23. Merwin, op. cit., p. 99.24. Ret

23. Merwin, op. cit., p. 99.
24. Retained Earnings is the account which reports the total amount of reinvested earnings and/or
losses of a firm over its entire life. The account is also referred to as Earned Surplus. It should
be noted that the Retained Earnings account is subject to manipulation via corporate quasi-reorganizations
and stock dividend declarations. While these occurrences are not evident in this study it
is conceivable that a bias would be created by a substantial reorganization or stock dividend.
25. In 1965, over 50 per cent of all manufacturing firms that failed did so in the first five years
of their existence. Over 31 per cent failed within three years. Statistics taken from The Failure
Record, Through 1965 (New York: Dun & Bradstreet, Inc., 1966), p. 10.
26. The reciprocal of X4 is the familiar Debt/Equity ratio often used as a measure of financial
leverage. X4 is a slightly modified version of one of the variables used effectively by Fisher in a
study of corporate bond interest rate differentials, see Lawrence Fisher, "Determinants of Risk
Premiums on Corporate Bonds," Journal oj Political Economy, LXVII, No. 3 (June, 1959), pp.
217-237.

Results (Thai) 1:

23. Merwin, op. cit., p. 9924. รายได้เป็นบัญชีที่รายงานยอดรวมของรายได้ และ/หรือขาดทุนของบริษัทมากกว่าชีวิตทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้อ้างถึงบัญชีเป็นส่วนเกินที่ได้รับ ควรบันทึกที่ บัญชีกำไรสะสมจะต้องจัดการผ่าน reorganizations ของบริษัท quasi-และตลาดหลักทรัพย์ประกาศจ่ายเงินปันผล เหตุการณ์เหล่านี้ไม่มีในนี้ ศึกษามีหลากหลายที่จะสร้างความโน้มเอียงที่พบลูกจ้างหรือหุ้นปันผล25. ในปี 1965 กว่าร้อยละ 50 ของบริษัทผู้ผลิตทั้งหมดที่ล้มไม่ได้ใน 5 ปีแรกของการดำรงอยู่ของพวกเขา กว่าร้อยละ 31 ไม่สำเร็จภายใน 3 ปี สถิติที่นำมาจากความล้มเหลวบันทึก ผ่าน 1965 (นิวยอร์ก: Dun & Bradstreet, Inc., 1966), p. 1026.ส่วนกลับของ X 4 มีอัตราส่วนหนี้สิน/ส่วนของผู้คุ้นเคยมักใช้เป็นการวัดทางการเงินยกระดับการ X 4 เป็นรุ่นปรับเปลี่ยนเล็กน้อยของหนึ่งตัวแปรที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟิชเชอร์ในแบบศึกษาระเบียบอัตราดอกเบี้ย differentials ดูลอว์เรนซ์ฟิชเชอร์ "ดีเทอร์มิแนนต์ของความเสี่ยงค่าจ้างพิเศษในแสน สมุด oj เศรษฐศาสตร์ LXVII หมายเลข 3 (มิถุนายน 1959) pp217-237

Results (Thai) 2:

23. เมอร์ลินแย้มยิ้ม ซีไอ. พี 99
24 กำไรสะสมเป็นบัญชีซึ่งรายงานจำนวนของรายได้นำกลับไปลงทุนและ / หรือ
การสูญเสียของ บริษัท มากกว่าชีวิตทั้งหมด บัญชีนอกจากนี้ยังจะเรียกว่าเป็นส่วนเกินที่ได้รับ มันควร
จะตั้งข้อสังเกตว่าบัญชีกำไรสะสมอยู่ภายใต้การจัดการผ่าน reorganizations เสมือนองค์กร
และการประกาศจ่ายหุ้นปันผล ในขณะที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ได้เห็นได้ชัดในการศึกษาครั้งนี้มัน
เป็นไปได้ว่ามีอคติจะถูกสร้างขึ้นโดยการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญหรือหุ้นปันผล.
25 ในปี 1965 กว่าร้อยละ 50 ของการผลิตทุก บริษัท ที่ล้มเหลวในการทำเช่นนั้นห้าปีแรก
ของการดำรงอยู่ของพวกเขา มากกว่าร้อยละ 31 ล้มเหลวภายในสามปี สถิติที่นำมาจากความล้มเหลวใน
การบันทึกผ่าน 1965 (นิวยอร์ก: Dun & Bradstreet, Inc, 1966), หน้า 10.
26 ซึ่งกันและกันของ X4 เป็นหนี้ที่คุ้นเคย / อัตราส่วนทุนมักจะใช้เป็นตัวชี้วัดของการเงิน
งัด X4 เป็นรุ่นแก้ไขเล็กน้อยของหนึ่งในตัวแปรที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพโดยฟิชเชอร์ใน
การศึกษาความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรองค์กรอเรนซ์ฟิชเชอร์เห็น "ปัจจัยความเสี่ยงของ
พรีเมี่ยมในพันธบัตรองค์กร "วารสาร OJ การเมืองเศรษฐกิจ LXVII, ฉบับที่ 3 ( เดือนมิถุนายน 1959), pp ได้.
217-237

Results (Thai) 3:

23 . เมอร์วิ่นเรื่องเดิม , หน้า , 99 .
24 กำไรสะสมเป็นบัญชีที่รายงานยอดเงินนำกลับไปลงทุนกำไรและ / หรือขาดทุนของบริษัท
กว่า ตลอดทั้งชีวิต บัญชีจะยังเรียกว่าได้รับเกิน มันควรจะ
จะสังเกตได้ว่าบัญชีกำไรสะสมอยู่ภายใต้การจัดการโดยองค์กรกึ่งใหม่
และหุ้นปันผลประกาศ .ในขณะที่เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่พบในการศึกษา
เป็นไปได้ว่า อคติ จะถูกสร้างขึ้น โดยการปรับโครงสร้างองค์กรมากหรือหุ้นปันผล
25 ในปี 1965 , มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ล้มเหลวได้ในห้าปีแรก
ของการดำรงอยู่ของพวกเขา กว่า 31 ร้อยละล้มเหลวภายใน 3 ปี สถิติที่บันทึกไว้ความล้มเหลว
ผ่าน 1965 ( นิวยอร์ก :ดัน& Bradstreet ( 1966 ) , หน้า 10 .
26 ส่วนกลับของ X4 เป็นคุ้นเคย หนี้สินต่อทุนอัตราส่วนมักจะใช้เป็นตัวชี้วัดทางการเงิน
leverage x4 คือการแก้ไขเล็กน้อยรุ่นหนึ่งของตัวแปรใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยชาวประมงใน
ศึกษาหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ย differentials เห็นลอเรนซ์ ฟิชเชอร์ " ตัวกำหนดความเสี่ยง
เบี้ยพันธบัตรองค์กร , " วารสารน้ำส้ม lxvii ทางการเมือง , เศรษฐกิจ ,หมายเลข 3 ( มิถุนายน 1959 ) , pp .
217-237 .