็วที่สุดเท่าที่เขาหรือเธอสามารถสอนเนื้อหา
ผู้ปกครองสามารถสอนค่าของคริสเตียนไปที่บ้านของนักเรียน และสามารถเลือกเรียนวิชาการเขียนวัสดุของตัวเองจากมุมมองทางปรัชญาและ
ของศาสนาโรงเรียนบ้านให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในตารางเวลาของนักเรียนในการสอนวิธีการที่ใช้ในการใช้เวลากับแต่ละหลักสูตร มีวัสดุที่ใช้งาน และให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมในชีวิตจริง
บ้านตนสามารถตัดออกไม่จำเป็นเสียเวลาต่างๆ ( เช่นการยืนอยู่ในบรรทัด ) และนักเรียนโดยทั่วไปสามารถได้รับทั้งหมดของพวกเขาทำงานเสร็จแต่ละวันภายในหลายชั่วโมง
เนื่องจากมีน้อยเสียเวลา HOMESCHOOLERS , มีเวลาเหลือในวันที่จะสำรวจผลประโยชน์อื่น ๆหรือติดตามการพัฒนาความสามารถหรือทักษะพิเศษ .
เพราะตนที่บ้านมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น ประสบการณ์การศึกษาคือเครียดน้อยลง
สําหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เพราะมันช่วยให้พ่อแม่มีเวลาอยู่กับลูก พ่อแม่รู้
เด็กในระดับบุคคล และสามารถอุทิศเวลาและคุณภาพมากกว่าปริมาณของเด็กเป็นรายบุคคล ชีวิต
ครอบครัวหมุนรอบความสำคัญและความต้องการของครอบครัวมากกว่าตารางเวลาและความต้องการของโรงเรียน
ผู้ปกครองมีอิสระในการทำงานในการพัฒนาคุณลักษณะของเด็ก สังคมชุมชน
HOMESCHOOLERS มีมากกว่าในชั้นเรียน การเรียนรู้ จากนักเรียนโรงเรียนบ้าน
ที่สุดอยู่เสมอที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 นอก เช่น กิจกรรมศิลปกรรมเรียนสหกรณ์ร่วมชั้นเรียน สนับสนุนกลุ่ม งานอดิเรก / งานอดิเรกชมรมลูกเสือยุวเกษตรกร , คลับ คริสตจักรพันธกิจ , ทีมกีฬาและ อาสาสมัครชุมชน
ของ homeschooler ประสบการณ์ทางสังคมมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เพราะเขาหรือเธอมีโอกาสที่จะใช้เวลากับเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย มากกว่าสามสิบหรือมากกว่าอายุเพื่อน .
บ้าน schooled เด็กไม่ได้มีการเปิดรับแสงมากผลกระทบที่เป็นอันตรายของความกดดัน เช่น ภาษา ไม่ดี ไม่ดี ทัศนคติ ความรุนแรง ฯลฯมักจะอยู่ในโรงเรียน สถาบัน
บุคลิกลักษณะคือใจ ; HOMESCHOOLERS เรียนรู้ที่จะคิดว่าสำหรับตัวเอง และวิธีคิดวิเคราะห์
บ้าน schooled นักเรียนมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอย่างรวดเร็วไปยังวิทยาลัยการเพราะพวกเขาจะใช้ในบรรยากาศการศึกษาอิสระและการถามคำถามของผู้ใหญ่