Economic growth is the increase in

Economic growth is the increase in the inflation-adjusted market value of the goods and services produced by an economy over time. It is conventionally measured as the percent rate of increase in real gross domestic product, or real GDP.[1] Of more importance is the growth of the ratio of GDP to population (GDP per capita, which is also called per capita income). An increase in growth caused by more efficient use of inputs (such as physical capital, population, or territory) is referred to as intensive growth. GDP growth caused only by increases in the amount of inputs available for use is called extensive growth.[2]

In economics, "economic growth" or "economic growth theory" typically refers to growth of potential output, i.e., production at "full employment". As an area of study, economic growth is generally distinguished from development economics. The former is primarily the study of how countries can advance their economies. The latter is the study of the economic development process particularly in low-income countries.

Growth is usually calculated in real terms – i.e., inflation-adjusted terms – to eliminate the distorting effect of inflation on the price of goods produced. Measurement of economic growth uses national income accounting.[3] Since economic growth is measured as the annual percent change of gross domestic product (GDP), it has all the advantages and drawbacks of that measure.

Results (Thai) 2:

การเติบโตทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นในมูลค่าตลาดอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสินค้าและบริการที่ผลิตโดยเศรษฐกิจในช่วงเวลา มีหน่วยวัดเป็นอัตภาพเป็นอัตราร้อยละของการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ในประเทศที่แท้จริงขั้นต้นหรือ GDP ที่แท้จริง. [1] มีความสำคัญมากขึ้นคือการเจริญเติบโตของอัตราส่วนของ GDP ต่อประชากร (GDP ต่อหัวซึ่งจะเรียกว่ารายได้ต่อหัว) เพิ่มขึ้นในการเจริญเติบโตที่เกิดจากการใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นของปัจจัยการผลิต (เช่นทุนทางกายภาพประชากรหรือดินแดน) จะเรียกว่าการเจริญเติบโตอย่างเข้มข้น ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของ GDP โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของปริมาณของปัจจัยการผลิตที่มีการใช้งานที่เรียกว่าการเจริญเติบโตที่กว้างขวาง. [2] ในทางเศรษฐศาสตร์ "การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ" หรือ "ทฤษฎีการเติบโตทางเศรษฐกิจ" โดยทั่วไปหมายถึงการเจริญเติบโตของการส่งออกที่อาจเกิดขึ้นเช่นการผลิตที่ "การจ้างงานเต็ม " ในฐานะที่เป็นพื้นที่ของการศึกษาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปจะแตกต่างไปจากการพัฒนาเศรษฐกิจ อดีตเป็นหลักการศึกษาของวิธีการที่ประเทศสามารถเลื่อนเศรษฐกิจของพวกเขา หลังมีการศึกษากระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้ต่ำ. การเจริญเติบโตมักจะมีการคำนวณในแง่จริง - คือเงื่อนไขอัตราเงินเฟ้อที่ปรับ - เพื่อลดผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อบิดเบือนเกี่ยวกับราคาของสินค้าที่ผลิต การวัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจใช้บัญชีรายได้ประชาชาติ. [3] เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่วัดเป็นร้อยละการเปลี่ยนแปลงประจำปีของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียของการวัดที่

Results (Thai) 3:

การเติบโตทางเศรษฐกิจมีเพิ่มขึ้นในอัตราเงินเฟ้อปรับมูลค่าตลาดของสินค้าและบริการที่ผลิตโดยเศรษฐกิจในช่วงเวลา มันเป็นโดยทั่วไปวัดเป็นเปอร์เซ็นต์อัตราการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ที่แท้จริง [ 1 ] ที่สำคัญ คือ การเติบโตของอัตราส่วนของ GDP ต่อประชากร ( GDP per capita ซึ่งเรียกว่ารายได้ต่อหัว )เพิ่มขึ้นในการเจริญเติบโตที่เกิดจากการใช้ประสิทธิภาพของปัจจัยการผลิต ( เช่น เมืองหลวง ประชากร ทางกายภาพ หรือดินแดน ) เรียกว่า การเร่งรัด การเจริญเติบโตของ GDP ทำให้เท่านั้น โดยเพิ่มปริมาณของปัจจัยการผลิตที่ใช้งานเรียกว่าการเจริญเติบโตอย่างกว้างขวาง . [ 2 ]

เศรษฐศาสตร์ " การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ " หรือ " ทฤษฎี " การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปหมายถึงการเติบโตของผลผลิตที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่การผลิตที่ " การจ้างงาน " การศึกษาในพื้นที่ , การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปแตกต่างจากเศรษฐศาสตร์การพัฒนา อดีต เป็นวิธีการศึกษาของประเทศสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของตน ส่วนที่ 2 การศึกษากระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้ต่ำ การเติบโตเป็นปกติ

คำนวณจริงในเงื่อนไข ( เช่นเงินเฟ้อปรับเงื่อนไขเพื่อลดการบิดเบือนและผลกระทบของเงินเฟ้อ ราคาของสินค้าที่ผลิต การวัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจใช้ชาติบัญชีรายได้ . [ 3 ] เนื่องจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นวัดเป็นปีร้อยละการเปลี่ยนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( GDP ) ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของการวัด