Gramschi’s Hegemonic Ideology and R

Gramschi’s Hegemonic Ideology and Resistance
• Antonio Gramsci (1971), who is neo-Marxist, looks at people's struggles from an ideological
point of view.
• He has established the concept of hegemony (dominant ideology or cultural leadership) and
argued that the ruling class dominates not only physically but also symbolically
(Ideologically).
• First, Gramsci assumes that the subordinate classes also accept the hegemonic idea that is
given from the above. = “ideological consensus”
2
• Second, Gramsci says that subordinate classes may oppose the dominant ideology in action
more than in ideas.
• That is, in action, they try to defend their material interests (e.g. need more food, or money).
• Thus, it looks radical. But in their ideas (consciousness), they still obedient to dominant
class.
• This subordinate classes’ idea is called "trade union consciousness" rather than
"revolutionary consciousness."
• The “trade union consciousness” means most people's ideas comes from the dominant
groups themselves, and are more favored for negotiation than radical revolution.
• Third, Gramsci assumes that subordinate class need to create a counterhegemony that will
change the society (Scott 1985: 346).

Results (Thai) 1:

เจ้าอุดมการณ์ของ Gramschi และความต้านทาน• Antonio Gramsci (1971), ที่เป็น neo Marxist ลักษณะที่ต่อสู้ของประชาชนจากการอุดมการณ์มอง•ที่เขาได้ก่อตั้งแนวคิดของเจ้า (อุดมการณ์หลักหรือผู้นำทางวัฒนธรรม) และโต้เถียงว่า ชั้นปกครองกุมอำนาจไม่เพียงแต่ร่างกาย แต่ยังสร้างถอย)•ก่อน Gramsci สันนิษฐานว่า ชั้นย่อยความคิดเจ้าที่ยังยอมรับกำหนดจากข้างบน = "อุดมการณ์มติ"2•สอง Gramsci กล่าวว่า เรียนย่อยอาจต่อต้านอุดมการณ์หลักในการดำเนินการในความคิดมากกว่า•คือ การดำเนินการ พวกเขาพยายามปกป้องผลประโยชน์ของวัสดุ (เช่นต้องการเพิ่มเติมอาหาร หรือเงิน)•ดังนั้น มันดูรุนแรง แต่ ในความคิดของตน (สติ), พวกเขายังคงเชื่อฟังการหลักคลา•ความคิดของชั้นเรียนย่อยนี้เรียกว่า "สหภาพสติ" rather กว่า"ปฏิวัติจิตสำนึก"• "สหภาพสติ" หมายถึง ความคิดของคนส่วนใหญ่มาจากหลักการกลุ่มตัวเอง และเป็นที่ชื่นชอบมากสำหรับการเจรจามากกว่าการปฏิวัติรุนแรง•สาม Gramsci สันนิษฐานว่า ชั้นย่อยต้องสร้าง counterhegemony ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม (สก็อต 1985:346)

Results (Thai) 2:

Hegemonic อุดมการณ์ Gramschi
และความต้านทาน•อันโตนิโอกรัมชี่(1971)
ซึ่งเป็นนีโอมาร์กซ์มองไปที่การต่อสู้ของผู้คนจากอุดมการณ์มุมมอง.
•เขาได้สร้างแนวความคิดของเจ้าโลก (อุดมการณ์ที่โดดเด่นหรือเป็นผู้นำทางวัฒนธรรม)
และถกเถียงกันอยู่ว่าชนชั้นปกครองครองไม่เพียง แต่ร่างกาย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์
(อุดมการณ์).
•ครั้งแรก Gramsci สันนิษฐานว่าผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นเรียนยังยอมรับความคิด hegemonic
ที่ได้รับจากการดังกล่าวข้างต้น = "ฉันทามติอุดมการณ์"
2 •ประการที่สองกรัมชี่บอกว่าเรียนผู้ใต้บังคับบัญชาอาจจะไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ที่โดดเด่นในการดำเนินการมากขึ้นกว่าในความคิด. •นั่นคือในการดำเนินการที่พวกเขาพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ของวัสดุของพวกเขา (เช่นต้องการอาหารมากขึ้นหรือเงิน) •ดังนั้นจึงมีลักษณะรุนแรง แต่ในความคิดของพวกเขา (สติ) พวกเขายังคงเชื่อฟังที่โดดเด่นระดับ. •ความคิดนี้เรียนผู้ใต้บังคับบัญชา 'ที่เรียกว่า "สหภาพแรงงานสติ" มากกว่า"จิตสำนึกการปฏิวัติ." • "การสหภาพแรงงานสติ" หมายถึงความคิดของคนส่วนใหญ่มาจากการที่โดดเด่น. กลุ่มตัวเองและเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้นสำหรับการเจรจาต่อรองที่รุนแรงกว่าการปฏิวัติ•สามGramsci อนุมานว่าระดับผู้ใต้บังคับบัญชาต้องสร้าง counterhegemony ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม(สกอตต์ 1985: 346)

Results (Thai) 3:

กรัมชี่คือเจ้าอุดมการณ์และความต้านทาน
- อันโตนิโอ กรัมชี่ ( 1971 ) ซึ่งนีโอมาร์กซิสต์ มองคนดิ้นรนจากจุดของมุมมองอุดมการณ์
.
- เขาได้สร้างแนวคิดของเจ้าโลก ( อุดมการณ์เด่นหรือภาวะผู้นำเชิงวัฒนธรรม ) และ
แย้งว่าชนชั้นปกครองพนักงานไม่เพียง แต่ร่างกาย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์
( ideologically )
- แรกกรัมชี่ถือว่าบทเรียนย่อยยังยอมรับความคิดเจ้านั่น
ได้รับจากข้างต้น = " อุดมการณ์เอกฉันท์ "
2
- สอง กรัมชี่ บอกว่า บทเรียนย่อยอาจต่อต้านอุดมการณ์เด่นในการกระทํา

บริการมากกว่าในความคิด นั่นคือ ในการกระทำ พวกเขาพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ของวัสดุ ( เช่น ต้องการอาหารมากหรือเงิน )
- ดังนั้น มันดูรุนแรงแต่ในความคิดของตน ( จิต ) ก็ยังเชื่อฟังเด่น

แต่ละชั้นเรียน นี้น้องเรียน ' ความคิดที่เรียกว่า " สหภาพแรงงานสติ " มากกว่า

" ปฏิวัติจิตสำนึก " - " สหภาพแรงงานสติ " หมายถึง ความคิดของคนส่วนใหญ่มาจากเด่น
กลุ่มตัวเอง และจะเพิ่มเติมที่ชื่นชอบสำหรับ การเจรจาต่อรองมากกว่าการปฏิวัติรุนแรง .
- สามกรัมชี่สันนิษฐานว่าลูกน้องชั้นต้องสร้าง counterhegemony ที่จะ
เปลี่ยนสังคม ( Scott 1985 : 346 )