Film literacy is a convergence of t

Film literacy is a convergence of the interdisciplinary practices of literary and media studies, which both concentrate on the analysis of significance in all manner of texts: visual and written. Ushering students toward a more open notion of literary discourse and practice, critical media pedagogy begins with the assumption that visual images, songs, advertisements, and film are inherently ideological and political. The media enacts, as John Berger frames it, “ways of seeing” that can effectively produce and determine the meanings and outcomes of discourse itself and which, therefore, shape our cultural contexts. Our job as critics is to see these texts as a mélange of cultural archives, open to functionalist analysis and critique. What do these texts say about the human experience? How do they construct meaning? Whose interests do they serve?

Results (Thai) 1:

ฟิล์มสามารถเป็นการบรรจบกันของแนวทางปฏิบัติที่อาศัยของวรรณกรรม และสื่อการ ศึกษา ซึ่งทั้งสองเน้นการวิเคราะห์ถึงความสำคัญในลักษณะของข้อความทั้งหมด: ภาพ และเขียน Ushering เรียนต่อคิดมากเปิดวาทกรรมวรรณกรรมและปฏิบัติ ศึกษาศาสตร์สื่อสำคัญที่เริ่มต้น ด้วยสมมติฐานรูปภาพ เพลง โฆษณา และฟิล์มที่ใช้อุดมการณ์ และการเมืองมีความ สื่อ enacts เป็นจอห์นเบอร์เกอร์เฟรมมัน "วิธีการดู" ที่สามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดความหมายและผลของวาทกรรมเอง และที่ ดังนั้น รูปร่างบริบทวัฒนธรรมของเรา งานของเราเป็นนักวิจารณ์จะเห็นข้อความเหล่านี้เป็น mélange ของคลังข้อมูลทางวัฒนธรรม เปิดผลงานวิเคราะห์และวิจารณ์ อะไรทำข้อความเหล่านี้พูดเกี่ยวกับประสบการณ์มนุษย์ พวกเขาสร้างความหมายได้อย่างไร พวกเขาใช้สถาน

Results (Thai) 2:

ความรู้เป็นภาพยนตร์การบรรจบกันของการปฏิบัติสหวิทยาการของการศึกษาวรรณกรรมและสื่อซึ่งทั้งสองมีสมาธิในการวิเคราะห์อย่างมีนัยสำคัญในลักษณะของข้อความ: ภาพและเขียน นักเรียนที่มีต่อการนำไปสู่​​ความคิดที่เปิดกว้างมากขึ้นของวาทกรรมวรรณกรรมและการปฏิบัติการเรียนการสอนสื่อที่สำคัญเริ่มต้นด้วยสมมติฐานที่ว่าภาพภาพ, เพลง, โฆษณา, และภาพยนตร์ที่มีอุดมการณ์และการเมืองโดยเนื้อแท้ enacts สื่อเป็นจอห์นเบอร์เกอร์เฟรมมัน "วิธีการเห็น" ที่มีประสิทธิภาพสามารถผลิตและตรวจสอบความหมายและผลของวาทกรรมของตัวเองและดังนั้นรูปร่างบริบททางวัฒนธรรมของเรา งานของเราเป็นนักวิจารณ์ที่จะเห็นข้อความเหล่านี้เป็นmélangeของคลังวัฒนธรรมเปิดการวิเคราะห์และวิจารณ์ functionalist สิ่งใดที่ข้อความเหล่านี้จะพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์? พวกเขาจะสร้างความหมายอย่างไร ที่มีความสนใจที่พวกเขาทำหน้าที่?

Results (Thai) 3:

ใช้ฟิล์มเป็นการลู่เข้าของการปฏิบัติสหวิทยาการวรรณกรรมและสื่อศึกษา ซึ่งทั้งสมาธิในการวิเคราะห์ความสำคัญในลักษณะของข้อความ : ภาพและเขียน พานักเรียนไปทางความคิดที่เปิดกว้างมากขึ้นของวรรณกรรมวาทกรรม และปฏิบัติ การสอน สื่อที่สำคัญเริ่มต้นด้วยสมมติฐานที่ว่า รูปภาพ , เพลง , โฆษณาและภาพยนตร์เป็นอย่างโดยเนื้อแท้ของอุดมการณ์และการเมือง สื่อ enacts เป็น John Berger เฟรมมัน " วิธีมอง " ที่มีประสิทธิภาพสามารถผลิตและกำหนดความหมายและผลของวาทกรรมและรูปร่างที่ตัวเอง ดังนั้น วัฒนธรรมของเรา งานของเราเป็นนักวิจารณ์ จะเห็นข้อความเหล่านี้เป็น M é Lange จดหมายเหตุวัฒนธรรม เปิดเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์คติคำนึงประโยชน์ .ทำไมข้อความเหล่านี้พูดเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ อย่างไรก็สร้างความหมาย ใครสนใจทำพวกเขาให้บริการ ?